บังเอิญหรือเรื่องจริง (บางแสน)
ประสบการณ์จริงของสมาชิกพันทิปที่ใช้ชื่อว่า SalityGen4 เมื่อเจอดีที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่บางแสน เชิญติดตามเลยว่าเขาเจออะไรกันบ้าง ขอขอบคุณประสบการณ์สยองนี้จากสมาชิกพันทิปที่ใช้ชื่อว่า SalityGen4 ไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า ผมกะแฟนเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องแบบนี้เลย จนมาเจอกับตัวเอง..ทำให้มีคำถามให้คิด
เล่าเลยละกัน..
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเที่ยวบางแสนกะแฟน แล้วเข้าพักที่โรงแรมแห่งนึง
เมื่อถึงเวลาเช็คอินก็เข้าปกติ เหตุการณ์เหมือนจะไม่มีอะไรเลย แต่ดันมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น
เหตุการณ์การณ์แรก : ตอนเข้าห้องครั้งแรก ประตูห้องเป็นแบบสแกน key card เข้า แล้วหมุนปกติ เราก็สแกนแล้วหมุนเปิด แต่..
มันเปิดยังไงก็ไม่ได้ แฟนเลยหงุดหงิดมาลองเปิดดูหน่อยก็ไม่ได้ ผมเลยเคาะประตูก่อนค่อยเปิด อ่าวทีนี้ดันเปิดได้
เหตุการณ์ที่สอง : หลังจากเข้าห้องไป รู้สึกห้องจะกลิ่นอับมากๆ ทั้งๆที่โรงแรมยังดูใหม่อยู่นะหรือเป็นเพราะพื้นเป็นไม้แล้วเพิ่งทำความสะอาดเสร็จ
จากนั้นก็เลยเก็บของเข้าที่ แล้วว่าจะนอนพักซ่ะหน่อย แล้วค่อยจะออกไปหาของกิน พอดีวันนี้มีถนนคนเดินด้วย
แต่ พยายามนอนยังไงก็ไม่หลับ มันรู้สึกอึดอัดไปหมด เลยต้องออกจากห้องไป (หรืออาจจะเป็นเพราะเหนื่อยก็ได้มั้ง) คิดในแง่ดี
เหตุการณ์ที่สาม : พอเดินเล่นๆที่หาดจนค่ำแล้วไปเดินถนนคนเดินต่อ จากนั้นก็ไปสั่งอาหารร้านแถวนั้น คนก็ค่อนข้างเยอะเดินกันเยอะมากๆ
ลูกค้าของร้านก็เยอะมาก
พอสั่งอาหารไป เด็กเสริฟยกจานกะช้อนซ่อมมาสามชุด (เราคิดในใจเอ๊ะ มาสองคนทำไมให้มา 3 ชุด) แต่แฟนนี่ไม่ในใจเลย พูดออกมาเต็มๆ
เรามาสองคนทำไมเขาเอามาให้สามชุด พูดแบบเหมือนยังไม่ได้คิด หรือเพราะเขาหิวก็ไม่รู้ ผมก็เลยพูดไปว่า เขาคงเบลอแล่ะ ลูกค้าเขาเยอะ
มาๆ กินเถอะ (แต่เอาจริงๆในใจก็ยังคิดว่าทำไม)
หลังจากที่กินเสร็จเลยเรียกมาเช็คบิล เลยถามน้องเค้าซ่ะเลย
ผม : น้องๆทำไมถึงจัดจานมาตั้งสามชุดแน่ะไม่ขี้เกียจล้างหรอ (ถามแบบ แซวๆ)
เด็กเสริฟ : ก็ผมเห็นพวกพี่มาสามคนนิ อีกคนนึงไปไหนแล้ว พูดแบบหน้าตาเฉยมากๆ แล้วก็เดินจากผมไป
แฟนผมมองหน้าผมแบบ เหมือนจะร้องไห้เลยอะ ผมก็พูดเข้มๆไปว่า เอ่อน่ะ เขาคงเห็นคนอื่น เขาเข้าใจผิดมั้ง..
เหตุการณ์ที่สี่ : หลังจากที่กลับมาจากถนนคนเดิน พอจอดรถเสร็จ ก็เลยชวนกันเดินเล่นหาดยามเย็นซ่ะหน่อย
แต่ตอนเดินขากลับ แฟนผมดันมองขึ้นไปบนห้องที่โรงแรมแล้วถามผมว่า
แฟน : เธอๆห้องเราห้องไรนะ
ผม : ก็ x02 ไงจำไม่ได้หรอ
แฟน : เอ๊ะเธอมองขึ้นไปดูดิ ถ้าเราอยุ่ x02 มันก็คือห้องที่ 2 จากฝั่งซ้ายใช่มั้ย
ผม: ใช่ๆทำไมเหรอ
แฟน : มือชี้ไปที่ห้องแล้วพูดว่า เธอลืมปิดไฟห้องหรอ ห้องเราเปิดไฟนิ เธอเห็นมั้ย
จากนั้นผมก็มองขึ้นไปนี่งงเลยบวกกะขนลุกด้วย ซึ่งคนสุดท้ายที่ออกห้องคือผม ผมเช็คดีแล้วว่าไฟปิดทุกหลอดแล้วก่อนออกมา ละนี่มันเปิดเองได้ไง
ผมเลยตอบแฟนไปว่า ใช่ๆเค้าลืมปิด (พูดเพื่อไม่ให้เขากลัวเพราะเรื่องอยู่ร้านอาหาร ก็ชวนเขาคุยเรื่องอื่นๆจนลืมๆไปละ)
ซึ่งในใจผมก็คิดในทางที่ดีคือ พนักงานคงไปทำอะไรให้มั้ง แต่...key card อยู่กับผมนะไฟติดได้ไง???
เหตุการณ์ที่ห้า : พอกลับมาถึงห้อง พอแฟนผมหยิบ รีโมทไปเปิด ทีวี ช่องที่กำลังเล่นอยู่เป็นช่องหนังผี
เลื่อนอีกช่องก็หนังผี คืออะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น แต่ดูเหมือนแฟนผมจะไม่ได้ติดใจอะไร ผมเลยพูดว่า เปิดไปช่อง กีฬาดิ แล้วก็นั่งคุยกันเรื่องเรื่อยเปื่อยจนดึกประมาณ เกือบเที่ยงคืน
เนื่องด้วยโรงแรมแถวนั้นเยอะ เสียงจากห้องอื่นๆ เสียงจากร้านเหล้า เสียงจากถนน เยอะแยะเต็มไปหมด
แต่ มีเสียงนึงที่ทำให้ผมสะดุ้ง มันคือเสียงเคาะกระจกที่ดังจากระเบียงห้อง
เสียงเคาะ ป๊อกๆ ป๊อกๆ....
รู้สึกครั้งนี้ผมได้ยินคนเดียว เพราะแฟนยังพูดเรื่องของที่ทำงานเขาเพลินๆอยู่ เสียงนี้ใกล้ผมมาก ไม่น่าจะเป็นห้องอื่นเลย
ห้องผมนี่ล่ะ ผมเลยแกล้งทำเป็นลุกเพื่อไปเปิดม่าน....แต่ไม่เจออะไร (เอ๊ะมันอะไรกัน หรือผมหูฝาด หรือมันมาจากห้องอื่น ทำไมมันเหมือนอยู่ใกล้ๆ)
เหตุการ์ที่หก อันนี้หนักสุด หนักจนทำให้แฟนกะผมแทบนอนไม่ได้ จนทำให้แฟนผมร้องไห้
ช่วงเวลาประมาณ ตีสองครึ่ง ทุกอย่างเงียบสงึด เงียบมากๆ จนผมงงว่า เอ้อบางแสนก็เงียบได้ขนาดนี้หรอ
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เสียง...เสียงสั่นของโทรศัพท์ที่ดังลั่นห้อง แต่...หาที่มาไม่เจอ
ครั้งแรก ตืดดดดดดดดดด ตืดดดดด ยาวๆละดังมากจนทำให้ผมกะแฟนตื่น พอผมเปิดไฟปุ๊บ เสียงดันเงียบลง
จากนั้นผมหยิบโทรศัพท์ตัวเองมาดูบวกกับความง่วง เหนื่อยละคิดในใจ ใครมันโทรมาเวลานี้ฟ่ะ
แต่....ไม่มี ไม่มีอะไรเลย โทรศัพท์ผมไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ ละผมก็หันไปถามแฟน แฟนก็บอกของเค้าก็ไม่มี พลางยกโทรศัพท์มาให้ดู
ซึ่งตอนนั้นมันดึก ง่วง ละเงียบมาก ถามว่าในใจผมคิดเรื่องนั้นมั้ย คือจริงๆคิดแล้ว แต่ไม่พูดอะไรกลัวแฟนกลัวมากกว่า
เลยพูดกะแฟนว่า นอนๆ สงสัยเสียงของห้องอื่นมั้ง แต่ดูจากหน้าตาแฟนตอนนั้นละ มันคงคิดเหมือนกันแต่ก็ต่างพากันนอนต่อ
เรื่องมันไม่จบแค่นั้นอะดิ พอผมปิดไฟ ยังนอนไม่หลับดีเลย มันดังขึ้นมาอีก ดังครั้งนี้แฟนผมโผมากอดผม แบบรู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยุ่
ผมก็ได้แค่ปลอบว่าใจเย็นไม่ต้องกลัว จากนั้นก็เปิดไฟละหาต้นเสียง
แฟนผม พูดพลางชี้มือละร้องไห้ไปด้วยว่า มันดังมาจากตรงนั้น เธอหมายถึงมุมห้องแล้วเธอก็ย้ำว่ามันมาากห้องเรานี่ล่ะเสียงนั้น
แต่คำว่าผียังไม่ออกจากปากเธอกับผม (ดูเหมือนเธอก็รู้ว่าไม่ควรเอ่ยมันขึ้นมา)
ผมทำได้แค่ปลอบเขา ละคิดในใจ เอายังไงดีวะตอนนี้ตีสาม หรือจะกลับกรุงเทพตอนนี้ดี แต่กลับกรุงเทพมันคือขับรถดึกๆเวลานี้
มันใช่หรอกับการเจอเรื่องแบบนี้
ในคืนนั้น เลยทำได้เพียงเปิดไฟทุกหลอดที่มีในห้อง แล้วก็บอกว่ามันเสียงจากห้องอื่นมั้ง พูดไปแต่แนวทางที่ดีๆ ให้กำลังใจทั้งแฟนทั้งตัวผมเอง
จนแฟนหลับไป ซึ่งผมก็หลับเหมือนกันแต่ไม่รู้หลับไปตอนไหน คงหลับไปเพราะความเหนื่อย เพราะตอนเย็นคือเดินมาราธอนมาก
พอตื่นเช้ามา
แฟนผมไม่รอช้าเลย อาบน้ำยังไม่ปิดประตูห้องน้ำเลย พอแต่งตัวเสร็จ
เธอพูดประโยคแรก ใช่แน่ๆมันตามเราไปถนนคนเดินด้วยแน่ๆ ผมก็เลยพูดไปว่า ตามไม่ได้หรอก รถผม ผมไม่ให้ใครขึ้นทั้งนั้น
จากนั้นเธอก็พูดมา มะคืนผีหลอกเราด้วย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นห้องอื่น เสียงมันดังอยู่ใกล้ๆเรานี่
เนื่องด้วยมันคาใจเธอ เธอเลยบอกผมอยู่นี่นะ วางโทรศัพท์ไว้ เค้าจะโทรเข้าเบอร์ของเธอแต่อย่ารับนะ ปล่อยมันสั่นไว้งั้นแล่ะ
จากนั้นเธอก็โทรเข้ามาเบอร์ผม ซึ่งมันก็จริงของเธอ เสียงมันแบบมะคืนเป๊ะ ห้องนี้ชัดๆ
แต่ผมก็ยังพูดในแง่ดี ว่ากลางคืนมันเงียบไง มันเลยอาจจะมาจากห้องอื่นก็ได้
หลังจากนั้นผมกับแฟนก็ Check out แล้วก็กลับมากรุงเทพ ถึงห้องปกติ โดยปล่อยเรื่องนั้นไว้เป็นคำถามต่อไป ว่ามันบังเอิญหรือมันมีจริงๆ
**เรื่องนี้มันไม่เรื่องแต่งขึ้น แต่มันคือเรื่องจริงที่เจอ แต่สิ่งที่เจอมันอาจจะบังเอิญมากๆก็ได้ ผมเลยเอามาแชร์ให้เพื่อนๆอ่านกันดู
เรื่องจากพันทิป บังเอิญหรือเรื่องจริง (บางแสน)
เรื่องโดย สมาชิกพันทิปที่ใช้ชื่อว่า SalityGen4
Post a Comment