เรื่องสยองของบ้านป่า "เรื่องเล่าจากแม่"
ทุกที่มีเรื่องเล่า ที่บ้านผมก็เหมือนกัน หลากหลายเรื่องที่จะเล่า ต่อไปนี้เป็นเรื่องที่คุณแม่เล่าให้ฟังเมื่อผมยังเด็ก
หมู่บ้านของผมเป็นอยู่ในจังหวัดเล็กๆ แถวอีสานตอนบน ผมมาอยู่ที่หมู่บ้านนี้ตอนผมอายุได้ 2 เดือนก่อนหน้านี้ พ่อและแม่ผมอยู่ที่ กทม. เนื่องจากป้าและลุงของผม เสียชีวิตอย่างกระทันหัน ย่าอยากให้มีคนมาเฝ้าบ้านและเลี้ยงพี่ชายลูกป้า 2 คนที่กำพร้าทั้งพ่อและแม่พร้อมกัน อาชายของผมมาไม่ได้เนื่องจากต้องรักษาเท้าที่โดนไฟลวก เป็นแผลหนักจากการทำงาน พ่อกับแม่จึงต้องลาออกจากงานหอบผมมาอยู่ที่อีสานบ้านเกิดพ่อ บ้านป้าผมซึ่งตอนนี้เป็นบ้านผม ไปแล้ว เป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูง ขึ้นบันใดไปจะเป็นชานพัก ชั้นนี้มีห้องครัว ขึ้นไปอีกพักนึงจะเป็นชานบ้าน ขวามือมีของ 2 ห้อง บ้านทำแบบง่ายๆ ตอนเด็กๆผมจะมีรถช้างเอาขึ้นไปเล่นบนบ้าน เมื่อเราอยู่อีกฝั่งของบ้าน รถมันจะวิ่งไปได้เองถึงกลางชาน เนื่องจากชานบ้านโค้ง แม่บอกว่า ตอนป้ากับลุงเสียเขาเอาศพขึ้นมาบ้านบ้านคนอีสานก่อนเอาศพไปป่าช้าจะนำศพไว้ที่บ้านเพื่อจัดงานศพ พอเอาศพวางลงที่ชานบ้าน ชานมันลั่นและโค้งลง บ้านของญาติทุกคนจะอยู่ในรั้วเดียวกัน ทีบ้านย่าเป็นศูนย์กลางของครอบครัว หลังบ้านผมเป็น ทางดินทรายเล็กๆเป็นทางที่คนเอาไว้เดินไปทุ่งนา ไปตักน้ำที่บ่อท้ายหมู่บ้าน บ้านผมเป็นหลังสุดท้ายของซอยถนนทรายนี้ ทางดินทรายนี้เวลาฝนตดฝกจะกลายเป็นธารน้ำเล็กๆ ไหลลงห้วยที่สุดของทางทราย คนโบราณเชื่อว่า ทางน้ำไหลแบบนี้เป็นทางของวิญญาณ ตรงข้ามหลังบ้านผมเป็นป่าไผ่ใหญ่มาก ถัดจากป่าไผ่นี้ไปเป็นที่ที่คนเอาไม้ไปเผาถ่าน เรื่องแรกที่แม่ผมเล่าให้ฟังเป็นเรื่องของเตาเผาถ่านนี้ละครับ ย่าของผมก็เผาถ่านไว้ที่น่าเหมือนกัน ย่าคนนี้ท่านเป็นพี่สะใภ้ของย่าผม ทุกวันท่านก็จะไปดูเตาเผาถ่านท่านทุกวัน วันนี้ท่านไปทำธุระกลับค่ำ แต่ต้องไปดูเตาเผาถ่านเพราะถ้าแกลบที่หลบเตาเผาถ่านน้อยไปจะทำให้ไฟลุกแรงและไหม้ไม้จนไม่ได้ถ่าน เวลาตอนนั้นตามที่แม่เล่าน่าจะประมาณ 3 ทุ่มกว่า สมัยก่อนทางเส้นนี้มืดจริงจังมาก ท่านก็ถือไฟฉายของท่านเดินไป ดูเตาถ่าน พอเดินผ่านก่อไผ่ไปย่าเล่าให้แม่กับอาลูกสาวท่านว่า เห็นคนเดินนำหน้าไป ท่านก็คิดดีจังมีเพื่อนไปดูเตาเพราะตรงนี้มี 6-7 เตา ย่าก็เรียกให้คนๆนั้นรอ พอไกล้ถึงตัวคนๆนั้น ย่าเห็นเป็นร่างดำทะมึน แต่สิ่งที่น่าสยองที่สุดคือร่างนั้นไม่มีหัว มีคอ แต่ไม่มีหัว ย่าผมตอนนี้อายุก็ 50 เกือบ 60 วิ่งไม่คิดชีวิต ท่านเป็นไข้หัวโกร๋น อยู่เป็นอาทิตย์ เกือบปีกว่าผมจะเต็มหัว ตอนนั้นผม 3 ขวบแล้ว อีกเรื่องกับเตาเผาถ่านนี้ ข้างเตาเผาถ่านมีป่ากล้วย วันนี้แม่ผมจะทำหมดปลีกล้วยก็ต้องไปพอไปตัดปลีมาให้ ห้าโมงเย็นหน้าหนาว ชนบทก็โพล้เพล้ พ่อไปตัดปลีก็เปิดไปกล้วยซึ่งต้นไม่สูงมากหาปลี พ่อก็เห็นคนยืนหันหลังให้ คนๆนั้นเดินลึกเข้าไปในป่ากล้วยพ่อก็ไม่สนใจเปิดหาปลีและก็ตัดใบตองไปให้แม่ พอพ่อจะตัดใบตองกล้วย ก็เห็นคนยืนหันหลังให้แต่เห็นช่วงหน้ากลางหลังถึงเท้าเพราะใบกล้วยบัง พ่อก็เลยเปิดใบกล้วยว่าจะเรียกพอเปิดใบกล้วยออก ก็เห็นคนๆนั้น ไม่มีหัว พ่อไม่รออะไรทั้งสิ้นวิ่งออกจากป่ากล้วย กลับบ้านมาเล่าให้แม่ฟัง ตอนนี้ห้วยนั้นได้กลายเป็นคลองชลประทาน ทางทรายกลายเป็นทางคอนกรีต กอไผ่มีคนมาไถออกแล้วปลูกบ้าน และเตาถ่านนั้นลุงผมอีกคนไปไถออกและปลูกบ้าน ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์แปลกๆอีกตั้งแต่ขุดคลอง และมีคนเข้ามาอยู่ในแถวๆนี้มากขึ้น
น้องผม เกิดได้ 2 ปี พ่อผมกลับจากไต้หวันมาอยู่บ้านอย่างถาวร ลืมบอกไปก่อนหน้านี้พ่อผมไปทำงานไต้หวัน กลับมาพักปีละ 15 วันช่วงธันวาคม ช่วงหน้านาก็ไปทำนา น้องของผมก็เล่นอยุ่ในนา พ่อไถนา แม่เลี้ยงวัวกับผมกว่าจะมาถึงก็เกือบเที่ยง รถไถที่พ่อไถนาอยู่ก็เหวี่ยงหลุดออกจากมือพ่อ รถวิ่งตรงเข้าไปหาน้องผมที่นั่งเล่นโคลนอยู่แถวๆ คันนา แต่พอจะถึงรถไถนั้นก็หักเลี้ยวแล้วก็ชนคันนาพ่อรีบวิ่งเข้าไปดับเครื่องแล้วพาน้องผมขึ้นไปบนเถียงนา ตอนนั้นผทกับแม่ก็เห็นเหตุการณ์ แม่ร้องแทบเป็นลม หน้านาพวกเราจะมานอนที่นา คืนนั้นพ่อฝัน พ่อฝันว่า.....
มาต่อกันครับ
คืนนั้นพ่อของผมฝันว่า มีผู้หญิงสองคนมาหาที่นา มาร้องเรียก อ้ายทิดๆ อยู่ข้างนอกเถียงนา ในฝันพ่อผมก็ลงไปดูจำได้อย่าแม่นยำว่า เป็นผู้หญิง
สองคน นุ่งโจงกระเบนสีดำส่วนอกนุ่งตะเบงมาน สีน้ำตาลเข้ม คนนึงผอมมาก คนนึงอ้วน มาคุยด้วย "อ้ายๆไปเล่นเฮือนน้องบ่ บ่อยู่นำกัน" พ่อผมถามว่าเป็นใครมาจากใหน เขาบอกว่าอยู่ โสกตรงหน้านานี่เอง
โสก แปลว่า โตรก ที่ซึ่งมีร่องเป็นน้ำไหลหรือที่มีช่องทางเดินไปมาได้ เรียก โสก เช่น โสกขุมปูน โสกไผ่ โสกนกเค้า.
ผมต้องขอเล่าให้ฟังก่อน โสกตรงนั้นเป็นโสกข้างทางใหญ่ เรียกว่า โสกสะเบง ได้ชื่อนี้มาเนื่องด้วยแม่บอกว่า เมื่อหลายสิบปีก่อนมีคนเสียชีวิตจะอุบัติเหตุรถเครื่องตกโสก ชื่อ เบง คนเรียกติดปากว่าโสกเบง จนยังไงไม่รู้กลายเป็น โสกสะเบง ตั้งแต่ผมเด็กจนโต ก็มีคนรถตกตายเรื่อยๆ สองสามศพ เป็นผู้ชายทั้งหมด ทำนาอยู่ได้ยินเสียงเบรกลากล้อก็มี ถ้าเราเดินลงโสกนี้ไปเดินเข้าไปประมาณกิโลกว่าผ่านป่าเข้าไปจะถึงป่าช้า กองฟอนเผาผี พื้นที่ป่าสาธารณะนี้ใหญ่พอสมควร กลับมาที่เรื่องของเรา เธอบอกว่ามาจากหมู่บ้านตรงโสก พ่อบอกว่ามีลูกมีเมียแล้ว คนผอมบอกว่า "บักน้อยๆนั้นติ ข่อยมักเด้ข่อยยังหยอกมันอยู่ รถไถนั้นข่อยนิละเฮด ข่อยแค่หยอกบ่ได้เฮดหยัดหยังหลาย" ในฝันพ่อได้ยินก็โมโหไล่ทั้งสองไป พอพ่อออกไปไล่ พ่อก็เหมือนเห็นเงาดำใหญ่ทะมึนตรงต้นต้นบกใหญ่ จากนั้นทั้งสองก็วิ่งหายไป
ตื่นมาตอนเช้าพ่อก็เล่าให้แม่ฟัง แค่นั้นล่ะแม่จับได้รถมอไซขับไปพร้อมมีดอีโต้ ถึงโสก เข้าไปฟันต้นไม้ตะ แม่ผมเป็นคนใจนักเลง นิสัยเหมือนผู้ชายเสียงดัง และปากร้ายเป็นที่สุด ผมก็ได้เลือดแม่มาเต็มๆ แม่ทั้งตัดทั้งด่า "สิมาเอาผัวกูไปติ ปาดทิโถ กล้าดีจั่งได๋มาเฮดลูกกู" ความจริงดด่าแรกกว่านี้นะครับ พอกลับไปก็ไปุพ่อ ว่าถ้าคนพวกนั้นสวยก็คงตายห่าไปแล้ว แล้วก็พากันขนของกลับบ้าน ไปนอนบ้าน แม่ก็ไปเลี้ยงวัวปกติ ในป่านั้นก็ไป คืนนึงวันบุญกฐินของหมู่บ้านแม่ฝันว่า มีผู้ชายผู้หญิงคู่นึง มาหาเป็นคนแก่ หน้าตาสะอาดน่านับถือบอกว่าเป็นนายหมู่บ้านใกล้ๆ จะพาไปเที่ยวหมู่บ้าน พอดีที่หมู่บ้านมีงานบุญ หมุ่บ้านที่แม่ไปนั้นบุญมีการจัดงานดูคึกคัก ตาท่านนึงบอกแม่ว่า พวกเข้าเป็นนายที่นี่ หมู่บ้านนี้มีแต่แม่หม้าย เราดูแลอยู่ ที่พามาเพราะอยากขอโทษที่ลูกบ้านไปทำให้เดือนร้อน แต่พวกเขาไม่กล้าแล้วล่ะ พวกนั้นกลัวลูก มาด่าวันนั้น เวลาที่ลูกเลี้ยงวัวพอได้ยินเสียงพวกเขาก็หลบ แล้ว แม่บอกว่าหมู่บ้านนี้มีบ้านเรือนไม่ต่างจากหมู่บ้านปกติ แต่ดูโบราณกว่า คนในหมู่บ้านแต่งตัวดูสมัยเก่าๆ พอใกล้สว่างท่านทั้งสองก็พามาส่งแล้วก็บอกเลขไว้ สองตัว ไม่น่าเชื่อเลขในความฝันของแม่ มันถูกจริงๆ คนเฒ่าคนแก่เล่าต่อๆว่า ในป่าโสกนั้น เป็นหมู่บ้านแม่หม้าย ไม่เห็นหรือคนตายมีแต่ผู้ชาย เรื่องที่ผมเล่านี้ขึ้นอยุ่กับผู้อ่านจะใช้วิจารณญาณนะครับ แต่ผมเชื่อนะครับผมเชื่อสิ่งที่แม่เล่าครับ
จากพันทิป เรื่องสยองของบ้านป่า "เรื่องเล่าจากแม่"
เรื่องโดย สมาชิกพันทิปหมายเลข 4743149 หรือในนาม เสียงนกแสก
Post a Comment