“หนึ่ง ห้า สาม สี่”
เรื่องราวที่เด็กทารกแรกเกิดที่ไม่ร้องเลยสักแอะ ความสงสัยเกิดขึ้นเมื่อหลังเธอเกิดเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเธอพูดได้ “หนึ่ง ห้า สาม สี่”............. เรื่อง“หนึ่ง ห้า สาม สี่” โดยสมาชิกพันทิปหมายเลข 5347947 ขอบคุณเรื่องดีๆ ไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ทารกเพศหญิงสุขภาพดี น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ แถมเกิดมาไม่ร้องไห้เลยสักแอะ เพียงแต่เธอคนนี้นี่แหละ ที่ทำให้พวกแพทย์และพยาบาลถึงกับต้องเอามือกุมศีรษะด้วยความงวยงงสงสัย
เธอพูดคำแรกตอนอายุเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
“หนึ่ง ห้า สาม สี่”
ต่อสายตาพยานนับสิบรวมถึงพ่อแม่ของเธอเอง ไม่มีใครรู้ว่ามันหมายถึงอะไร แล้วพัฒนาการของทารกในวัยนี้สามารถทำได้ขนาดนี้เชียวหรือ นับว่าเป็นอีกหนึ่งเคสที่แปลกและน่าฉงนที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในแผนกสูตินรีเวชของโรงพยาบาลแห่งนี้
แน่นอนว่าเมื่อเธอโตขึ้นเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ สิ่งที่เคยพูดไว้ก็ได้ติดตามเธอมา มันกลายเป็นลายมือ ภาพวาด งานเขียน ทุกสิ่งที่เธอใช้ประดับห้อง ตุ๊กตา ของเล่นของใช้ หน้าปกหนังสือนิทาน เธอบรรจงตกแต่งมันด้วยตัวเลขพวกนั้นทั้งสิ้น
“หนึ่ง ห้า สาม สี่… หนึ่ง ห้า สาม สี่… หนึ่ง ห้า สาม สี่… หนึ่ง ห้า สาม สี่… หนึ่ง ห้า สาม สี่…”
พอย่างเข้าสามขวบ เธอก็เริ่มนอนละเมอ ทั้งคืนพ่อกับแม่จะได้ยินเสียงพึมพำดังมาจากห้องนอนลูกสาวคนเดียวของพวกเขา แม่จะไม่ดังจนถึงกับสร้างความรำคาญ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า เด็กคนนี้เธอเป็นอะไรกันแน่ และชุดตัวเลขนั้นมันหมายความว่าอะไร
การตั้งคำถามมีแต่จะยิ่งเพิ่มความสงสัยมากขึ้นไปอีก เพราะเธอจะไม่ยอมพูดถึงมันเลย แม้จะเกลี้ยกล่อมให้ไปพบจิตแพทย์เด็กคนแล้วคนเล่า แต่ก็ไม่มีใครที่สามารถล่วงรู้ถึงความลับภายใต้จิตใจเล็กๆของเธอได้
“หนูจำเป็นต้องทำ มันไม่มีทางอื่นแล้ว”
เธอพูดประโยคนี้ตอนสิบเอ็ดขวบ และนั่นเป็นเบาะแสเดียวที่พวกเขามี เรื่องราวของเธอเริ่มตั้งแต่ตอนเข้าโรงเรียนใหม่ๆ เธอแทบไม่มีเพื่อนเลย วันๆเอาแต่นั่งอยู่คนเดียว เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนรอคอยอะไรบางอย่างอยู่ ครูประจำชั้นเล่าว่าเด็กคนนี้มีพัฒนาการไกลกว่าเพื่อนคนอื่นๆมาก ทั้งกิริยาท่าทาง คำพูด และเนื้อความของงานที่เขียนส่งครูนั้นคล้ายกับผู้ใหญ่ไม่มีผิด
แต่นั่นยังไม่หมด ตั้งแต่เด็กแล้วที่เธอสนใจเกี่ยวกับกุญแจ วิธีการทำงานของมัน ส่วนประกอบต่างๆ ทำไมแม่กุญแจถึงมีลูกได้แค่แบบเดียว การปลดล็อกมันสามารถทำได้อย่างไรบ้าง และที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ เธอขอให้พ่อกับแม่ซื้อชุดสะเดาะกลอนกับกุญแจผีให้ตั้งแต่ก่อนเข้าโรงเรียนเสียอีก
นอกจากนั้น เธอยังมีความสนใจเกี่ยวกับแผงวงจรไฟฟ้าและการเขียนโปรแกรมอิเล็กทรอนิกส์ ลองคิดดูว่าเด็กหญิงอายุแปดขวบเก้าขวบสามารถทำความเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ มันช่างน่าอัศจรรย์และคงเป็นความภาคภูมิใจของพ่อแม่ไม่ใช่น้อย
“หนึ่ง ห้า สาม สี่… หนึ่ง ห้า สาม สี่… หนึ่ง ห้า สาม สี่… หนึ่ง ห้า สาม สี่… หนึ่ง ห้า สาม สี่…”
คืนนั้นเธอพึมพำกับตัวเองมาตลอดทาง พ่อกับแม่กำลังพาเธอไปดูหนังเรื่องแรกในชีวิต เพราะก่อนหน้านั้นเธอไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้โรงหนังเลย ก็ไม่มีใครรู้อีกเหมือนกันว่าทำไม แต่ภายในรถนั่น พวกเขาสังเกตเห็นอาการของลูกสาวตัวเองที่ดูลุกลี้ลุกลนผิดปกติ จนต้องหันมาถาม
“เป็นอะไรรึเปล่าลูก?”
“ไม่ ไม่... หนูแค่ตื่นเต้นน่ะ”
“ถ้าไม่ไหวแม่พากลับได้นะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูแค่ต้องมาดูให้ได้ ก็แค่นั้นเอง”
มันเป็นหนังการ์ตูนสำหรับเด็กเล็ก มีผู้ปกครองพาบุตรหลานเข้ามามากมาย ผู้คนแน่นขนัดจนต้องเพิ่มที่นั่งพิเศษ เด็กสาวกุมกระเป๋าสะพายตัวเองไว้แน่น และยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเป็นช่วงๆ ขณะพ่อกับแม่พาเดินแทรกผ่านฝูงชนเข้าไปยังที่นั่งที่จองไว้
พอหนังฉายไปได้เกือบครึ่งเรื่อง เธอก็ขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำ เพียงแต่เธอไม่ได้มุ่งหน้าไปที่นั่น เธอเดินขึ้นไปยังเก้าอี้แถวบนสุด จากนั้นจึงค่อยๆแอบย่องเข้าไปทางด้านหลัง จนเห็นประตูห้องฉายที่ถูกล็อกเอาไว้อย่างแน่นหนา ทุกคนต่างพากันจดจ่อที่ผืนหน้าจอ ก็เลยไม่มีใครสงสัยว่าเธอเข้าไปทำอะไรตรงนั้น
เธอล้วงมือเข้าไปหยิบชุดสะเดาะกลอนที่พ่อซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด แล้วเลือกกุญแจผีขึ้นมาหนึ่งดอกพร้อมกับอุปกรณ์สำหรับบิดเปิดกุญแจ แม้มือเธอจะสั่นด้วยความตื่นเต้น แต่ก็ใช้เวลาไม่นานก่อนจะเปิดประตูเข้าไปได้ ในห้องนั้นดูเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เธอรู้อยู่แล้วว่าใต้โต๊ะวางของตรงหน้า คือสิ่งที่จะกำหนดชะตาของทุกคนในที่แห่งนี้
ตัวเลขสีแดงบนหน้าจอแสดงผลยังคงเปลี่ยนไปมา บอกเวลา 2:15 2:14 2:13 2:12 และกำลังนับถอยหลังลงเรื่อยๆ การประกาศให้ทุกคนได้รับรู้มีแต่จะสร้างความตื่นตระหนก หรือไม่ก็จะไม่มีใครเชื่อเธอ ไม่ว่าอย่างใดก็คงไม่ทันแน่ๆ เด็กสาวรู้ดีแก่ใจราวกับเป็นบทเรียนในอดีต ตรงด้านล่างของหน้าจอแสดงผลมีแป้นพิมพ์ตัวเลขอยู่ เธอรีบป้อนชุดตัวเลขสี่หลักนั้นลงไป
“หนึ่ง... ห้า... สาม... สี่...”
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เธอถอนหายใจออกมาอย่างแรง ใจนึงนึกเสียดายกับสิ่งที่ได้ทำลงไป ส่วนอีกใจรู้สึกโล่งนิดๆที่อีกเดี๋ยวมันก็จบแล้ว ระเบิดได้ถูกมัดติดไว้กับพื้นและขาโต๊ะ เพิ่งมีกลุ่มคนเอามันมาไว้แค่ไม่กี่นาทีนี้เอง เธอเองก็สู้ไม่ไหวหรอกเพราะพวกนั้นก็พร้อมที่จะตายเช่นกัน และรหัสก็ป้อนได้แค่ครั้งเดียว ถ้ามันไม่ใช่ ก็ไม่มีอะไรหยุดสิ่งนี้ได้อีกแล้ว
ยังพอมีเวลาเหลือนาทีกว่าๆ เด็กสาวเดินตัวปลิวออกมาข้างนอก แล้วมายืนอยู่ที่แถวบนสุดของโรงหนัง มองลงไปเห็นผู้คนมากมายกำลังมีความสุข บ้างก็อมยิ้ม บ้างก็หัวเราะกับมุขในหนัง มันคือช่วงเวลาที่คนในครอบครัวได้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งร่วมกัน นับเป็นคืนวันอาทิตย์ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความอบอุ่น เธอคิดในใจ
ที่ใดสักแห่งท่ามกลางฝูงชนพวกนั้น เธอรู้ว่าพ่อกับแม่กำลังรออยู่ พ่อกับแม่ที่คอยลำบากและอดทนกับสิ่งที่เธอเป็นมาตั้งแต่เด็ก และครั้งนี้ไม่มีอะไรเลยที่เธอสามารถทำได้ เพื่อช่วยคนพวกนั้น
“สัญญาได้มั้ยว่าจะพาผมกับน้องมาดูอีก” เด็กผู้ชายที่นั่งริมขอบพูดกับแม่ของเขาอย่างมีความหวัง มันคอยตอกย้ำถึงภารกิจที่เธอเลือกเกิดมาพร้อมกับมัน พอสิ้นสุดเสียงนั่น แสงสว่างวาบก็พลันปรากฏขึ้น อันเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่หลวง ทุกสิ่งทุกอย่างได้เลือนหายไปจากความทรงจำ คงเหลือไว้แค่เพียงตัวเลข กับความตั้งใจอันแสนเด็ดเดี่ยวของดวงวิญญาณเด็กสาวที่หลุดออกจากร่าง
.
.
.
ทารกเพศหญิงสุขภาพดี น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ แถมเกิดมาไม่ร้องไห้เลยสักแอะ เพียงแต่เธอคนนี้นี่แหละ ที่ทำให้พวกแพทย์และพยาบาลถึงกับต้องเอามือกุมศีรษะด้วยความงวยงงสงสัย
เธอพูดคำแรกตอนอายุเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
“หนึ่ง ห้า สาม ห้า”
จบ…
---
ก็จบไปแล้วนะครับสำหรับเรื่องสั้นเรื่องที่ห้าของผม เรื่องนี้ผมคิดว่าอยากจะลองเปลี่ยนแนวดูบ้าง แต่ก็ยังคงความเชื่อของไทยไว้อย่างเช่นเกี่ยวกับจิตสุดท้ายหรือการระลึกชาติอะไรทำนองนั้นครับ แสดงความคิดเห็น วิจารณ์ ติชมได้เต็มที่นะครับ ขอบพระคุณทุกท่านมากๆครับที่อ่านจนจบ สวัสดีครับ
เรื่องจากพันทิป “หนึ่ง ห้า สาม สี่”
เรื่องโดย สมาชิกหมายเลข 5347947
Post a Comment