“ความเงียบ”
"หากถามว่าคนหูหนวกได้ยินอะไร คำตอบชัด ๆ ก็คงหนีไม่พ้น
“ความเงียบ”
มันเป็นคำที่คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่งพร่ำบอกลูกชายที่หูหนวกแต่กำเนิด เธอทำทุกวิธีที่จะสอนลูกของเธอให้เข้าใจถึงสิ่งที่เขากำลังเผชิญ เธอเรียนภาษามือ เธอขีดเขียนลงในกระดาษ เธอเอาการ์ตูนให้ลูกดู ทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่ออธิบายว่าสภาวะที่ไม่มีเสียงนั้นเป็นอย่างไร
เด็กชายค่อย ๆ เรียนรู้จากแม่ เขาเชื่อมโยงแนวคิดของ “ความเงียบ” กับสิ่งที่ตนเองได้ยินมาแต่กำเนิด ทั้งสองอย่างนั้นคือสิ่งเดียวกัน หากมีคนถามเขาว่าได้ยินอะไรบ้างไหม เขาก็จะตอบไปอย่างไม่ลังเลว่า
“ความเงียบ”
หลังจากปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมานับครั้งไม่ถ้วน ทำให้ทุก ๆ วันคุณแม่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวัง เธอเก็บเงินก้อนสุดท้ายเอาไว้โดยหวังจะใช้มันรักษาลูกตัวเอง แล้วในที่สุดวันนั้นก็มาถึง วันที่เธอตั้งตารอมาหลายปี วันที่ลูกของเธอจะได้ยินเสียงแม่เป็นครั้งแรก
การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี เด็กชายนอนพักฟื้นอยู่บนเตียง รายล้อมไปด้วยญาติผู้ใหญ่รวมถึงแม่ของเขาเอง ทุกคนกำลังรอให้เขาตื่น เพื่อที่จะได้เห็นปฏิกิริยาของเขาต่อ “เสียง” จากโลกภายนอก
ในห้องนั้นเงียบสนิท เด็กชายลืมตาขึ้นมาช้า ๆ จากนั้นเขาก็มีท่าทีประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่ได้ยินเสียงเป็นครั้งแรก ทุกคนคิดแบบนั้น
แม่ของเขากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอรีบเข้ามากุมมือลูกไว้ ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำออกไปด้วยความปลื้มปิติ
“ลูกแม่…”
เมื่อเห็นแม่ของตนน้ำตาไหล เด็กชายจึงลุกขึ้นมาแล้วโผเข้ากอดเธอ แม้ว่าในตอนนี้เขาจะยังสื่อสารโดยการพูดไม่ได้ แต่เขาก็สามารถรับรู้ได้ว่าแม่ของเขานั้นมีความสุขมากเพียงใด
“ลูกได้ยินเสียงแม่ใช่ไหม?” เธอถามลูกชายด้วยภาษามือ
เขาพยักหน้าตอบ
เวลาล่วงเลยมาจนถึงวันที่เด็กชายจะได้กลับบ้าน ในเช้าวันนั้นสองแม่ลูกจูงมือกันเดินออกมาจากห้องพักฟื้น แต่ทันทีที่ทั้งคู่เดินผ่านแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล เด็กชายกลับหยุดกะทันหัน เขายืนนิ่งอยู่กับที่ก่อนจะค่อย ๆ หลับตาลง ราวกับกำลังตั้งใจฟังเสียงของอะไรสักอย่าง
คนเป็นแม่รู้สึกแปลกใจ จึงยืนรอดูท่าทีของลูกชายตนเองสักพัก เขายืนนิ่งอยู่แบบนั้นพักใหญ่ จากนั้นพอเด็กชายลืมตาขึ้น เธอจึงถามเขาเป็นภาษามือ
“เป็นอะไร?”
“ลองฟังดูสิฮะ เหมือนที่แม่เคยสอนผมเลย” เขายกมือขึ้นทำท่าตอบ
ในตอนนั้นเอง ที่เธอลองตั้งใจฟังเสียงรอบ ๆ ตัว สิ่งที่คุณแม่ได้ยินนั้นเป็นเสียงของแผนกฉุกเฉินในโรงพยาบาลตามปกติ แต่หากตั้งใจฟังดี ๆ จะได้ยินเสียงผู้คนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด รวมทั้งเสียงร้องไห้คร่ำครวญ เสียงโหยหวน ดังแว่วมาตามสายลม มันเป็นเสียงที่ได้ยินแทบทุกครั้งที่เธอมาเยี่ยมลูก เสียงแห่งความโศกเศร้า และความทุกข์ทรมานของมนุษย์ที่มาใช้บริการ ณ ที่แห่งนี้
ไม่ต่างอะไรจากนรกภูมิเลย เธอคิดในใจ ก่อนถามลูกชายไปด้วยความสงสัย
“ลูกได้ยินอะไรเหรอ?”
เด็กชายตอบกลับด้วยท่าทางที่แสดงถึงคำ ๆ หนึ่ง คนเป็นแม่ยังคงจำได้ดี มันเป็นคำที่เธอพร่ำสอนเขามาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ หากแต่ ณ จุดนี้ มันทำให้เธอตระหนักถึงสิ่งที่เขาได้ยินมาโดยตลอดก่อนเข้ารับการผ่าตัด พรสวรรค์ที่ติดตัวเขามาแต่กำเนิด มันคือเสียงที่มีเพียงเขาคนเดียวที่ได้ยิน เสียง ๆ เดียวที่ดังอยู่ในหูของลูกชายคนนี้มานับสิบปี โดยที่เธอไม่อาจรับรู้ได้เลย
เพราะท่าทางภาษามือที่เขาทำนั้น แปลออกมาได้ว่า...
“ความเงียบ”
จบ...
---
ก็จบไปแล้วนะครับสำหรับเรื่องสั้นเรื่องที่สิบหกของผม หวังว่าจะถูกใจกันนะครับ ใครมีข้อคิดเห็นติชมอย่างไรสามารถคอมเมนต์ได้เลยนะครับ ขอบคุณจริง ๆ ที่เข้ามาอ่านจนจบ สวัสดีครับ
เรื่องจากพันทิป “ความเงียบ”
เรื่องโดย สมาชิกพันทิปหมายเลข 5347947
ขอขอบคุณเรื่องราวสยองและขออนุญาตนำมาเผยแพร่ ณ ที่นี้ด้วย
Post a Comment