เรื่องสยองของบ้านป่า "กระจกของคุณทวด"


     เรื่องสั้นสุดสยองจากสมาชิกพันทิปหมายเลข 4743149 หรือในนาม เสียงนกแสก ที่ขอขอบคุณเรื่องราวสยองและขออนุญาตนำมาเผยแพร่ ณ ที่นี้ด้วย และอย่าลืมติดตามผลงานของเขากันต่อไป

 ของทุกชิ้นมีเรื่องเล่า มีเจ้าของ มีประวัติ แต่ของบางชิ้นเราก็ไม่ควรที่จะรู้ประวัติมันเท่าไหร่นัก
 
                  ฉันและครอบครัวได้รับข่าวร้ายจากป้าน้อย ผู้เป็นพี่สาวของแม่ ว่าคุณยายได้เสียไปแล้วคุณแม่เสียใจมาก เพราะแม่กับยายสนิทกันมากถ้าไม่ได้มาทำงานในกรุงเทพ ก็ไม่ได้ห่างกัน แม่ของฉันมาทำงานในกรุงเทพและแต่งงานกับพ่อ แต่เราก็ไปหาคุณยายอยู่ตลอดอย่างน้อยเดือนละครั้ง  บ้านคุณยาย
อยู่ทางภาคเหนือ เวลาไปหาคุณยายเราจะนั่งเครื่องบินไปแล้วป้าน้อยจะมารับ ฉันชอบบ้านคุณยายมาก อากาศดี ร่มรื่น ธรรมชาติสวยงามตามแบบบ้านไร่
ป้าน้อยมีสามีชื่อว่า ลุงชวน มีลูกชาย 1 คน อายุห่างฉัน 2 ปี ชื่อพี่ชัช เราสนิทกันมาก เมื่อคุณแม่รู้เรื่องเราทุกคนก็รีบมาที่บ้านคุณยาย ครั้งนี้พ่อขับรถมาเอง
เพราะเผื่อได้ใช้รถช่วยงานต่างๆ  งานศพผ่านไปได้ด้วยดี เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย พวกเราก้ต้องไปจัดการกับเรือนของคุณยาย เรือนของคุณยายเป็นเรือนไม้เก่าของครวบครัว ป้าได้มาสร้างบ้านใหม่อยู่อีกหลัง แยกกันออกมา แต่อยู่ในรั้วเดียวกัน  บ้านเป็นบ้านยกใต้ถุนสูง ไม่ใหญ่โตนักแต่ก็สมฐานะ ขอภรรยาข้าราชการ คุณตาผู้เสียไปก่อนเป็นข้าราชการถึงไม่รวยนักก็พอมีพอกินพอคุณตาเสียแม่ที่เรียนสูงกว่าป้าจึงมีหน้าที่ทำงานเลี้ยงครอบครัว แต่พอป้าแต่งงานลุงชวนมีที่ทางบ้าง ป้าจึงลงทุนทำสวนผลไม้และดอกไม้ ผลคือได้กำไลดีเลยทีเดียว หลังจากแม่แต่งงานแม่จึงไม่ต้องส่งเงินมาที่บ้านอีก พวกเราก็เก็บของคุณยาย อะไรใช้ได้ก็เอาไว้ใช้ อะไรเก็บได้ก็เก็บ คุณยายมีสมบัติมากเลยทีเดียว แต่บางอย่าก็เป็นโบราณวัสถุไปแล้วก็มี ลุงชวนแกก้จะเอาไปใส่ตู้โชว์ที่เรือนใหญ่ จนกระทั้งเหลืออีก 1 ห้องเป็นห้องที่ยายไม่เคยให้ใครเข้าไปแม่กับป้า ก็ไม่เคยได้เข้า ยายบอกว่าเป็นห้องของทวด ตอนนี้เป็นห้องพระ แต่ในเมื่อตอนนี้ยายไม่อยู่แล้วถ้าไม่เก็บหรือทำความสะอาดเลยห้องนั้นก็คงไม่ต่างจากห้องผีสิง แม่พุดกับป้าที่ตอนแรกจะไม่เข้าไปสำรวจ  ห้องนั้นมีแม่กุญแจตัวโตคล้องไว้
ทุกคนจึงต้องหาลูกกุญแจของห้องนี้ก่อน ตามคำสั่งของแม่และป้า ในที่สุดพี่ชัชก็เจอ แม่ไม่รอช้ารีบเปิดประตุทันที่ ฉันว่าแม่ของฉันมีท่าทางที่รีบร้อนยังไงไม่รู้ ตั้งแต่ตอนหากุญแจแล้ว แม่บ่นตลอดที่เราหาไม่เจอ เดินวนไปวนมา พอเปิดประตูได้ ในห้องนั้นก็ไม่ต่างจากห้องเก็บของ ไม่ได้เป้นห้องนอนไม่ได้เป็นห้องพระตามที่ยายบอก ของเก่สาเยอะมากมีกำปั่น หลายกำปั่น มีหัวเตียงเก่า และที่สะดุดตาคือ กระจกบานใหญ่ สูงเท่าคน กรอบทำจากไม้ติดกระจกและพลอยสวยมาก และแทบไม่มีฝุ่นจับที่กระจกเลย แม่เดินไปรอบๆจากนั้นก้หน้ามืดเป็นลมไป ทุกคนตกใจมากช่วยปฐมพยาบาลแม่จนฟื้น แม่ก้ถามพวกเราว่า มีอะไรกัน แม่เป็นอะไร และที่น่าแปลกคือแม่ถามป้าว่า อ้าว พี่จะเก็บห้องนั้นด้วยหรอ  ทั้งๆที่แม่เองเป็นคนบอกให้เปิด แต่พวดเราก็ไม่ได้พูดอะไรเห็นแม่หน้าซีดๆ จึงให้แม่ไปพักก่อน โดยมีป้าตามไปดูด้วย ส่วนพวกเราก็กลับมาจัดการกับห้องคุณทวดต่อ

เมื่อฉันพิจารณาห้องนี้แล้ว ก็ไม่มีอะไรผิดปกติแต่อย่างได้ ที่ยายห้ามเข้าก็คงเพราะเป็นห้องเก็บสมบัติ เพราะมีกำปั่นอยู่หลายกำปั่น ข้าวของเครื่องใช้ดูมีราคาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นหัวเตียงไม้ลายเคลือวัลย์  ตู้เสื้อผ้าเก่าฝังมุก ของทุกชิ้นฝุ่นจับเป็นหนาไต กำปั่นทุกกำปั่นถูกยกออกมา เช็ดและก็เปิดดูก็มีแต่พวกพาน พวกสลุงเงิน ปิ่นปักผมอะไรแบบนี้ ราคาก็มากอักโขเลยทีเดียว  พวกเราปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรกับของพวกนี้คงต้องคุยกันอีกที ในที่สุดก็มาถึง กระจกบานใหญ่กรอบไม้แกะลายเคลือวัลย์ สลับกับลายดอกพุดตาน ด้านบนเป็นลายเทพพนม สวยมาก เนื้อไม้นี้เป็นเนื้อเดียวกับหัวเตียงและตู้เก่านั่น ลุงชวนแกว่าคงเป็นไม้ต้นเดียวกัน และช่างเดียวกันแน่ๆ แต่เราก็แปลกใจนะว่า บ้านเราไม่ได้ยากจนแต่ก็ไม่ใช่ผู้ลากมากดีอะไร ของพวกนี้น่าจะเป็นของเจ้านายซะมากกว่าที่จะมาอยู่ในบ้านของข้าราชการแบบนี้  เราก็ยกกระจกนั้นออกมาจากห้องทำความสะอาด  ในเวลาเดียวกันที่แม่ฉันเดินขึ้นมาบนเรือนฉันถามแม่ว่าดีขึ้นแล้วหรอแม่บอกว่าดีขึ้นแล้วจากนั้น แม่ก็ไปยืนหน้ากระจกแล้วบอกกับป้าว่า ฉันขอได้มั้ยพี่ฉันชอบ ป้าก็ว่า ได้สิของตั้งเยอะนี่ยังไม่รู้เลยว่าจะเก็บอย่างไร แล้วกำปั่นพวกนี้ละเอาจะเอาไปด้วยเลยมันแบ่งๆกัน แต่แม่ตอบว่า " ไม่เอาไปทำไมพี่เก็บไว้เถอะหรือเอาไปขายเอาไปบริจาคก็ได้ ถ้าขายก็ค่อยมาคุยกันว่ารายได้แล้วกัน ฉันจะขอแต่กระจกบานนี้บานเดียว" ในควมคิดฉันมันก็สวยดีนะแต่มันจะไม่สวยตรงที่แม่นี่ละดูแปลกๆไป ยืนมอกยืนส่องกระจกอยู่นั่นแหละ  พวกเราก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักเพราะเวลาแม่อยากได้อะไรก้เป็นแบบนี้ แต่ก็อดไม่ได้ที่ฉันจะสงสัยแม่ไม่เคยชอบของเก่า กำไลที่ยายให้แม่ก็ไม่เคยใส่บอกว่ามันเชย พวกเรารวบรวมของต่างๆไปไว้ที่บ้านใหญ่ ส่วนเรือนนี้ลุงกับป้ากะว่าจะทำเป็นโรงแรม ปรับนิดแต่งหน่อยก็คุงไม่น่ากลัว ห้องคุณยายก็ทำเป็นออฟฟิตหรือห้องพักของพวกเราก็ได้ เรื่อนนี้มี 5 ห้อง คงทำเป็นโรงแรมให้เข้าพักได้ 4 ห้อง นั่นล่ะ และอาจจะสร้างห้องพักเพิ่มมาอีกสัก 5-6 ห้อง ป้าคุยกับแม่ว่าจะให้ฉันมาช่วยดูโรงแรมด้วยเนื่องจากฉันกำลังจะเรียนจบพอดี น่าจะกลางๆปีหน้า พอพวกเราเสร็จธุระทุกอย่างที่บ้านยาย ก็ขอลากลับ แม่เอากระจกส่งมาก่อนหน้านี้แล้ว เรามาถึงได้ 1 วัน กระจกก็มาส่งพอดี แม่จัดแจงเอามันไปไว้ในห้องนอนของท่าน กระจกตอนนี้สวยมากจริงๆ พ่อทาแชล็ค ติดกระจกสีที่ประดับกรอบที่มันหลุดออก มันสวยมาก สมบูรณ์มาก พ่อบอกว่า ไม้น่าจะเป็นสักทอง ที่สำคัญกระจกเงานั้นมันใสมากเกินกว่าจะเป็นของเก่า กรอบไม้ที่สมบูรณ์มีเพียงกระจกสีที่หลุดออกบ้างเล็กน้อยเท่านั้น แม่ชอบมันมากแต่มันก็สวยจริงๆละ พี่ชัชโทรมาบอกว่า เขาเอาหัวเตียงเก่านั้นไปติดในห้องสวยมากเลยนะ แต่พี่ชัชน้ำเสียงไม่ดีเลย แกบอกว่านอนไม่ค่อยหลับ เรายังไม่ได้คุยกันต่อพ่อก็เรียกฉันไปทานข้าว พี่ชัชเลยบอกว่าไว้เดี๋ยวมาเล่าแล้วกันไปทานข้าวก่อนเถอะ ตั้งแต่ได้กระจกนี้มาแม่ดูสวยขึ้นอาจเป็นเพราะ แม่แต่งตัวแต่งหน้า แต่แม่เปลี่ยนไปฉันไม่ได้คิดไปเอง  สายตาแม่ดูเปลี่ยนไป  บางทีก็เห็นแม่นั่งเหม่อลอย บางทีก็กลับเป็นปกติ บางทีแม่ก็พูดคำเมือง ทั้งๆที่ปกติถ้าไม่คุยกับป้าหรือยายแม่ก็ไม่พูด วันนึงฉันฉันเห็นพ่อมานอนที่โซฟา พ่อบอกกับฉันว่าบางคืนแม่ก็มานั่งคุยกับตัวเองในกระจกฟันไม่ได้ศัพท์พูดเบาๆเหมือนกระซิบ พ่อเริ่มกลัวๆแล้วจนต้องลงมานอนที่โซฟา

วามผิดปกติต่างๆ เกิดขึ้นในบ้านของเรา วันนึงฉันเข้าไปทำความสะอาดห้องของแม่ ตอนนั้นพ่อกับแม่ไม่อยู่ ฉันก็ทำความสะอาดที่ต่างๆในห้องตามปกติ จนมาถึงโต๊ะเครื่องแป้ง ทันทีที่ฉันจับที่กระจกบานนั้นเพื่อจะทำความสะอาด ความรู้สึกต่างๆก็เกิดขึ้น  ความรัก ความเศร้า ความหดหู่ ความรู้สึกแน่นในอก ประเดประดังเข้ามาในจิตสำนึกของฉัน เมื่อฉันเงยหน้าจะส่องกระจก ฉันถึงกับผงะหงายหลัง ฉันกรีดร้องสุดเสียง ประจวบกับที่พ่อกับแม่กลับมาพอดี ทั้งสองวิ่งขึ้นมาดู แม่มีท่าทางไม่พอใจนักที่ฉันเข้ามาในห้องทั้งที่เป็นหน้าที่ของฉันแต่ไรมา แม่ว่าจากนี้แม่จะทำความสะอาดห้องเองไม่ต้องมาทำแล้ว แล้วถามว่าฉันเป็นอะไร ฉันลำบากใจมากที่จะพูดจึงบอกไปว่า แมลงสาบ หนูเห็นแมลงสาบ แต่สิ่งที่ฉันเห็นนั้นมันไม่ใช่ เพียงแค่วินาทีเดียวแต่ฉันจำได้ติดตา เงาในกระจกนั้นที่สมควรเป็นเงาของฉัน มันกลับเป็นเงาของใครบางคน ผมดำสนิท ยาว ใบหน้าดำสีเดียวกับผม ตาแดงฉาน ริมฝีปากฉีกยิ้ม น้ำสีแดงไหลเยิ้ม ติดตาฉันมาก ฉันไม่ได้ตาฝาดแน่นอน ใครมันจะไปมันจะไปตาฝาดได้ชัดเจนขนาดนั้น กระจกบานนี้ มีปัญหาแน่นอน ตอนนี้ฉันแทบไม่อยากอยู่บ้านมันน่ากลัว  ยิ่งห้องแม่ยิ่งน่ากลัว พ่อกลับแม่ช่วงหลังๆมาก็มีปากเสียงกันบ่อยมาก จนพ่อต้องย้ายไปนอนห้องรับรองแขก เวลาแม่อยู่ที่ทำงานหรือเวลาที่ไปข้างนอกกับฉันหรือพ่อ แม่ก็เป็นปกติเป็นแม่ที่ฉันคุ้นเคย  มันเป็นบางเวลาเท่านั้นที่พ่อกับฉันจะรู้สึกว่า แม่ไม่ใช่แม่ แม่เป็นอีกคน สายตามันไม่ใช่ อุปนิสัยก็ไม่ใช่  พ่อบอกว่าที่พ่อตัดสินใจมานอนห้องรับรองแขกเพราะ พ่อกลัวกระจกบานนั้น พ่อเลยขอมานอนอีกห้องถ้าแม่ไม่เอามันไปไว้ที่อื่นจนทะเลาะกัน พ่อบอกว่า เรื่องที่พ่อจะเล่าไม่ใช่อยากให้ลุกกลัวแต่พ่อไม่รู้จะพูดกับใคร ที่คืนกลางดึก พ่อจะเห็นแม่มานั่งหวีผมที่หน้ากระจก พ่อก็ไม่คิดอะไร จนวันนึงพ่อตื่นมากลางดึกก็เห็นคนนั่งสางผมที่หน้ากระจก แต่พอมองไปทางแม่นอนแม่กลับนอนอยู่ที่เดิมพ่อเลยเพ่งดูว่าอะไรกันแน่ ภาพที่เห็น ผู้หญิงผมยาว ดำสนิท กับใบหน้าที่ดำไม่แพ้ผม กายท่อนบนไร้สิ่งปกปิดมองจากในกระจกถึงกายนางจะสีดำแต่ก็เห็น ทรวดทรงของสตรีอันสะโอดสะอง กายท่อนล่างนุ่งซิ่งไหมคำ เหมือนกับที่หญิงชาวเหนือชั้นสูงใส่ พ่อรู้เพราะตอนแม่แต่งงานกับพ่อแม่ก็ใส่ซิ่นแบบนี้ ถึงอยู่ในความมืดสลัวแต่ภาพดุจฉายด้วยไฟ ชัดเจนยิ่งนัก ทันทีที่พ่อตั้งสติได้ก็กระโดดไปเปิดไป แต่หน้ากระจกไม่มีอะไรเลย คืนนั้นเองที่พ่อกับแม่ทะเลาะกันหนักเรื่องกระจก ฉันตัดสินใจบอกพ่อเรื่องที่ฉันเห็น เราสองคนจึงตัดสินใจที่ต้องแก้นี้กันเอง เพราะแม่คงไม่เห็นด้วย ตอนนี้ถ้ากลับมาบ้านแม่จะอยู่แต่ในห้อง บางวันลางานแล้วก้อยู่แต่ในห้อง กระจกบานนั้นมันมีบางอย่างผิดปกติ  พี่ชัชโทรมา ฉันดีใจมากฉันว่าจะเล่าเรื่องกระจกให้ฟังแต่ ไม่ทันได้อ้าปากพี่ชายของฉันก็ชิงพูดเสียก่อน  บอกว่าเขานอนไม่ค่อยหลับมาเป็นเดือนแล้วตั้งแต่เขาเอวหัวเตียงมาใว้ในห้อง  เขาฝันเห็นหญิงสาวคนนึง ผมยาวดำสนิท ตัดกับสีผิวที่ขาวเหมือนกับกระดาษถ่ายเอกสาาร ฝันซ้ำๆกันยิ่งวันโกนนี่ยิ่งหนัก ฝันว่าเธอคนนั้นชวนไปอยู่ด้วย เขาจำได้ติดตา ตอนนี้ลุงฉันเอาหัวเตียงออกไปแล้ว พี่ชายฉันก็ดีขึ้น แต่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่  ฉันเลยเล่าเรื่องที่ฉันเจอให้ฟัง เจอผู้หญิงแต่ไม่ได้ฝันตัวเป็นๆ ในกระจก แต่เธอไม่ได้ผิวขาว ผิวเธอดำยังกะถ่าน เราตกลงกันว่าเราทั้งสองบ้านจะช่วยกันหาคำตอบแต่จตอนนี้ขอเวลาแก้ปัญหาทางนี้ก่อน เมื่อคุยกับพี่ชัชเสร็จ ฉันพูดกับพ่อว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ กระจก หัวเตียง เหลืออีกอย่าง คือ ตู้ใบนั้น ซึ่งตอนนี้อยู่ที่วัด ทำอย่างไรจะเอากระจกออกมาจากห้องนั้นได้ เราตกลงกันว่าจะแอบเอากระจกส่งกลับไปที่บ้านคุญยายก่อน จะเป็นอะไรก็เป็นจะต้องทะเลาะกับแม่แค่ใหนก็ยอมเพียงแค่เรื่องต่างๆ จบลง

สองวันต่อ และแล้วก็ถึงวันที่เราจะทำตามที่คุยกันไว้  วันครบรอบแต่งงานของพ่อกับแม่  พ่อชวนแม่ไปเที่ยวตั้งแต่เช้า พี่ชัชลงมาจากเหนือตั้งแต่เมื่อวานเพราะฉันโทรเรียกมาช่วยขนกระจกกลับ กระจกบานงามถูกขนออกจากห้องของแม่ ขณะที่ขนกระจกลงจากบันไดพ่อโทรมาบอกว่า ให้รีบเอามันออกจากบ้านตอนนี้แม่มีอาการไม่ค่อยดีนัก พ่อบอกว่าแม่ร้องไห้อยากจะกลับบ้านอย่างเดียวเลย ในขณะที่คุยกับพ่ออยู่ฉันก็ได้ยินเสียงใครบางคน แทรกเข้ามา "ฮาบ่าไป๋ ฮาจะอยู่โตยมัน ฮาจะอยู่ตี้นี่" ฉันตกใจมากร้องกรี๊ด พ่อถามว่าเป็นอะไร ฉันก็บอกว่าไม่มีอะไร แค่นี้ก่อนนะพ่อจะรีบเอากระจกนี่ออกไปก่อน กันแม่ไว้ก่อนนะ พ่อคุยกับพ่อเสร็จ ฉันกับพี่ชายก็ช่วยกันยกกระจกที่ตอนนี้แสนจะหนัก มีคนรถที่จ้างมาขนกระจกกลับมาช่วยด้วยเรา 3 คน ช่วยกันยกกระจกแต่มันหนักจริงๆ ตอนนี้เอาออกจากห้องไม่เห้นหนักขนาดนี้ พี่ชัชจึงถอดพระที่คล้องอยู่ที่คอ มาคล้องลงที่บนกรอบกระจกตรงลายเทพพนม และพวกเราจึงลองยกใหม่คราวนี้มันกลับมีน้ำหนักที่เป็นไปตามที่ กระจกบานนึงจะมีได้ พวกเราขนนี่ลุกเกรียว และแล้วรถขนกระจกก็เคลื่อนออกจากหมู่บ้านของเรา โดยมีฉัน พี่ชัช ตามไปส่งกระจกด้วย พ่อโทรมา " ถึงไหนแล้ว ตอนนี้แม่แกโวยวายใหญ่แล้วให้ตามไป พูดแต่ว่า ตามกระจกไป กระจกกรู " พี่ชัชแย่งโทรศัพท์ฉันไปคุย "ชัชนะครับน้า น้าขับไปที่บ้านผมเลยครับน่าจะถึงพร้องกัน พ่อกับแม่เตรียมการไว้แล้ว หรือจะนั่งเครื่องไปก็ได้ ผมจะโทรไปบอกพ่อมารับ"   " ได้ๆ น้าจะนั่งเครื่องไปนะ ขับรถคงไม่ไหวแน่ๆ ขอคุยกับลูกน้าหน่อย "  "พ่อจะพาแม่นั่งเครื่องไป ตอนนี้แม่ดีขึ้นแล้ว พอบอกว่าจะพาไปหากระจกก็สงบลงเลย รีบๆไปนะ พ่อจะไปรอที่โน้น" กระจกถูกขนลงจากรถ ฉันเห็นแม่นั่งอยู่ที่โต๊ะรับแขกในบ้านป้า แม่ไม่มีอาการผิดแปลกอะไร ผิดตรงที่คอของแม่มีพระเหมือนกับที่คล้องอยู่ที่กระจกคล้องอยู่ พ่อบอกว่าป้าเตรียมไว้ให้ กว่าจะคล้องพระได้ก็แทบลมจับ พ่อใส่พระได้แม่แกก้กรีดร้องแล้วก็สลบไปพ่อตกใจมากเลย พอฟื้นขึ้นมาป้าก็เอาน้ำนมต์ให้กิน แม่แกจำอะไรไม่ได้เลย จำได้แต่เรื่องเมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่ทำความสะอาดบ้านยาย ถามว่านี่เรายังไม่กลับอีกหรอ เราจะต้องเรากระจกบานนี้ไปที่วัดตอนนี้เลย ไปกันหมดนี้ทุกคน ตอนนี้หัวเตียงกับตู้อยู่ที่วัดแล้ว ป้ากับลุงของฉันไปเจอบันทึกของยายทวดอยู่ในตู้ที่เอาไปถวายวัด ความในบันทึกเป็นเรื่องที่คุณเทียดเล่าให้คุณทวดฟังความมีว่า คุณเทียดเป็นนางกำนันอยู่ในคุ้มของเจ้านายผู้หนึง เจ้านายผู้นี้ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนักแต่เป็นที่นับหน้าถือตาชาวบ้านรักเป็นอันมาก เนื่องด้วยเป็นคนดีใจบุญสุนทาน มีธิดา 2 องค์ เจ้านางทั้งสองสิริโฉมงามยิ่ง เป็นที่หมายตาของเจ้าชายตามคุ้มและต่างเมือง เจ้านายผู้นี้ยังมีธิดาผู้เกิดกับนางทาสในคุ้ม 1 นาง ความงามนั้นไม่ต่างจากภคินี แต่ที่ผิวกายคมขำและไม่เป็นที่ยอมรับจากผู้ใดนอกจากพี่สาวที่ยอมรับว่านางเป็นน้อง ในบันทึกเล่าว่า ธิดาทั้งสาวมีนิสัยที่ต่างกันมาก ผู้พี่รักศีลกินทานนิ่งสงบ ผู้กลางรักสวยรักงามเอาแต่ใจ ผู้น้องขี้อิจฉายิ่งนักเนื่องด้วยตนไม่เป็นที่รักของเจ้าพ่อ ต่อมาทั้ง 3 นี้มีสวามีคนเดียวกันเพราะการเมือง ภคินีทั้ง 2 สิ้นชีพิตักษัยอย่าปริศนาจากการผูกคอตนเองในเวลาไล่เลี่ยกันที่ต้นไม้ต้นเดียวกัน เจ้านางคนน้องจึงขึ้นเป็นใหญ่แทน นางสั่งให้นำต้นไม้ที่พี่สาวผู้คอตายนั้นมาทำเป็นของ 3 อย่า หัวเตียง กรอบกระจก และตู้เสื้อผ้า แต่อยู่มาวันนึง นางก็กรีดข้อมือตนเองตายหน้ากระจก เจ้านายของเทียดจึงไปขนเอาของในห้องนั้นกลับคุ้มแล้วจะยกให้ใครก้ได้ที่ต้องการเพราะไม่อยากเห็นสิ่งที่เป็นอนุสรณ์ของธิดาทั้งสาวที่จากไป ถึงจะทำเป็นไม่รัก แต่ท่านรักลุกสาวทุกคนเท่ากัน เทียดที่จะขอออกเรือนจึงของของทั้ง 3 มา แต่ก็ไม่สามารถใช้ได้เพราะถูกบางอย่างรังควานจนต้องเก็บจึงเก็บไว้ในห้อง ลงอาคมไว้สั่งห้ามทุกคนเข้า ตั้งแต่นั้นมา   ป้าเล่าให้ฟังว่า คุณยายก็เคยเล่าว่าคุณทวดก็ห้ามเข้าไปยุ่งกับของในห้องนั้น แต่พวกเราก็นึกว่าไม่มีอะไรคงแค่คนแก่หวงของเท่านั้น กาลเวลาผ่านอาคมก็คงจะเสื่อมถอย อีกทั้งเราเข้าไปทำความสะอาด อาจจะทำให้ของศักดิ์สิทธิ์บางอย่างเสื่อมหรือหลุดออกก็ได้ หลองพ่อที่วัดว่า ตู้นั้นไม่มีอะไรแล้วเข้าไปแล้วผู้สูงศักดิ์ที่สิงสู่เขาไม่ยึดติด อีกทั้งบุญมากครั้งเป็นมนุษย์แต่บ่วงกรรมมันพันผูกมาเกิดแล้วบางคนยังไม่ยอมจะปล่อยเพราะริษยาแต่ตอนนี้หลุดพ้นกรรมแล้วล่ะ  แต่หัวเตียงนั้นยังผู้จิตติดกับใครบางคนแค้นคนที่ทำให้นางสิ้นชีวิต ถึงจะล้างแค้นได้แต่จิตอีกอย่างก็ยังผูกนางไว้ จิตแห่งรัก   กระจกบานนั้นมีวิญญาณร้ายกรรมหนักผูกติดอยู่ยังคอยมาอาฆาตผู้อื่น ต้องการของผู้อื่น มันเป็นกรรม หลวงพ่อนำของทุกอย่างไปไว้ที่วัด กรรมของใครก็ต้องรับถ้าไม่ปล่อยวางก็จะถูกขังอยู่อย่างนี้

ปล.เรื่องราวยังไม่จบเพียงแค่นี้โปรดติดตาม

จากพันทิป เรื่องสยองของบ้านป่า "กระจกของคุณทวด"
เรื่องโดย สมาชิกพันทิปหมายเลข 4743149 หรือในนาม เสียงนกแสก

ไม่มีความคิดเห็น