ผาวิ่งชู้ ตำนานรักที่ร้าวราน
ดึกดื่นคืนนั้น
ชายหนุ่มหญิงสาวใจเต้นไม่เป็นส่ำ
ร้อนรุ่มสุมอก กระวนกระวาย
คนชายบังคับม้าหกแล่นด้วยความร้อนรน
แล้วบอกหญิงคนนั่งซ้อนหลัง มือกอดเอวแน่นนั้นว่า
"นางแอ่นฟ้าเหย อย่ากลัวอันใดเลย
กูพี่จักพาหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียว
ที่เหลียวหลังบ่พบ ที่แลหน้าบ่พาน
หากข้าทหารพ่อเจ้าตามบ่ทันแล้ว
เราสองคงบ่แคล้วได้อยู่ครองคู่กันจนวันตาย"
เสียงฝีเท้าของม้ากุบกับกระชั้นถี่ไล่หลัง
แสงไฟคบไต้วูบวาบวอมแวม
มีเสียงขู่ร้องให้หยุด มีเสียงขู่เรียกเอาตาย
"เขาตามมาทันแล้ว! รีบไปเร็วๆเถิดพี่!"
หญิงสูงศักดิ์บอกคนรักให้เร่งม้าด้วยความร้อนใจ
ไม่มีเวลาให้ลังเลแล้ว
มือเท้าบังคับม้าให้วิ่งเร็วขึ้น
รอดไม่รอดนั้นไม่อาจรู้
รู้แต่ต้องหนีไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว
โอ้รักสองเราเหย แสนจะอาภัพอับวาสนา
ตัวกูเป็นลูกชาวบ้านธรรมดา
แต่นางนั้นเป็นลูกพระยาแสนโทผู้มีอาชญาใหญ่
หากท่านหมายหัวผู้ใด ผู้นั้นบ่อาจรอดได้สักคน
มาบัดนี้ หนึ่งในนั้นคือกู
สองเรานั้นรักกัน
แต่บ่อาจอยู่ครองคู่กันได้ด้วยผิดฐานันดร
เหตุนี้สองเราจึงพากันหนี
เจ้าพ่อของนางคงเสียใจปานอกจะแตก
กูพาลูกท่านมาระหกระเหินลำบาก
กูนี้ทำบาปหนาเสียแล้ว
แล่นลัดตัดดง เข้าพงเข้าหญ้า
ทหารกล้าพ่อพระยาก็ไล่หลังมากระชั้นถี่
ไม่มีวี่แววจะลดละห่างหาย
แต่สุดทางข้างหน้านั้นคือผาสูงลิบลิ่ว
หมดทางหนีเสียแล้ว
"พี่อ้ายสิงห์คำ"
เสียงนางที่รักทักจากด้านหลัง
"ทหารของพ่อไล่ล่าเรามาถึงปานนี้ ไม่ช้าคงตามมาทัน
เราจะทำอย่างกันดี"
น้อยสิงห์คำบังคับม้าให้ลดฝีเท้าลงด้วยความว้าวุ่นใจ
"แอ่นฟ้าเหย ความผิดเรานั้นใหญ่หลวงนัก
หากถูกจับได้ เราสองคนคงไม่พ้นคมดาบทหารพ่อเจ้าเข้าบั่นคอ
แต่ข้างหน้านั้นเป็นผาสูง หมดทางหนีเสียแล้ว
จะอยู่ก็ตาย จะไปก็ตาย"
อึกอักอ้ำอึ้ง หนักใจในคำพูดต่อไป
"งั้นเรามาตายพร้อมกันเสียตอนนี้ดีไหม"
พูดได้แค่นี้ ก็เหมือนมีก้อนมาจุกอยุ่ที่คอ
"ไม่มีทางอื่นแล้ว พี่อ้ายสิงห์คำ
หากชะตาลิขิตมาแบบนี้ ตัวน้องก็ยอมให้เป็นไปไม่ลังเล"
ฟังนางร่างน้อยตอบไม่หวั่นไหว หัวใจของน้อยสิงห์คำราวกับจะแตกสลายไปต่อหน้าต่อตา
อยากกอดนางไว้ อยากร้องไห้ อยากหัวเราะเยาะในโชคชะตา
ทหารเจ้าพ่อตามมาทันแล้ว
หากจะบังคับให้ม้ากระโจนลงผาคงไม่ยอม มันก็รักตัวกลัวตายเช่นเดียวกัน
รีบเอาผ้าขาวมาผูกตาม้า
นางแอ่นฟ้าไม่รอช้า สั่งคนรักให้บังคับม้าวิ่งไปสู่ผาไวๆ
เหมือนน้อยสิงห์คำเกิดลังเลไม่กล้า
นางลูกพระยาจึงขอสลับเป็นคนขี่ข้างหน้ากุมสายบังคับแทน
กระชับขาหนีบแน่นแล้วเฆี่ยนม้าหนักหน่วงรุนแรง
ม้าจึงพาคู่รักรอมแพงห้อทะยานไปข้างหน้าด้วยความตกใจ
ลมตีผ่านหน้าหวืดหวือ สองมือน้อยสิงห์คำโอบรัดเอวนางด้วยรักและอาลัย
ขาม้าลอยหลุดขอบผาแล้ว
นางร่างแค้วและคนรักก็ร่วงหล่นลงสู่เบื้องล่างโดยพลัน
ผ้าขาวหลุดปลิวไหวสะบัด
ราวกับพลิ้วพัดด้วยแรงอธิษฐานจากสองดวงใจที่อาภัพและตรอมตรม
.
.
.
' หากได้เกิดใหม่ชาติหน้า
ตัวข้าขอพรสวรรค์
จงได้ครองคู่เคียงกัน
ห่อนคั่นด้วยฐานันดร '
ผาวิ่งชู้ปัจจุบันอยู่ในเขต อ.ฮอด จ.เชียงใหม่
ตำนานนี้หากจะนับวันเวลา ก็ยาวนานได้พันกว่าปีมาแล้ว
อนึ่ง กระทู้นี้เกิดจากเรื่องราวส่วนหนึ่งในตำนาน มาผสมผสานกับจินตนาการโดยยึดโครงเรื่องเดิมเป็นหลัก
ด้วยหวังเพียงเพื่อจะขยายเนื้อเรื่องในส่วนที่สะเทือนใจเท่านั้นครับ
ภาพจาก สมาชิกพันทิปหมายเลข 1001408 กระทู้ ผาวิ่งชู้ ตำนานรักที่ร้าวราน
เรื่องจากพันทิป ผาวิ่งชู้ ตำนานรักที่ร้าวราน
เรื่องโดย สมาชิกพันทิปหมายเลข 1001408
ขอขอบคุณเรื่องราวสยองและขออนุญาตนำมาเผยแพร่ ณ ที่นี้ด้วย
Post a Comment