เรื่องเล่า ในรั้วมหาลัย


     เรื่องจากสมาชิกพันทิป ของเล่นสีชมพู ผู้ที่สัมผัสถึงวิญญาณได้อยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าเธอมักจะเจอผีอยู่บ่อยครั้ง กลับมาครั้งนี้เธอจะมาเล่าถึงประสบการณ์หลอนเมื่อครั้งที่อยู่ในรั้วมหาลัย และเธอยืนยันว่านี้เป็นเรื่องที่พีคที่สุดในชีวิต ขอบคุณเรื่องราวหลอนๆจากคุณ  ของเล่นสีชมพู ไว้ ณ ที่นี้

     มีคนหลังไมค์มาเยอะมาก ยากให้เราแชร์เรื่องในรั้วมหาลัยของเรา เรื่องนี้เราคิดว่าเป็นเรื่องที่พีคที่สุดในชีวิตเราเลยก็ว่าได้ค่ะ แค่เรานึกถึงเหตุการณ์เพื่อจะเอามาเขียน เราก็ยังรู้สึกไม่อยากเอ่ยถึงมัน  แต่เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เราจะมาแชร์ให้อ่านนะคะ เรื่องนี้อาจจะยาวหน่อยนะ เพราะตั้งแต่เราเข้ามหาลัยแห่งนี้ระยะเวลา 1 ปีกว่าเกือบ 2 ปีเราเจอเหตุการณ์เกี่ยวกับวิญญาณมาตลอด จนกระทั่งเราออกจากมหาลัยแห่งนั้น

    เอาล่ะค่ะ เริ่มเลยละกัน เรื่องมันมีอยู่ว่า เราก็เหมือนเด็กทั่วไปที่ หาที่เรียน หาคณะที่ตัวเองชอบ เราก็แอดมิชชั่น เลือกคณะเลือกมหาลัยที่ตัวเองอยากเรียน ผลปรากฏว่า ติดที่ มช. แต่แม่ไม่ให้ไปค่ะเพราะมันไกล สรุปเราก็ได้เรียนที่มหาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ขอไม่ระบุนะคะ แต่เชื่อว่า ลองอ่านไปสักพักต้องรู้ค่ะว่าที่ไหน ขั้นตอนการลงทะเบียน การรายงานตัว ผ่านไปได้ด้วยดี แรกๆเราก็พักอยู่กับพี่สาวเราได้ประมานอาทิตย์นึง เราก็เริ่มหาหอพักอยู่ใกล้ๆมหาลัย เพราะเหนื่อยกับการเดินทาง ย้อนไปก่อนหน้าที่พี่สาวเรารู้ว่าเราจะเรียนที่นี่ พี่สาวเราก็พูดกับเราด้วยสีหน้าที่กังวลว่า ที พี่พอรู้มาบ้างจากเพื่อนที่เคยเรียนที่นี่ ที่มหาลัยนี้ เรื่องแบบนั้นเยอะมากเลยนะ แกจะไม่เปลี่ยนใจเหรอ แกจะไหวเหรอ เราบอกพี่บีว่า จะอยู่ที่ไหนถ้าจะเจอก็ต้องเจอแหละพี่บี คนในมหาลัยเป็นพันๆคน คงไม่มีหนูที่ดันโชคดีเจออยู่คนเดียวหรอก หนูตัดสินใจแล้วด้วยที่นี่ก็มีคณะที่หนูอยากเรียน ใกล้ที่ที่บีอยู่ด้วย พ่อแม่ก็จะได้ไม่ต้องห่วง อืมๆก็ได้ๆมีอะไรก็เล่าให้พี่ฟังละกันนะ

    หลังจากที่เราตัดสินใจจะย้ายมาอยู่ใกล้ๆมหาลัย เรากับพี่บีก็หาหอพักกัน จนไปเจอหอนึงที่อยู่ใกล้ๆมหาลัยเลยค่ะ หอนี้จะมีห้องว่างอยู่ 2 ห้องติดกัน เราดีใจที่ได้อยู่ที่นี่เพราะห้องก็โอเค ราคาก็ไม่แพงมาก แล้วยังอยู่ใกล้มหาลัยแค่นี้เอง คนดูแลหอพาเราขึ้นไปดูห้องค่ะ ห้องสมมุติว่าเป็นห้อง 304 305 นะคะ ตอนแรกเราจะอยู่ห้อง 304 เพราะห้อง 305 มีไฟอยู่หน้าห้อง เราไม่ชอบที่สว่างๆค่ะ คิดภาพถ้านอนอยู่ในห้องปิดไฟ แต่ข้างนอกไฟสว่างลอดเข้ามาที่ช่องประตูมันแลดูไม่โอเค แต่เจ้าของหอบอกว่า ห้อง 304 มีคนจองไว้แล้ว เราก็โอเค อยู่ห้อง 305 ก็ได้ เราก็ตกลงจ่ายค่ามัดจำ แล้วก็ย้ายของเข้ามาในห้องค่ะ ตอนแรกยังไม่มีอะไรมาก เพราะต้องซื้อใหม่หมด เราก็มีแค่หนังสือ ของใช้ส่วนตัว ที่นอน เราก็จัดห้องตามสไตล์ของเราค่ะ เพราะเราเป็นคนชอบออกแบบ และรู้สึกตื่นเต้นมากกับการมีห้องเป็นของตัวเอง เมื่อข้าวของเข้าที่เข้าทางแล้ว พี่สาวเราก็กลับค่ะ ก่อนกลับนางร้องไห้ด้วยความเป็นห่วงเรา พอพี่สาวเรากลับไป สักพักนางก็โทรมาบอกว่า ที ห้องข้างๆแกมีคนมาอยู่ละนะ หน้าตาดีด้วย ไปทำความรู้จักไว้นะจะได้มีเพื่อน เราก็รับปากไปเพราะไม่อยากให้พี่สาวเป็นห่วง หลังจากวางสาย เราก็จะเดินลงไปหาอะไรกินข้างล่าง เราเดินผ่านห้องนั้น แต่ เอ๊ะ ห้องยังล็อคอยู่นี่นา ไหนพี่บีบอกมีคนมาอยู่แล้วไง เค้าคงลงไปแล้วแหละ เราเดินไปซื้อข้าวกินข้างล่าง ป้าคนขายของอยู่แถวๆตึกถามว่า มาอยู่ใหม่เหรอ ไม่เคยเห็นหน้าเลย เราตอบไปว่า ค่ะพึ่งย้ายมาวันนี้เองค่ะ ป้าเลยพูดต่อว่า อยู่ชั้นไหนกันลูก เราบอกว่า ชั้น 3 ค่ะ อ่อๆป้ามองเราแล้วยิ้ม แล้วก็มองไปยิ้มข้างหลังเรา ประหนึ่งว่าใครยืนอยู่ เราก็พยายามไม่คิดอะไร แต่เรามาสะดุดตรงคำที่ป้าถามว่า อยู่ชั้นไหนกันลูก ถ้าเราคิดไม่ผิด คำถามแบบนี้ใช้ถามคนสองคนขึ้นไป แต่จะเป็นไปได้ยังไง เพราะเรามาคนเดียว

หลังจากซื้อของเสร็จ เราก็เดินขึ้นไปบนห้อง แปลกค่ะ ห้องเรามีธูปที่ ไหม้ไม่หมดดอก หล่นอยู่หน้าประตูเราดอกนึง เราคิดในใจตอนนั้นว่าคงมีคนทำหล่นไว้แหละ เราเก็บเข้าไปทิ้งในห้องเรา เราก็กินข้าวกินขนม เล่นเกมส์ในคอมตามประสาเรา แล้วสักพักนึงเริ่มง่วง เราก็หลับไป เราฝันว่า มีผู้หญิงใส่ชุดนักศึกษาคนนึง เดินเข้ามาในห้องเรา เขายิ้มให้เรา แล้วเดินมาหาเรา นั่งบนเตียงเรา พักนึงเค้าก็เดินไปที่ถังขยะ หยิบธูปขึ้นมาแล้วเดินออกไปค่ะ เราสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะมีเสียงเคาะประตูดังปั้ง!!! เรารีบเดินไปที่ประตูเพราะนึกว่าใครมาเคาะประตูห้อง เราเปิดประตูออกไป เห็นป้าแม่บ้านวิ่งหน้าตาตื่นมาที่เรา แล้วถามว่า หนูเป็นอะไรรึเปล่าลูก เราก็งงกับคำถามของป้าเลยถามว่า มีอะไรมั้ยคะป้า ป้าเลยบอกว่า แกมาทำความสะอาดที่ชั้นที่เราอยู่สักพัก ขณะที่กำลังกวาดบริเวณแถวๆหน้าห้องเรา แกได้ยินเสียงคนร้องไห้ดังมาก สลับกับหัวเราะอยู่ประมาณสองสามครั้ง แกเคาะประตูเรียกเราแต่ไม่มีคนเปิด แกเลยรีบวิ่งไปเรียกยามให้มาดูเรา เราบอกกับป้าไปว่า ป้าได้ยินผิดห้องรึเปล่าคะ หนูนอนหลับอยู่ค่ะป้า  แล้วหนูก็พึ่งสะดุ้งตื่นตอนที่ได้ยินคนมาเคาะประตูเสียงดังนี่แหละค่ะ  ป้าบอกว่าป้าไม่ได้เคาะหนูเสียงดังเลยนะ สงสัยเพื่อนหนูรึเปล่า เพราะตอนที่ป้ากวาดอยู่มีผู้หญิงเดินวนเวียนอยู่หน้าห้องหนู เค้าคงคิดว่าหนูไม่อยู่เลยกลับไปแล้วมั้ง เรานี่ยิ่งงงเลยค่ะ พึ่งตื่นนอนด้วย มึนๆอึนๆไปหมด เราเลยบอกป้าว่า ไม่มีอะไรแล้วค่ะป้า ขอบคุณนะคะ ที่เป็นห่วง ป้าเดิมมาจับที่แขนเราแล้วพูดว่า มีอะไรคุยกับป้าได้นะลูก เราตอบว่า ค่ะป้า ขอบคุณค่ะ แล้วเราก็เข้าห้องมา เรานั่งอยู่หน้าคอม ทบทวนความฝันแล้วรีบวิ่งไปที่ถังขยะ สิ่งที่เห็นคือ ธูปดอกนั้นหายไปค่ะ ใจเรานี่หล่นไปอยู่ที่พื้นเลย รึว่าเราไม่ได้ฝันไป เราสับสนไปหมดเลยค่ะตอนนั้น

     เราพยายามอย่างมากที่จะไม่คิดอะไร คืนนั้น เป็นครั้งแรกที่อยู่คนเดียว นอนคนเดียว ถ้าไม่ติดเรื่องนี้ก็จะไม่กลัวหรอกค่ะ เพราะที่บ้านก็นอนคนเดียวอยู่แล้ว แต่เวลาเจอจะมีพ่อแม่ พี่สาวให้วิ่งไปหา แต่นี่ไม่มีใครเลย เราสวดมนต์ก่อนนอนค่ะ ระหว่างที่สวดมนต์อยู่ คิดถาพตามนะคะ เรานั่งสวดมนต์อยู่ เราเริ่มสวด อะระหัง สัมมาสัมพุธโธ ภควา เรากำลังจะสวดต่อ พุธธัง เราต้องหยุดค่ะ เมื่อได้ยินเสียงก้องเข้ามาในหู อาราหาง สามมา สามพุธโธ ภควา เสียงแบบเย็น ยืดๆ เรานี่ลืมบทสวดเลยค่ะ เลยลองอีกสักรอบ พุธธัง ภควันตัง อภิวาเทมิ ทีนี้ปกติค่ะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราถอนหายใจดึงเฮือก เพราะโล่งใจค่ะ คิดว่าเราคงหูฝาดแน่ๆ(ถึงตอนนี้ยังคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ เพราะถ้าไม่คิดแบบนี้อยู่ไม่ได้แน่ๆ) หลังจากสวดมนต์จบ เราก็ไม่ลืมที่จะแผ่เมตตาค่ะ เรายังพูดต่อท้ายว่า ต่างคนต่างอยู่เถอะนะ อย่ามาทำให้กลัวเลย หนูมาเรียนหนังสือ หนูอยากเรียนให้จบ จะได้ทำงานหาเงินช่วยพ่อแม่ ร่ายาวไปเลยค่ะ  สารพัดที่จะพูด นึกย้อนไปก็ขำตัวเองนะตอนนั้น555 แล้วเราก็นอนสักพักแล้วก็หลับไป ทุกอย่างปกติ จนเช้าวันต่อมา

         กรี๊งงงงง เสียงนาฬิกาปลุก เราก็เลยลุกขึ้นไปอาบน้ำเตรียมตัวไปมหาลัยซึ่งวันนี้มีการรับน้องใหม่ค่ะ เราตื่นเต้นนะ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน พออาบน้ำเสร็จกำลังจะออกมาแต่งตัว คอมเราเปิดอยู่ค่ะ เราก็งงๆว่าเปิดได้ไง ก็ไม่สนใจค่ะ คิดในใจ ต้องทำตัวให้ชินให้ได้ เราต้องทำได้ เพราะจะอยู่อีกี่ปีไม่รู้ คงต้องเจออีกเยอะ เชิดๆเริ่ดๆค่ะ เราเดินไปปิดคอม เมื่อคอมจะปิดลง มันจะดัง ตึ๊ง แล้วหน้าจอจะดับ พอหน้าจอดับพรึ่บ อีความคิดเมื่อกี้ (ต้องทำตัวให้ชินให้ได้ เราต้องทำได้ เพราะจะอยู่อีกี่ปีไม่รู้ คงต้องเจออีกเยอะ เชิดๆเริ่ดๆ) หายไปในพริบตาเลยค่ะ เพราะ เราเห็นผู้หญิงคนนึง เหมือนในฝันเป๊ะ ยืนก้มหน้าอยู่ข้างหลังเรา คือเรามองจากหน้าจอคอมค่ะ มือนึงก็จับผ้าขนหนู ตาก็ค้างมองอยู่แบบนั้น ขาก็ก้าวไม่ออก เราเลยหลับตาค่ะ และแผ่เมตตาในใจ(ทำทุกครั้งเวลาเห็น) ค่อยๆลืมตาขึ้นมาเค้าหายไปแล้วค่ะ เรานี่รีบเลย แต่งตัวจับกระเป๋าได้ออกมาเลยค่ะ หน้าตาไม่ได้แต่ง หัวก็ยังกระเซิงอยู่เลย แต่ไม่สนใจค่ะ เราล๊อคห้องแล้วเดินแบบไม่สนใจอะไรเลยค่ะ แต่รู้สึกเหมือนมีใครเดินตาม แต่ไม่สนใจค่ะ เดินอย่างเดียว 
  
               เมื่อถึงมหาลัย คือตอนนั้นเช้ามาก ตอนแรกกะว่าจะรอใกล้ถึงเวลาก่อนค่อยมา แต่ไม่ไหวค่ะ มาเลยละกัน เรามานั่งรอที่หน้าตึกคณะเราค่ะ เราจะบอกว่าเราเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ตึก 6 เราก็นั่งรออยู่หน้าตึก ก็มีคนมานั่งเหมือนกัน สบายใจละไม่ใช่เราคนเดียวแน่ๆที่มารอ สักพักมีผู้หญิงคนนึงเดินมาหาเรา ถามชื่อเรา เราเลยบอกว่า ชื่อทีนะ เธอล่ะ เขาตอบว่า ชื่อ ออม แค่นั้นแหละค่ะพวกเราก็คุยกันตามประสาน้องใหม่ เมื่อถึงกิจกรรมรับน้องทุกอย่างปกติค่ะ เราทั้งสนุกทั้งเหนื่อยเลย เสร็จเราเลยมานั่งที่หน้าตึกเหมือนเดิม ตอนนั้นก็เย็นๆแล้วแหละ แต่ด้วยความที่ยังไม่อยากกลับห้องไง เราเลยนั่งเล่นอยู่ในมอก่อน ที ยังไม่กลับเหรอ เราหันไปยังต้นเสียง อ้าว ออม นึกว่ากลับไปแล้ว ออมพูดต่อว่า ยังเลย ว่าจะขึ้นรถตู้กลับคิวเยอะมาก ขี้เกียจรอ เราเลยถามออมว่า อ่าวแล้วจะกลับไงอ่ะ ไม่รู้สิ ให้พี่มารับมั้ง เดี๋ยวเราโทรหาพี่เราก่อนนะ ออมจึงเดินไปคุยโทรศัพท์ พักนึงเดินหน้าหงิกกลับมาแล้วบอกว่า เฮ้อ!!พี่เราเนี่ยนะ เห็นผู้ชายดีกว่าน้อง ทีรู้จักห้องรายวันแถวนี้มั่งป่ะ เราเลยถามว่า จะเช่าเหรอ มีเสื้อผ้ามาไง!! ออมบอกว่า มีดิ พึ่งซื้อมาสองชุดเนี่ย นางพูดพร้อมยื่นกระเป๋าให้ดู เราเลยคิดอยู่พักนึง ได้การหล่ะ ชวนไปนอนห้องดีกว่า มีเพื่อนนอนแล้วเราคืนนี้ หึหึ (คิดแผนชั่วร้าย) เราเลยบอกกับออมว่า จะไปเช่าให้เปลืองทำไม อยู่กับเราก็ได้ เราอยู่คนเดียว ออมตอบตกลงแบบไม่ลังเล เราก็ไปที่หอเรากัน ก่อนขึ้นห้อง เรากับออมแวะซื้อขนม แล้วก็ขึ้นไปบนห้อง ระหว่างที่กำลังจะขึ้นบันได เรารู้สึกเหมือนออมเกาะเสื้อเราเราหันไปจะถามออมว่าเป็นอะไร แต่ออมพึ่งก้าวขึ้นบันไดมาค่ะ ในขณะที่เสื้อเราหลุดออกนอกกระโปรงเลยค่ะ เหมือนดึงออก เราคิดในใจว่าคงใช่แน่ๆ แต่เราพยายามแสดงสีหน้าปกติ เพราะเท่าที่มีคนเคยบอกมา ยิ่งเราทำเป็นกลัว มันยิ่งทำให้เราเห็น เราต้องทำตัวให้แข็งแกร่งกว่ามัน (ไม่รู้จะได้ผลรึเปล่าแต่ทำค่ะ เพราะไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ)

         เมื่อเราถึงห้องเราก็เปิดห้องเข้าไปค่ะ เดินเข้าห้องไปออมเอามือปิดจมูกแล้วพูดกับเราว่า ทีแกใช้น้ำอบด้วยเหรอวะ โบราณมากกก เราไม่ได้กลิ่นค่ะ แต่ถ้าจะบอกว่าไม่ได้กลิ่นก็กลัวเพื่อนกลัว เราเลยบอกไปว่า อ๋อ ของแม่อ่ะมันหล่นแตกเมื่อเช้า สงสัยเช็ดแล้วกลิ่นยังไม่หายมั้ง อืมๆออมพยักหน้า พวกเรานั่งกินขนมกันแล้วก็คุยกันหลายเรื่อง จนกระทั่ง ออมพูดขึ้นว่า ทีๆแกเชื่อเรื่องผีมั้ย? เรานี่แบบอึ้งไปพักนึง เพราะไม่คิดว่าจะถามแล้วไม่รู้ว่าจะตอบยังไง จะบอกว่าไม่เชื่อก็ไม่ได้ เจอแทบทุกวัน จะบอกว่าเชื่อก็กลัวเพื่อนว่างมงาย เราเลยตอบไปว่า ก็ไม่ได้ไม่เชื่อนะแกแต่ไม่ลบหลู่ ยังไม่จบออมพูดต่ออีกว่า งั้นแกชอบฟังเรื่องผีมั้ย แกชอบหนังผีมั้ย เราชอบมากเลยนะ แต่เราไม่เคยเจอเลย เฮ้อ!!อยากเจออยู่นะ เราคิดในใจค่ะ อ้าวออม พูดงี้ก็สวยสิ555 พูดยังไม่ทันจบ นางเดินไปเปิดคอมแล้วนั่งกดอะไรอยู่พักนึง นางหันมาหาเรา ที ดูหนังกัน เคๆ

         ออมจัดที่นั่งให้เราเรียบร้อย นางคงชอบดูหนังจริงๆ หนังเริ่มเล่น เราก็มัวแต่ก้มหน้ากดโทรศัพท์ ออมบอกเราว่า ทีดูด้วยกันดูเป็นเพื่อนหน่อย เราเงยหน้าขึ้นมามองหน้าจอคอม อี ยิ้ม!!!! ลัดดาแลนด์ เรานี่ตาค้างเลย เราไม่ค่อยดูหนังผีอยู่แล้ว เพราะไม่จำเป็นต้องดู แต่ด้วยความที่เพื่อนอยากดู เราก็ต้องยอมนั่งดูไปหลับตาไป เป็นเพื่อนออม หนังเล่นไปได้ประมานครึ่งเรื่อง ออมพูดกับเราว่า ที แกรู้สึกเหมือนมีใครจ้องเราอยู่มั้ย เราคิดในใจแล้วว่ายังไงก็ใช่เลยตอบเพื่อนไปว่า ก็ดูหนังผีอ่ะแกก็รู้สึกแบบนี้แหละ เออๆใช่ๆ บรรยากาศสุดๆเลยว่ะแก หลังจากนั้นเราก็ดูหนังกันต่อ ยังไม่ถึง 5 นาที ออมวิ่งไปเปิดไฟ(นางปิดไฟตอนหนังเริ่มเพื่อเอาบรรยากาศ) เมื่อเปิดไฟแล้ว เราหันไปหาออม ออมหน้าซีดมาก เหงื่อแตกเต็มหน้าไปหมด เรารีบถามเพื่อน ออมเป็นอะไร ออมยืนนิ่งเหมือนกลัวอะไรสักอย่าง แล้วบอกเราว่า เมื่อกี้ ตอนที่มะขิ่นโผล่มาเราหลับตาอ่ะที แต่พอเราลืมตามา เราเห็นหน้าผู้หญิงคนนึง จ้องเราอยู่ มันไม่ใช่ในคอมอ่ะที มันอยู่แบบนี้เลย(นางพูดแล้วเอาผ่ามือทาบบนหน้าตัวเอง) ออมตันสั่นมาก เราเลยเดินไปหาออม แล้วพูดกับออมว่า ออมก็ออมดูหนังผีในที่มืดภาพสุดท้ายที่ออมเห็นคือผีมะขิ่นใช่ป่ะ แล้วออมก็หลับตา ลืมตาขึ้นมาภาพมันอาจจะยังติดตาอยู่ก็ได้ อย่าคิดอะไรมากไม่มีไรหรอก ออมค่อยๆใจเย็นลง
       เราพาออมไปนั่งที่เตียง เราเตรียมผ้าขนหนูให้ออมอาบน้ำ ออมเดินเข้าไปอาบน้ำ เรานั่งเขียนไดอารี่อยู่(สมัยนั้นไดอารี่ฮิตมาก อิอิ) ได้ยินเสียงออมพูดว่า ไม่เป็นไรทีเดี๋ยวออมออกไปแต่งตัวข้างนอกก็ได้ เราก็งงสิ แต่ไม่อยากขัดเพื่อน เราแผ่เมตตาตามเคย แล้วพูดว่า อย่ามาทำให้กลัวเลย เรามาเรียน เพื่อนเรามานอนด้วย เราสองคนไม่ได้มาสร้างความเดือดร้อนอะไรให้เลย ต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะ พักนึงเราได้ยินเสียงออมเปิดประตูออกมา เราหันไปหาออม แต่เราต้องผงะเพราะมีคนเดินตามหลังออมมา เราร็สึกผิดมากตอนนั้นไม่น่าชวนเพื่อนมาเลยจริงๆ แปปเดียวเค้าก็หายไป เราบอกออมว่า ถ้าง่วงนอนก่อนเลยนะออม ออมตอบเรามาว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวจะคุยโทรศัพท์กับแฟนรอ เราเลยเดินเข้าไปอาบน้ำ เราอาบน้ำอยู่ ได้ยินเสียงเหมือนคนเคาะประตูห้องเรา ออมเรียกเราแล้วพูดว่า ที เพื่อนมาหารึเปล่า เรารีบบอกออมว่า อย่าเปิดนะ เราไม่มีเพื่อนที่ไหนหรอก เดี๋ยวออกไปเอง เรารีบอาบน้ำเสร็จ เดินออกมา สวนชุดนอนทับ สักพักมีเสียงเคาะอีก เราค่อยๆเดินไปที่ประตูแล้วถามว่า ใครอ่ะ !! เสียงตอบกลับมาว่า พี่บีๆ เฮ้อ!!เราโล่งมากเพราะคิดว่าเอาอีกแล้ว เปิดประตูออกไป โถ่ พี่บีตกใจหมดมาก็ไม่บอก ทำไมไม่เรียกอ่ะ ดูจากตอนนั้นแล้วคงเรียกไม่ได้จริงๆเพราะนางกำลังกินลูกชิ้นอย่างเอร็ดอร่อย เคี้ยวเต็มปากเลย เราชวนพี่บีเข้ามาในห้อง ออมๆนี่พี่บี พี่สาวเรา ออมยกมือไหว้พี่บี แล้วพี่บีก็ไปนั่งคุยกะออม นางเม้าท์มอยกันใหญ่เหมือนสนิทกันมานาน เรานั่งหวีผมอยู่หน้ากระจก แล้วหันไปถามพี่บีว่า มาทำไมมืดค่ำป่านนี้ พี่บีบอกว่า เลิกงานแล้วก็มาเนี่ย ว่าจะโทรบอกโทรศัพท์ไม่มีตัง เออทีแกนี่สนิทกับคนเร็วเนาะ พี่จำไม่ได้ว่าแกอยู่ชั้นไหน สับสนระหว่าง 2-3 เนี่ย พี่เลยยืนคิดพักนึง มีน้องคนนึงเดินมา บอกพี่ว่ารู้จักแกเค้าเลยพาพี่มาเนี่ย แต่แปปเดียวไปไหนแล้วไม่รู้น่าจะเข้าห้องไปแล้วแหละ เพราะเค้าบอกอยู่ห้องข้างๆ เรานี่ทรุดเลย คิดในใจเอาอีกแล้วเหรอ ตกลงเป็นใคร มายังไงเนี่ย โถ่!!ชีวิต เราบอกพี่บีไปว่า ก็คงเคยเห็นหน้าทีแหละมั้ง นอนดีกว่า ง่วงละ พี่บีไปอาบน้ำไป ชุดนอนอยู่ในตู้ หลังจากพี่บีอาบน้ำเสร็จเราก็นอนกันตอนนั้นเราจำได้ว่า เรากังวลมาก ไม่ว่าเรา พี่บี หรือออม จะขยับตัวไปไหน ทำอะไร เรากังวลไปหมด กลัวว่าจะเจออะไรอีก เรานอนตรงกลางออมนอนติดผนังพี่บีนอนขอบเตียงขวามือเรา

         คืนนั้นทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี แต่!!!! เช้ามืด ปกตินาฬิกาจะต้องปลุกเราแต่วันนี้ไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก แต่ได้ยินเสียงพี่บีปลุกเราเราก็ตื่นด้วยอาการงัวเงีย เราลืมตาขึ้นมา พี่บีนอนอยู่ ออมก็นอนหลับอยู่ เราจึงพลิกตัวหันไปหาพี่บี ผู้หญิงคนนั้นค่ะ อีกแล้ววววววว ยืนอยู่ข้างหลังพี่บี(พี่บีหันหน้ามาหาเรา) เราวิ่งเลยค่ะ ไปเปิดไฟ เพราะไม่ไหวแล้ว ทั้งกลัวทั้งโมโหเลยตอนนั้นพี่บีตื่นมาแล้วบอกว่า อะไรวะทีปลุกพี่ไม่ตื่นนี่ถึงกลับต้องเปิดไฟไล่กันเลยเหรอ เรารีบให้พี่บีตื่น แล้วลากให้ไปอาบน้ำ เราเดินไปปลุกออม ออมๆ ตื่นได้แล้ว หื้อออ ออมงัวเงียแต่ก็ตื่น เราเลยถามว่า ใครปิดนาฬิกาปลุก ดีนะเรารู้สึกตัวก่อน(จะบอกว่าพี่บีปลุกก็กลัวเป็นประเด็น เพราะดูจากท่าทาง ไม่ตื่นมาปลุกแน่ๆ) พี่บีเดินออกมาจากห้องน้ำ ได้ยินเราบ่นเรื่องนาฬิกา เลยบอกเราว่า ก็แกแหละตื่นขึ้นมานั่งทำไมดึกดื่น เห็นเดินปิดนาฬิกา เดินไปหยิบนั่นหยิบนี่ทั่วห้องเลย ไม่หลับไม่นอนรึไง เราเงียบ ไม่พูดอะไร ในใจนี่โกรธมาก ว่าจะอะไรนักหนา เริ่มไม่ไหวแล้วนะ พวกเราอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จก็แยกย้ายกันออกจากห้อง พี่บีไปทำงาน เรากับออมไปเรียน เราล็อคห้องแล้วหันไปมองที่ห้อง 304 แล้วคือตอนนั้นไม่รู้อะไรดลใจให้พูดออกมาว่า ยิ้มจะอะไรนักหนา กูไปทำอะไรให้ !@#^%&*#! เราได้ยินเสียงเคาะประตูดังปั้ง ออมกับพี่บีที่เดินไปก่อน หันมามองเรา เราเดินตามพี่บีกับออมไป ในใจก็คิดว่าอยากจะย้ายไปจากที่ตรงนี้ คิดว่าเดี๋ยวจะโทรปรึกษาแม่ เพราะแม่คงเชื่อเรา

              เราเข้าเรียนกันปกติ แต่ใจนึงเราก็ยังคิดอยู่ว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้ ตอนนั้นเราเครียดมาก เช่าห้องอยู่ไม่ถึงเดือน ถ้าเราย้ายออกไปเขาจะตามไปมั้ย แล้วเราจะไปอยู่ไหน ตอนนั้นเราสับสนมากเรียนไม่รู้เรื่องเลย อาจารย์เรียกเราลุกขึ้น ให้เราตอบคำถาม เราก็อึกอักจะตอบได้ไงไม่รู้เรื่องไม่ได้ฟังอะไร เรายืนขึ้น เตรียมจะตอบคำถามครู ดีนะที่มีออมกระซิบอยู่ข้างๆ เราจึงตอบไป แต่ก่อนที่เราจะนั่ง ตาดันมองไปที่มุมห้องด้านหลังสุด เห็นผู้หญิงคนนั้น นั่งก้มหน้าอยู่ เรารีบนั่งลง ออมสะกิดหลังเรา แล้วถามว่า เป็นอะไรดูเหม่อๆนะ เราตอบว่า ไม่เป็นไรเหมือนไม่สบายหน่ะ แล้วทุกอย่างก็ปกติ จนกระทั่ง เราเรียนเสร็จ จะเดินกลับห้อง เราแวะเข้าห้องน้ำที่ ตึกตึกนึงกับออม  เราเข้าไปออมรออยู่ข้างนอก เราทำธุระอยู่ ได้ยินเสียงเปิดน้ำ แล้วก็ปิด เปิดน้ำ แล้วก็ปิด ซ้ำๆอยู่อย่างนั้น เรานึกว่าแม่บ้านหรือคนอื่นๆที่เข้ามาใช้ห้องน้ำ

               หลังจากทำธุระเสร็จ เราเดินออกมาล้างมือส่องกระจกปกติ เราก็ได้ยินอีก ทีนี้เปิดยาวเลย เราเลยมองหาว่ามาจากไหน เราก็เดินดู ปรากฏว่า ทุกห้องไม่มีคนอยู่ แต่ในขณะที่เราเห็นแล้วว่าไม่มีคนอยู่ เสียงน้ำยิ่งไหลแรกกว่าเดิม แล้วก็หยุด ไหลแล้วก็หยุด เราแน่ใจเลยค่ะว่าไม่ใช่เรื่องปกติแน่ เราเลยรีบเดินออกมา เมื่อกำลังเดินออกจากประตูมีผู้หญิงคนนึงเดินสวนเราเข้าไปในห้องน้ำ ท่าทางเค้าเหมือนเจ็บปวดอะไรสักอย่าง หน้าซีด เค้าเดินสวนเข้าไป เรามองตามเค้า เราเห็นเลือดค่อยๆซึม จากทางด้านหลังเค้าจนเยอะมาก เค้างอตัว แล้วหันมาหาเรา เหมือนต้องการให้เราช่วย เรากำลังจะเดินไป ได้ยินเสียงคนเรียก ที มานี่เร็วๆ เราหันไปหาต้นเสียง เห็นออม ยืนอยู่ไกลมากจากห้องน้ำ เราบอกออมมานี่ๆเรากวักมือเรียกแล้วหันกลับมา ผู้หญิงคนนั้นหายไปแล้วค่ะ เราก็ตั้งสติอยู่แปปนึง คิดอยู่แล้วว่าต้องใช่แน่ๆ

               เราเลยรีบเดินไปหาออม ออมมองซ้ายทีขวาทีแล้งรีบลากเราออกจากตึก เราถามออมว่า เป็นไรป่าวออม เราเดินมาไกลจากตรงนั้นแล้ว ออมบอกว่า ตอนเค้ารอแกอ่ะ เค้าก็เล่นเน็ตดูไรไปเรื่อย แต่เค้าชอบเรื่องผีไง เลยเปิดอ่านดูเกี่ยวกับ มหาลัยเรา เจอเยอะแยะเลยแก เราสวนขึ้นว่า ก็คนเล่าต่อๆกันมาทั้งนั้นแหละแก เรื่องก็เกิดมานานแล้วกว่าจะมาถึงเราก็โดนปรุงแต่งมาเยอะแล้วแหละ ออมพูดกับเราอีกว่า แล้วถ้ามันไม่ใช่เรื่องที่เล่าต่อๆกันมา แต่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แบบนี้หล่ะแก ออมยื่นโทรศัพท์ให้เราดู มันเป็นข่าวที่มีนักศึกษายิงกันเสียชีวิต เราอ่านยังไม่ทันจบเราบอกว่า ทุกที่แหละแกอย่าคิดไรมาก ออมรีบพูดต่อว่า แกดูที่เกิดเหตุ เราก็อ่าน ตึก ตึก ตึก ตึก ใจเราเต้นแรงมากเมื่อได้รู้ว่าที่เกิดเหตุ คือห้องน้ำตรงที่เราพึ่งเข้ามา และเจอผู้หญิงคนนั้น เราแทบจะเป็นลม แขนขาอ่อนแรงไปหมด รีบไปนั่งพักตรงที่โต๊ะ เราก็แผ่เมตตาเหมือนเดิม แต่เราไม่เล่าอะไรให้ออมฟังเพราะกลัวเพื่อนจะกลัว

               เรากำลังจะแยกย้ายกันกลับบ้านเราเดินไปส่งออมที่คิวรถตู้ แล้วเราก็เดินไปซื้ออะไรไปกินบนห้อง ตอนนั้นเราเริ่มไม่ไหวแล้วจริงๆ ตอนนั้นคิดว่าคนเราจะสามารถเจออะไรได้ขนาดนี้เลยเหรอ พึงเข้ามาได้ไม่กี่วัน เจอไปแล้ว 2 ตน แล้วมาแบบตายได้ตายจริงๆแต่ละช็อต เราเดินไปถึงหอพัก เจอแม่บ้านกำลังยืนคุยกับยามอยู่ แกถามเราว่า กลับแล้วเหรอหนู แกเดินมาหาเราจับแขนเราแล้วถามด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง เป็นอะไรมั้ยลูกหน้าเครียดเชียว ตอนนั้นเราคิดถึงแม่มากค่ะ น้ำตาเราไหลเลย ป้าชวนเราไปนั่งแถวๆนั้น เราเริ่มเล่าให้ป้าฟังกับเหตุการณ์ที่เจอ ป้าบอกเราว่า ป้าจะไม่บอกหนูนะลูกว่าหอนี้เกิดอะไรขึ้น แต่ป้าคิดว่าที่เค้าตามหนู เพราะหนูเก็บธูปดอกนั้นเข้าไปในห้อง ธูปพวกนั้น ทุกวันเวลาเจ้าของหอเค้ามาจะต้อง ไปที่ห้องนั้นเพื่อทำการเซ่นไหว้ วิญญาณที่อยู่ในห้องนั้นตลอด แต่น้อยคนนะลูกที่จะเจอเหตุการณ์แบบนี้ แล้วเท่าที่หนูเล่าให้ป้าฟังเรื่องที่เจอที่มหาลัย ป้าว่าหนูเป็นคนมีเซ้นส์ เค้าถึงมาให้หนูเห็น เราเลยถามป้าไปว่า หนูคงต้องย้ายอ่ะป้าหนูอยู่ต่อไม่ไหวหรอกแบบนี้ ป้าบอกเราว่า เดี๋ยวป้าจะพาไปไหว้เค้าเอามั้ย เผื่อว่าเค้าจะเลิกตามหนูแล้วมาคุ้มครองหนูแทน เอามั้ย แถวนี้มันหาหอยากนะลูก เราตอบตกลงป้าไปแต่ก็อดที่จะถามไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหอนี้ ป้ายอกว่าเดี๋ยวถึงวันป้าจะบอกนะลูก ป่ะๆป้าไปส่งที่ห้อง แล้วเราก็เดินไปที่ห้องเรากับป้าแม่บ้าน

     เรากับป้าแม่บ้านเดินขึ้นไปบนชั้น 3 ที่เราอยู่เราถามป้าว่า ป้าอยู่ที่นี่มานานแล้วเหรอคะ ป้าตอบเราว่า นานแล้วลูก เกือบ 20 ปีแล้ว เจ้าของที่นี่เค้าดีป้าเลยอยู่ เราจึงเดินไปเรื่อยๆเมื่อถึงหน้าห้องเราป้าบอกว่าเดินมาส่งแค่นี้นะลูก เอ้อ ป้าถามอะไรหน่อยสิ วันนั้นที่ป้าได้ยินเสียงร้องมาจากห้องหนู ไม่ใช่หนูใช่มั้ย เราตอบไปว่าค่ะ ป้าถามต่อว่า แล้วที่ป้าเห็นเดินไปมาหน้าห้องหนูก็ไม่ใช่เพื่อนหนูใช่มั้ย เราตอบไปว่า ค่ะป้า แล้วป้าก็นิ่งแล้วถามต่อว่า แล้วที่ป้าเห็นเดินไปมากับหนูตลอด ก็ไม่ใช่เพื่อนหนูใช่มั้ย เราพูดไม่ออกเลยค่ะ ได้แต่ส่ายหน้า ป้าเอามือมาแตะไหล่เราแล้วพูดว่า เค้าคงอยากมาสื่อสารอะไรกับหนู ป้าก็ไม่เคยเห็นทั้งๆที่ป้าทำบุญทำทาน สวดมนต์เป็นประจำ  แต่อย่าไปกลัวนะลูกเราอยู่ส่วนเราเค้าอยู่ส่วนเค้า ป่ะเค้าห้องไปนอนพักผ่อน ค่ะป้าขอบคุณนะคะ

    ก่อนที่ป้าจะเดินกลับไป ป้าเดินไปเคาะประตูห้องนั้นแล้วพูดว่า อีหนูเอ้ย อย่าไปกวนเค้านะลูก อยากได้อะไรเดี๋ยวป้าทำบุญไปให้ เรารีบเข้าห้องแล้วปิดประตู ตอนนั้นคือระแวงมาก เหมือนคนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เราโทรหาแม่ พูดกับแม่ก็ไม่รู้เรื่อง เราโทรหาพี่สาว ตัดสินใจเล่าให้พี่สาวฟังทั้งหมด เราร้องไห้หนักมาก พี่บีเป็นห่วงเรามากบอกเราว่าเดี๋ยวจะลางานมาหา เราก็โอเค หลังจากวางสายจากพี่บี เราร้องไห้จนเผลอหลับไปเราฝันว่า เราเดินเข้าไปในห้องห้องนึงเป็นห้องโล่งๆ เราเห็นผู้หญิงคนนั้น นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่มุมห้อง  เราเดินเข้าไปหา แล้วถามว่า เธอใช่มั้ยที่คอยมาให้เราเห็น เธอต้องการอะไร เค้าไม่ตอบร้องไห้อย่างเดียวเลย สักพักเค้าไอ แล้วอ้วกออกมาเป็นเลือด เราตกใจมากสะดุ้งตื่นขึ้นมาสงสัยเราหลับไปนาน เพราะตอนตื่นมา ดึกแล้วเราเลยภาวนาว่า ถ้าเป็นเธอจริงๆมาเข้าฝันเราอีกนะ แล้วบอกหน่อยว่าอยากได้อะไร เราไม่ได้ทำให้เธอเดือดร้อน อย่ามาหลอกเราเลย เรากลัว

      สักพักนึง เราไปอาบน้ำ ทุกอย่างปกติ อาบน้ำเสร็จ เรามานั่งเขียนไดอารี่พักนึง แล้วราก็เข้านอน เราฝันอีกว่า เค้ามาบอกเราว่าปวดท้อง ทรมานมาก เค้าตายในห้องนั้น เค้าเหงา เค้าอยากมีเพื่อน เค้าบอกว่าเค้ากับเราเหมือนกันตรงที่ชอบเห็นอะไรแบบนี้ เค้าเหมือนจะพูดต่อ แต่ก็ไม่พูด เราสะดุ้งตื่นเพราะเสียงนาฬิกาปลุก เราก็อาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปมหาลัย มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เราไม่กล้าเปิดกลัวเปิดออกไปแล้วเจอยืนอยู่นี่ช็อคแน่ๆค่ะ มีเสียงเคาะดังขึ้นอีกทีนี้มีเสียงเรียกเรา ทีๆนี่พี่เอง เราโล่งมาก ดีใจด้วยที่พี่บีมาหาแล้ว แต่ก่อนจะเปิดประตูกะมาชะงักอีก เพราะกลัวว่าจะไม่ใช่เสียงพี่บี คิดไปไกลเลยค่ะ( ความกลัวทำให้คนคิดไปได้เยอะมาก555) เราจึงตะโกนถามไปว่า พี่บีจริงป่าว เสียงตอบกลับมาว่า ก็ใช่น่ะสิ เร็วๆซื้อข้าวมาหิวข้าว เราโล่งมากเปิดประตูให้พี่บีเข้ามาแต่ตกใจมากค่ะ เพราะข้างหลังพี่บีมีคนยืนอยู่ ไม่ใช่ผีนะคะ ป้าแม่บ้านค่ะ ยืนยิ้มอยู่ เล่นเอาช็อคเลย

     พี่บีเดินเข้าห้องเราไปพร้อมกับเรียกแม่บ้านเข้าไปด้วย พี่บีหันมาพูดกับเราว่า พี่คุยกับแม่บ้านมา เราต้องทำอะไรสักอย่างนะที เราไปห้องนั้นกันมั้ย คือตอนนั้นเราจำได้ว่าเราไม่ได้พูดอะไรเลย เหมือนแบบ เออๆเอาไงก็เอา พวกเราไปที่ห้องนั้นกัน แม่บ้านเป็นคนเปิดประตูเข้าไปให้ ในห้องนั้น มีข้าวของทุกอย่างอยู่ครบเหมือนมีคนอยู่ ห้องก็ดูสะอาด เราหันไปถามป้าว่า ถูกห้องมั้ยคะป้า ทำไมเหมือนมีคนอยู่เลย ป้าหันมาหาเราว่า ก็มีคนอยู่แหละหนูก็เห็นเค้าไม่ใช่เหรอ เราก็เงียบค่ะไม่พูดอะไรต่อเราเดินไปทั่วๆห้อง รู้สึกตลอดว่ามีใครเดินตาม จนกระทั่งเราเดินไปชนกล่องพลาสติดเหมือนเอาไว้ใส่ยางรัดผมหล่นลงพื้น เราก็นั่งลงเก็บ ตอนที่เรานั่งเก็บอยู่ เราเห็นคนยืนอยู่ขาขาวซีดมาก เราตัดสินใจเงยหน้าขึ้นไปมองเพราะไม่มีอะไรจะน่ากลัวกว่านี้อีกแล้วแหละ จะได้รู้ๆกันไปเลยว่าต้องการอะไร ขณะที่เราเงยหน้าไปมอง เค้าก้มหน้ามามองเราเหมือนกัน ตาเค้าเป็นสีดำไม่มีตาขาว นั่นคือภาพสุดท้ายที่เราจำได้ และเรารู้สึกตัวอีกทีตอนอยู่โรงพยาบาล พี่บีบอกว่าเราอยู่ดีๆก็ชักตาค้างแล้วหมดสติไป

      เรามารู้ทีหลังจากป้าแม่บ้านว่า หอนี้ได้มีการปรับปรุงใหม่ หอเดิมสร้างมานานหลายปีแล้ว มีนักศึกษาคนนึง เป็นคนเงียบๆไม่สุงสิงกับใคร แต่อยู่ดีๆวันนึงก็มีคนไปพบศพเขาที่ห้องนี้ สาเหตุมาจากการกินยาแก้ปวดเกินขนาด ไม่มีใครทราบว่าเพราะอะไรถึงได้ทำแบบนี้ ตอนนั้นทุกคนย้ายออกไปหมดเพราะจะชอบได้ยินคนไอ อ้วก หายใจหอบเหมือนจะขาดใจ ดังลั่นหอพัก เจ้าของหอที่เป็นแม่ของเจ้าของหอคนปัจจุบัน ได้เชิญพระมาสวดไล่ แต่ก็เหมือนเดิม วันนึงนักศึกษาคนนี้ได้ไปเข้าฝันเจ้าของหอคนเก่าว่า ให้เอาข้าวของในห้องเขาไว้เหมือนเดิม ห้ามเอาออกไปไหนแม้แต่ชิ้นเดียว หลังจากนั้น เจ้าของหอก็เอาข้าวเอาน้ำ เอาของเซ่นไหว้มาให้ตลอดแล้วยังสั่งกำชับแม่บ้านให้ทำความสะอาดห้องนี้ทุกวัน และหลังจากนั้นไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลย จนกระทั่งปัจจุบัน ป้าแม่บ้านบอกว่า แกเคยเห็นอยู่ครั้งนึงตอนแกกลับบ้านดึกๆ แกเดินออกมาแล้วมองขึ้นไปที่ระเบียงห้องนั้น แกเห็นนั่งห้อยขาอยู่ที่ระเบียง แต่ด้วยความที่แกเป็นคนมีสติตลอดเวลาแกเลยไม่กลัว แล้วแกยังบอกอีกว่า ที่เราเจอแบบนี้ เพราะ 1 เราเป็นคนเห็นอะไรพวกนี้อยู่แล้ว 2 เราไปหยิบธูปดอกนั้นเข้าห้องเป็นเหมือนการนำทางให้เค้าเข้ามาได้ และ 3 เค้าคงอยากมเพิ่อน

     เราขอฝากทุกคนไว้เป็นอุทาหรณ์นะคะ ว่าหย่าหยิบของที่เกี่ยวกับการไหว้ ทุกอย่างเข้าห้องหรือเข้าที่พักเด็ดขาด (ไม่รวมของเซ่นไหว้นะคะ) เช่น ธูป พวงมาลัยเก่า พวกนี้ และไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ ตอนนั้นเรากับเค้าเป็นเพื่อนกันจริงๆ แต่ไม่ขออธิบายนะคะ จนกระทั่งถึงเวลาที่เค้าหมดเวรหมดกรรมแล้วเค้าต้องไปชดใช้เวรกรรมของเค้า เรากับเค้าเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาตลอด

     เราสรุปในตอนนี้เลยนะคะ ว่าที่เราเคยบอกไว้ว่าเราเสียสติอยู่ปีกว่าๆเกือบ 2 ปี เป็นเพราะเราไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของมหาลัยโดยที่ไม่ได้ตั้งใจค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามมาถึงตอนนี้นะคะ ไว้ว่างๆจะมาอัพกระทู้ใหม่ให้อ่านกัน สวัสดีค่ะ

จากพันทิป เรื่องเล่า ในรั้วมหาลัย
เรื่องโดย ของเล่นสีชมพู

ไม่มีความคิดเห็น