ไม่กลัวผีบ้างหรอ (Side Story กลิ่นในที่แคบ)


     "ไม่กลัวผีบ้างหรอ" นิยายตื่นเต้นสยองขวัญ  ประพันธ์โดยสมาชิกพันทิปชื่อว่า macneto โดยเนื้อเรื่องเป็น SIDE STORY เกี่ยวข้องกับเรื่อง  "กลิ่นในที่แคบ"  ขอขอบคุณสมาชิกพันทิปชื่อว่า macneto  สำหรับเรื่องสยองไว้ ณ ที่นี้ด้วย

     หลายๆ ที่ในเมืองหลวงยามค่ำคืน มักจะมีแสงไฟหลากสีสันสาดแสง สร้างความศิวิไลซ์ให้กับมหานคร ที่ผู้คนต่างหลั่งไหล มารวมตัวกันทำให้เมืองดู

เหมือนมีชีวิตชีวา ในที่ ที่มีแสงสี แต่ก็ยังมีมุมมืด กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปในเมืองหลวง

ณ.ป้ายรถเมล์มืดๆ หน้าตึกสูงสามสิบชั้นใจกลางเมือง ป้ายรถเมล์เก่าๆ ที่พอจะมี แสงไฟจากป้ายโฆษณาที่ริบหรี่อยู่บ้าง

บนเก้าอี้นั่งรอรถเมล์ที่ว่างเปล่ายาวออกไป มีเพียงชายแก่คนหนึ่ง ที่ต้องมานั่งรอรถอย่างเดียวดาย

บนถนนในช่วงเวลาตอนตีหนึ่งห้าสิบห้านาที มันไม่มีรถวิ่งมากสักเท่าไหร่ นานๆ ถึงจะมีรถแท็กซี่วิ่งผ่านมาสักคัน

ชายแก่ได้แต่นั่งมองไปที่ถนนอันมืดมิดว่างเปล่าเพื่อรอรถที่จะมารับเขา

ชายหนุ่มผู้เดินมาจากความมืด หยุดเดินตรงที่ป้ายรถเมล์แล้วนั่งลงที่ปลายเก้าอี้ตรงกันข้ามกับชายแก่

“อ่าวพ่อหนุ่ม มารอรถเมล์จะกลับบ้านหรอ ป่านนี้แล้วรถน่าจะหมดแล้วมั้ง”

ชายแก่เริ่มประโยคสนทนากับเพื่อนยามดึกที่มานั่งรอรถเมล์

ชายหนุ่มไม่ได้สนใจอะไรมากนักเขาได้แต่นั่งก้มหน้านิ่งๆ แล้วตอบไปด้วยเสียงที่แหบแห้งในลำคอว่า

“เดี๋ยวผมอาจจะต่อแท็กซี่ไปเอาน่ะลุง”

ชายแก่เริ่มขยับเข้ามาใกล้ๆ เพื่อที่จะพูดคุยกับชายหนุ่มและอยากได้ยินเสียงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ชายหนุ่มยังนิ่งเฉยได้แต่นั่งก้มหน้าอยู่ต่อไป

“พ่อหนุ่มทำงานที่ตึกนี้หรอ”

“อืม...”

ชายหนุ่มก้มหน้าตอบจากเสียงในลำคอ

“ทำงานเลิก ดึกๆ แบบนี้ ไม่กลัว ผี บ้างหรอ ที่บนตึกชั้นดาดฟ้า เห็นเขาว่ามีคนตายอยู่ในแท็งก์ขึ้นอืดอยู่นานเลยล่ะ ผีในแท็งก์น้ำ เฮี้ยนกันน่าดูเลย ใครทำงานที่ตึกนี่นะ ไม่เกินสองทุ่มก็ต้องรีบเผ่นกลับบ้านกันหมด ได้ยินมาว่า รปภ ก็เปลี่ยนกันเข้าออกไปตั้งหลายชุดแล้ว”

ชายหนุ่มได้แต่นั่งก้มหน้านิ่งเงียบไม่พูดอะไร

“แล้วพ่อหนุ่มทำงานอะไรละถึงได้เลิกงานเสียดึกคงทำงานมาหนักมากสินะ ดูสิ ทั้งตัวถึงได้มีแต่เหงื่อชุ่มไปหมด”

ชายหนุ่มเงยหน้ามองเหม่อ ออกไปที่ถนนอันว่างเปล่าแล้วตอบลุงไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาไปว่า

“งานที่ค้างมันเยอะนะลุง ผี.....น่ะฉันไม่กลัวหรอก กลัวอดตายเสียมากกว่า..................แต่ถ้าตายไปเลยก็น่าจะดี ผมเหนื่อยหน่ายกับปัญหาของชีวิตเหลือเกิน ถ้าฆ่าตัวตายไปซะ จะได้พ้นทุกข์ หมดเวรหมดกรรมไปเสียที”

คำตอบของชายหนุ่มทำให้ชายแก่รับรู้ได้ถึงความรู้สึกเศร้าใจและหดหู่

“ฆ่าตัวตายมันไม่ดีหรอกนะมัน บาป หนักมากเลยพ่อหนุ่ม ถ้าตายไปแล้วดวงวิญญาณก็จะไม่ไปไหน ต้องวนเวียนฆ่าตัวตายซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเวลาเดิม ที่ตรงจุดเดิมจนกว่าจะถึงเวลาสิ้นอายุไขที่แท้จริง มันจะยิ่งสร้างกรรมและทุกข์เวทนาให้มากยิ่งขึ้นไปอีก”

เมื่อชายหนุ่มได้ยินดังนั้นมันทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมาได้ แล้วหันไปถามชายแก่ว่า

“แล้วลุงมานั่งรอรถอะไรคนเดียวดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ไม่กลัว ผี บ้างหรอ”

แสงไฟเคลื่อนตัวส่องมาแต่ไกลทำให้รู้ได้ว่ากำลังจะมีรถวิ่งผ่านมา

“นั้นไง รถนั้นมารับลุงแล้ว”

เมื่อสิ้นเสียงคำตอบ ชายแก่ได้เดินออกไปที่ริมฟุตบาท เพื่อจะมารอขึ้นรถ แต่แล้วชายแก่ก็หันกลับมามองชายหนุ่มที่ป้ายรถเมล์

จู่ๆ สิ่งที่ไม่คาด คิดก็เกิดขึ้น!!!!!!!!!!

เมื่อรถเก็บขยะที่วิ่งมาด้วยความเร็วกำลังจะผ่านหน้าป้ายรถเมล์ ชายแก่ก็กระโดด ทิ้งตัวลงบนถนน รถเก็บขยะที่วิ่งมาด้วยความเร็วก็ทับร่างชายแก่ ล้อข้างหนึ่งทับเข้าศีรษะ ส่วนล้อหลังก็ยังมาวิ่งทับ ซ้ำเข้าให้ที่กลางลำตัว ทำให้ลำตัวขาดครึ่ง เลือดไหลสาดกระเซ็นไปทั่วท้องถนน

“อ๊าก!!!!!!!!!! ช่วยด้วย!!!!!!!! ช่วยด้วย!!!!!! มีคนถูกรถทับ”

ชายหนุ่มได้แต่ร้องตะโกนแหกปากโวยวาย อย่างไร้สติ กับสิ่งที่เขาได้เห็นภาพการกระโดดฆ่าตัวตายอันน่าสยดสยองของชายแก่ จน รปภ. ที่อยู่แถวบริเวณหน้าตึกได้ยิน จึงรีบเข้ามาดูและช่วยประคอง เรียกสติให้ชายหนุ่มกลับมา แต่เมื่อสติที่ถูกเรียกกลับมาแล้ว เขากลับพบว่าบนท้องถนนที่เขาเห็นอยู่นั้นมีแต่ความว่างเปล่าไม่มีร่างของชายแก่แต่อย่างใด ชายหนุ่มได้แต่งุนงงและสงสัยพยายามที่อยากจะหาคำตอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

“ลุงเขากระโดดให้รถทับตัวเองตาย เพื่อหวังเอาเงินประกันน่ะ แกเคยเป็น รปภ อยู่ที่ตึกเราเอง หลายต่อหลายคนแล้วที่เจอแกเวลานี้ จนไม่มีใครกล้ามานั่งรอรถที่ป้ายนี้หรอก”

ชายหนุ่มได้ยินคำตอบจาก รปภ จึงได้หายสงสัยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเอง

ลิฟต์เสียใช้งานไม่ได้อีกแล้ว หญิงวัยกลางคนรู้สึกเซ็งเล็กน้อย เลิกOT.มาแล้วก็อยากจะรีบกลับบ้าน เธอต้องเดินลงทางบันไดหนีไฟจากชั้นที่สามสิบ เพื่อที่จะออกจากตัวตึก

ตลอดทางเดินลงบันไดหนีไฟกว่าสามสิบชั้น มันทั้งร้อนอบอ้าว เมื่อเดินมาถึงชั้นล่างสุดที่ประตูทางออกเหงื่อจึงไหลท่วมตัวไปหมด เธอเดินออกไปจากตึก เพื่อที่จะหารถแท็กซี่ต่อกลับบ้าน เหลือบไปเห็นชายคนหนึ่งนั่งรอรถอยู่ที่ป้าย เธอเดินไปและหยุดนั่งก้มหน้ามองไปที่นาฬิกาข้อมือ ตอนนี้มันเป็นเวลาเท่าไหร่แล้ว

มันเป็นเวลา ตี หนึ่งห้าสิบห้า

“อ่าวแม่หนู มารอรถเมล์จะกลับบ้านหรอ ดึกป่านนี้แล้วรถน่าจะหมดไปแล้วมั้ง”

ติดตาม SIDE STORY ภาคต่อ ที่มีเรื่องราวเชื่อมโยงกันได้ในเรื่อง  "บัตรพนักงาน"

ซีรี่ กลิ่นในที่แคบ
ตอน1 กลิ่นในที่แคบ 
ตอน2 ไม่กลัวผีบ้างหรอ (Side Story กลิ่นในที่แคบ)
ตอน3 บัตรพนักงาน (SIDE STORY กลิ่นในที่แคบ)
ตอน4 กลิ่นแรก (SIDE STORY กลิ่นในที่แคบ)

เรื่องจากพันทิป ไม่กลัวผีบ้างหรอ (Side Story กลิ่นในที่แคบ)
เรื่องโดย macneto

ไม่มีความคิดเห็น