โครงกระดูกของทหาร1,700 ปี


          เรื่องราวของคุณป๊อปกับเรื่องราวสุดหลอนของเขา เมื่อเขามีโอกาสเช่าที่และขุดของโบราณที่อรัญประเทศแถวโรงเกลือ โดยมักจะมีชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์ในสมัยก่อนที่เคยเข้ามารุกรานในประเทศไทย กระดูกของผู้ตายเหล่านั้น เพื่อที่จะนำไปที่วัดสวดพระอภิธรรม เรื่องราวสุดหลอนเกิดขึ้นลองไปติดตมรับชมกันเลยคับ

          เรื่องราวและเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องผีที่น่ากลัวมากมายอะไรนัก แต่ว่าถ้าเกิดใครได้ลองไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นลองนึกภาพตามนะครับ ป๊อปเป็นคนธรรมดา ทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ว่าป๊อปก็ได้มีโอกาสไปทำบุญเก็บศพไร้ญาติในสถานที่ต่างๆมากมายหลายแห่ง แล้วก็มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ได้มีโอกาสไปที่อรัญประเทศแถวโรงเกลือ ที่นั่นจะมีอาชีพอยู่อาชีพหนึ่งซึ่งก็คืออาชีพเช่าที่ขุด เจ้าของที่นั้นจะให้เช่าที่ 1x1 เมตรเป็นเงิน 500 บาท พื้นที่ให้เช่านั้นมีเป็นสิบไร่ พอขุดลงไปโดยส่วนใหญ่นั้นก็มักจะเจอกับพวกลูกปัดโบราณ กำไลทองสัมฤทธิ์แบบโบราณซึ่งของโบราณเหล่านี้มาจากไหนครับ ส่วนใหญ่มาจากศพของทหารซึ่งก็จะเป็นทหารต่างด้าวในสมัยก่อนที่เคยเข้ามารุกรานใน
ประเทศไทย ซึ่งผู้รู้ก็บอกว่ามีอายุราวๆสัก 1,700 ปีน่าจะได ้

            หลังจากที่เช่าที่และขุดของโบราณเหล่านั้นขึ้นมาก็จำเป็นที่จะต้องเก็บกระดูกของผู้ตายเหล่านั้นขึ้นมาด้วย  ซึ่งคนที่พาป๊อปไปที่นี่นั้นเขาไปเก็บกระดูกเพื่อไปให้พระในละแวกนั้นสวดทุกวันเป็นเวลา 3 เดือนมาแล้ว มีโครงกระดูกมากมายกว่า 3 ตันเรียงรายกันอยู่ ของโบราณนั้นก็มีมาก ระหว่างที่ป๊อปไปเก็บชิ้นส่วนกระดูกเหล่านั้น วันนั้นป๊อปได้มา 8 กระสอบก็เลยนำมาใส่ไว้ในรถเพื่อนที่เป็นรถกระบะไว้ทั้งหมด เพื่อที่จะนำไปที่วัดสวดพระอภิธรรม ระหว่างทางกลับไปวัดเกิดฝนตกหนัก ป๊อปและเพื่อนๆนั้นก็เลยลงความเห็นกันว่าน่าจะนำกระดูกเหล่านั้นไปใส่ไว้ในรถเก๋งจะดีกว่า นั่นก็คือนำไปใส่ไว้ที่รถของป๊อบเอง ส่วนคนที่เหลือก็ให้ไปนั่งที่หลังกระบะทั้งหมด ในรถของป๊อปก็เลยมีแค่น้องอีกคนหนึ่งนั่งไปเป็นเพื่อนกัน โดยที่เบาะหลังนั้นมีชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์หนักกว่า 500 กก.วางอยู่ วางที่เบาะหลังไม่พอต้องนำบางส่วนเอาไปไว้ที่ท้ายรถด้วย

            พอทางคณะเก็บของทั้งหมดเรียบร้อยก็เริ่มออกเดินทางไปที่วัดเพื่อจะทำพิธีสวด ป๊อปนำเพื่อนออกไปก่อนโดยการใช้ GPS นำทางไปโดยได้ปักหมุดเอาไว้ที่วัดตอนที่เดินทางไปถึงก่อนหน้านี้ ก็เริ่มขับรถออกไปเรื่อยๆไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร พอผ่านตลาดโรงเกลือออกไปนั้นก็เริ่มขับรถตามที่ GPS แสดงอยู่หน้าจอ ป๊อปดูเวลาแล้วขับรถออกมาประมาณสัก 20 นาทีกว่าๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าทำไมมันไกลนัก รู้สึกได้เลยว่าทางมันไกลกว่าตอนขามา แต่ก็ยังคงมุ่งหน้าขับตาม GPS ต่อไป และในระหว่างที่ขับรถอยู่นั้นความมืดก็เริ่มปกคลุม แล้วก็ไม่มีใครโทรศัพท์หาป๊อปเลยจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่าโทรศัพท์มันขึ้นโรมมิ่ง ไม่มีสัญญาณ ส่วน GPS นั้นก็หยุดทำงานไปแล้ว ก็เลยตัดสินใจมองหาคนแถวนั้นเพื่อจะ
ถามทางแต่ก็ไม่มีใครอยู่ข้างทางให้ถามได้เลย

             ป๊อปจึงขับรถตรงต่อไปอีกประมาณ 2 กม.ได้แล้วก็พบเข้ากับด่านตรวจ ป๊อปสังเกตได้ว่ามีพี่ทหารอยู่กลุ่มหนึ่งจึงตัดสินใจจอดรถลงไปถามทาง แต่ว่าพี่ทหารกลุ่มนั้นก็บอกว่าไม่รู้จักวัดที่ป็อปกำลังมุ่งหน้าไป และอีกอย่างหนึ่งถ้าเกิดตรงออกไปอีกหน่อยรถของป๊อปนั้นก็กำลังจะข้ามชายแดนไปแล้ว ซึ่งพี่ทหารก็ยังผ่านไปไม่ได้ แล้วเรื่องก็เกิดขึ้นเมื่อพี่ทหารกลุ่มนั้นสังเกตได้ว่ารถของป๊อปนั้นบรรทุกกระดูกมนุษย์มาเต็มไปหมดทหารกลุ่มนั้นจึงควบคุมตัวของป๊อปเอาไว้ แล้วก็ตั้งข้อหาว่าไปขุดของต้องห้ามมาหรือเปล่า ป๊อปจึงต้องอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังว่าได้นำกระดูกทั้งหมดมาจากหลุมซึ่งชาวบ้านนั้นขุดหาของโบราณเพื่อที่จะนำไปสวดอุทิศส่วนกุศลให้ต่างหาก ทหารเหล่านั้นจึงบอกว่าถ้าเกิดยืนยันได้
ก็ไม่ว่าอะไร แต่ช่วยพาไปที่วัดด้วยจะได้แน่ใจว่านำกระดูกนั้นไปทำพิธีจริงๆ

             แล้วพวกพี่ทหารก็ขึ้นรถ ขับนำหน้ารถของป๊อปไปโดยจะไปทางเส้นเดิมเนื่องจากไปต่อไปไม่ได้ มันกำลังจะข้ามชายแดนแล้ว พี่ทหารขับรถนำหน้าไปเพื่อที่จะหาชาวบ้านถามทางไปวัด ในระหว่างที่กำลังขับรถตามทหารอยู่นั้น จู่ๆพี่ทหารก็จอดรถ เดินลงมาบอกว่าให้ป๊อปนั้นขับรถของตัวเองนําหน้ารถทหารไป และก็พูดอีกว่าเขาขับรถไม่ได้ถ้าเกิดมองเห็นภาพจากกระจกหลังแบบนี้ ป๊อปก็เลยขับรถของตัวเองขึ้นนำหน้าไปแบบ งงๆ แต่ว่าระหว่างที่ขับรถหาคนถามอยู่นั้นก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้น ลักษณะของเสียงนั้นเหมือนกับมีใครเอาไมค์ไปจ่อกับหน้าลำโพงให้มันมีเสียงวี๊ด ดังวิ๊งๆ ดังสนั่นหวั่นไหวแทบจะกลบเสียงของรถยนต์ที่กำลังวิ่งอยู่เลย

            พอเจอชาวบ้านข้างทาง ทหารที่ขับรถตามมาก็ลงไปถามทางจนสามารถนำป๊อปและซากโครงกระดูกเหล่านั้นไปถึงที่วัดได้ วัดนั้นเป็นวัดป่า ทางเข้าต้องเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร รถยนต์ของป๊อปเป็นรถที่โหลดต่ำ แถมยังต้องบวกกับน้ำหนักกระดูกถูกกว่า 500 กิโลกรัมก็เลยเข้าวัดลำบากมากๆ เสียงหวีดที่ว่านั้นยังคงดังอยู่ไม่ขาด ดังอยู่ได้เรื่อยๆ วิ๊งๆ วี๊ดๆ ตลอดทาง พอรถของทั้งหมดขับเข้าไปจอดในวัดได้ก็มีพี่ทหารท่านหนึ่งเดินลงมาคุยกับป๊อปว่า "รีบนำกระดูกเหล่านั้นไปทำพิธีเถอะ พี่ไม่สงสัยแล้วเรื่องกระดูก" และก่อนที่ป๊อปจะได้ถามอะไรพี่ทหารก็พูดต่อว่า"รู้ไหม ระหว่างทางที่พี่ 3 ไม่ว่าจะขับรถนำหรือว่าขับรถตามรถของป๊อป ทั้ง 3 คนได้เห็นมาตลอดทางว่ามีบางสิ่งบางอย่างลักษณะเหมือนเปรต
เดินบ้างวิ่งบ้างตามรถของป๊อปมาตลอดทาง"

             พอถึงวัดพระที่รอสวดอยู่ก็รีบให้ป๊อปนั้นเข้าไปในโบสถ์ เสียงหวีดวี๊ดๆนั้นก็ดังอยู่ตลอด และพระรูปนั้นก็ยังบอกอีกว่า "ตั้งแต่พวกโยมเอาซากกระดูกเหล่านี้มาเก็บแล้วก็สวดอภิธรรมที่วัดนี้ตลอด 4-5 เดือน วัดนี้ก็มีแต่เปรต" เนื่องจากเศษกระดูกเหล่านั้นเป็นซากศพของทหารต่างชาติโบราณซึ่งกระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นขโมย ช่วงชิงของ ฆ่าล้างผลาญชาวบ้าน พอตายไปจึงเป็นเปรตมารอรับส่วนบุญส่วนกุศล ยิ่งนานเข้าก็ยิ่งเยอะ ส่วนที่ป๊อปขับรถหลงทางจะออกไปชายแดนนั้นก็เพราะว่าวิญญาณที่มากับรถของป๊อปนั้นอยากจะกลับไปสู่แผ่นดินเกิดของตัวเอง

ไม่มีความคิดเห็น