เจอโดยบังเอิญ
ตำนาน "ผีโพง" มีมายาวนานและสมาชิกพันทิปหมายเลข 1001408 จะมาเล่าเรื่องผีโพงให้ฟังจากประสบการณ์ของคุณตาของเขา ขอขอบคุณเรื่องราวสยองและขออนุญาตนำมาเผยแพร่ ณ ที่นี้ด้วย
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนของคุณตาอีกที
ย้อนหลังไปเมื่อประมาณห้าสิบปีก่อน สมัยเมื่อคุณตาและผองเพื่อนยังวัยรุ่นอยู่
ด้วยความที่ไฟฟ้ายังเป็นของหายากในสมัยนั้น พอตะวันตกดินจึงเหลือแต่ความมืดมืดเข้าปกคลุมหมู่บ้าน
ตอนนั้นสิ่งที่ช่วยบรรเทาความมืดจึงมีแต่แสงจากตะเกียงน้ำมันก๊าดเพียงอย่างเดียว
ตาเล่าว่าตอนนั้นเป็นหน้าฝน ซึ่งหน้าฝนสมัยก่อนหมายถึงฝนจริงๆ ตกทีนึงก็เจ็ดวันสิบวันไม่มีหยุด
แดดนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย ท้องฟ้ามีแต่สีเทากับดำ ฝนตกนานอากาศก็หนาวจนไอออกปาก
บรรดากบเขียดเมื่อได้ฝนต่างพากันร่าเริง ส่งเสียงร้องระงมไปทั่วท้องทุ่ง
ตาว่าช่วงนี้ตอนกลางคืน บรรดาพวกชอบล่ากบล่าเขียดจะพากันออกมาเยอะเป็นพิเศษ
บ้านที่อยู่ติดชายทุ่ง ถ้ามองจากบ้านจะเห็นเป็นแสงสีส้มๆจากตะเกียงคนส่องกบใกล้บ้างไกลบ้าง
แต่ถ้าเห็นเป็นสีแดงๆ เดี๋ยวสว่าง เดี๋ยวหรี่ลง นั่นไม่ใช่แสงไฟจากคนส่องกบ
แต่เป็นแสงจากผีโพง
ผีกึ่งมนุษย์ที่ชอบกินเมือกคาวจากกบเขียดเป็นอาหาร หากสังเกตจากซากกบเขียดที่ตายจากการดูดกินของผีโพง
ขาจะเหยียดยาวผิดปกติ ซึ่งคนแก่มักบอกลูกหลานไม่ให้ไปแตะต้อง
ผีโพงรูปร่างเหมือนคนปกติ ยามกลางวันก็ใช้ชีวิตเช่นคนธรรมดา แต่เมื่อถึงเวลาหากินคือตอนกลางคืน
จะเดินลงบันไดบ้านไปอย่างเงียบเชียบ
เมื่อถึงหัวบันได ก็จะเอาจมูกเช็ดกับหัวบันได
จมูกธรรมดาๆจึงค่อยเปล่งแสงสีแดงๆออกมา
แล้วจึงออกหากินเมือกคาวกบเขียดตามวิสัยต่อไป
ผีชนิดนี้ส่วนใหญ่ไม่ทำร้ายคน มักหลบเลี่ยงการเผชิญหน้าเพราะกลัวคนจำได้
แต่ถ้าหากว่าทำให้มันโกรธ
ว่ากันว่ามันจะเอาก้านกล้วยพุ่งข้ามหลังคาบ้านคนๆนั้น
ด้วยอำนาจพิเศษของมัน จะทำให้คนในบ้านหลังนั้นตายไปทีละคน
ความแปลกของผีโพงเป็นที่เลื่องลือ จนเพื่อนอยากจะเห็นกับตาตัวเองสักครั้ง
ตามประสาวัยคะนอง เพื่อนชวนตาไปด้วยแต่ตาไม่ไป จึงจำต้องฉายเดี่ยวไปคนเดียว
ฝนตกกลางคืนพรำๆ เพื่อนคนนั้นเดินลัดทุ่งอย่างไม่กลัวฟ้ากล้วผี
พอเดินได้สักพักก็เห็นแสงแดงๆริบหรี่ๆที่สงสัยมานาน อยากจะเห็นใกล้ๆสักทีว่ามันจะเป็นยังไง
ผีโพงอยู่ห่างไปสักห้าสิบเมตร แกคิดว่าไกลไป เลยก้มต่ำๆไปแอบอยู่ข้างคันนา
หลังพิงคันนาด้วยความตื่นเต้น แล้วค่อยๆโผล่หัวดูว่าผีโพงถึงไหนแล้ว
แต่พอโผล่หัวขึ้นมาเท่านั้น แสงแดงๆที่ว่ากลับมาอยู่ตรงหน้าพอดี
ห่างกันแค่ศอกเดียวเพียงแค่คันนากั้น ด้วยความตกใจเลยร้องลั่น
"ผีโพงงงงงง!"
คนตกใจ ผีก็ตกใจ คนวิ่งหนีผี ผีก็วิ่งหนีคน
เตลิดเปิดเปิงไปกันคนละทิศละทาง
แกกลับมาเล่าให้ตาฟัง เล่าไปหัวเราะไป
"ไอ้-่า กลัวก็กลัว ขำก็ขำ ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเจอใกล้ขนาดนี้"
ตาว่าหลังจากนั้นเพื่อนแกไม่ไปส่องกบส่องเขียดอยู่พักใหญ่ๆเลย สงสัยกลัวไปจ๊ะเอ๋ผีโพงอีกรอบ
เรื่องจากพันทิป เจอโดยบังเอิญ
เรื่องโดย สมาชิกพันทิปหมายเลข 1001408
Post a Comment