โดนทั้งทัวร์
เรื่องจากคุณคิงจากประสบการณ์จากเพื่อนของเขาน้องเนย น้องเนยมีอาชีพพยาบาล แต่ก็ทำทัวร์ร่วมด้วยเธอกับลูกทัวร์ได้พักที่โรงแรมแห่งหนึ่งนั้นคือจุดกำเนิดของเรื่องราวลี้ลับสุดหลอนสยองขวัญ ทำเอาการพักผ่อนกลายเป็นหนังผีสยองขวัญเลยก็ว่าได้
เรื่องนี้เป็นเรื่องของน้องเนย แต่คุณคิงเอามาเล่าให้ฟังนะคะ เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานพอสมควร อาชีพประจำของน้องเนยคือพยาบาล แต่ก็ทำทัวร์ร่วมด้วย ทริปที่เกิดเรื่องขึ้นคือทริปอุดร - หนองคาย เป็นทริปที่โรงเรียนชื่อดังจัดไป มีรถบัสทั้งหมดสองคน บัสหนึ่งคันก็จะมีประมาณห้าสิบคน รวมๆแล้วก็ร้อยคน เปิดโรงแรมกันก็ทั้งหมดห้าสิบห้อง ปกติคนเป็นไกด์จะต้องไปดูแลเรื่องห้องพัก สิ่งแรกที่น้องเจอคือโรงแรมใหญ่มาก แต่พนักงานในโรงแรมมีเบลล์บอยสองคน แม่บ้านสองคน และที่ล็อบบี้สองคน คือแบ่งเป็นคนหนึ่งเข้าเช้าอีกคนเข้าเย็น คือพนักงานน้อยมาก แต่ในเมื่อจัดการมาแล้วก็ต้องอยู่ พวกเค้าก็ต้องเดินตามเบลล์บอยว่าอาจารย์ท่านไหนนอนห้องไหน ระหว่างเดินไปก็มีอาจารย์ผู้ดูแลไปด้วยสามท่าน ฝั่งน้องเนยอีกสามท่าน ระหว่างทางก็ได้กลิ่นเหม็นอับ อาจารย์ท่านนึงเลยถามว่าทำไมมันถึงมีกลิ่นเหม็นอับล่ะน้อง น้องเค้าก็หันมายิ้มๆแล้วบอกว่าไม่มีอะไรหรอกพี่ คือระหว่างทางที่เดินไปคนอื่นก็คุยเล่นกัน แต่น้องคนนี้จะยิ้มอย่างเดียวตลอดเลย แล้วฝั่งน้องเนยเลยถามว่าพนักงานทุกคนมีอยู่แค่นี้เหรอ เป็นไปได้เหรอที่มีคนแค่นี้ น้องเค้าก็บอกว่ามีคนมาสมัครหลายคนนะพี่ แต่อยู่กันไม่ได้ น้องเค้าก็ยิ้มเจื่อนๆแต่ไม่พูดอะไร ก็ถึงห้องพอดี เปิดเข้าไปปุ้บรู้สึกห้องมันดูแดงเถือกไปทั้งห้อง รู้สึกไม่ดีเลย แต่ก็ไม่ได้อะไร พอผ่านไปนัดกันประมาณสี่ห้าโมงเพราะต้องไปดูบั้งไฟพญานาค อาจารย์ก็ถามน้องเนยว่า ทำไมมีผมคนเต็มห้องน้ำเลย แม่บ้านเค้าไม่ทำความสะอาดเหรอ เต็มรูระบายน้ำเลย อาจารย์อีกคนก็สมทบว่ามีๆ ของห้องผมก็มี เลยไปถามแม่บ้านว่าเค้าไม่ทำความสะอาดกันเหรอแม่บ้านน่ะ พนักงานก็บอกว่าอ๋อมีครับ เดี๋ยวให้ไปทำความสะอาดให้นะครับ คือน้องพูดแบบเหมือนเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นประจำ ก็ขับรถไปแปปเดียวก็ถึงสถานที่ พอทุ่มนึงก็เริ่มเรียกลูกทัวร์กลับ กลับถึงโรงแรมประมาณตีหนึ่งสิบห้านาที ทั้งที่ขาไปก็ขับไปแค่ครึ่งชั่วโมงเอง มันไม่ธรรมดาแล้วนะ คนขับก็บ่นว่าทำไมขับแล้วมันวน หาทางออกไม่เจอ พอมาถึงที่พักทุกคนก็แยกย้ายไปห้องของตัวเอง ผู้หญิงจะอยู่ชั้นหก ผู้ชายอยู่ชั้นห้า แต่ห้องน้องเนยจะเป็นห้องที่คอนแทคไว้สำหรับคนเป็นไกด์คือมีส่วนลดหลายเปอร์เซ็นต์ ไกด์บอกว่าจะไม่เห็นห้องตัวเองมาก่อนจนกว่าลูกทัวร์จะเข้าห้องหมดแล้ว พอเข้าไปปุ้บห้องเป็นสีเขียวแบบเขียวอี๋เลย สีออกช้ำๆบรรยากาศไม่น่าอยู่เลย น้องเนยก็คิดว่าอยู่ๆไปเถอะ แล้วน้องเนยต้องเป็นคนชาร์ตว.สื่อสาร ซึ่งน้องเนยอยู่ชั้นหกก็ต้องลงไปเอาที่ชั้นห้า พอเปิดประตูออกมาข้างนอกกลายเป็นไฟสีส้ม แล้วไฟคือสามดวงถึงติดดวงนึงไล่ไปจนสุด มันก็จะมืดมาก แล้วเล่าก่อนว่าก่อนหน้าที่มาไขกญแจห้องคือกุญแจห้องไขเข้าไม่ได้ จนต้องทำวิธีอื่น คือเคาะห้องก่อนเข้าก็เข้าไม่ได้ พี่คนข้างห้องเลยบอกว่าลองยกมือไหว้ดูสิ ก็ยกมือไหว้ตามคำแนะนำแล้วปรากฎว่าประตูไขได้ เค้าก็เดินไปชั้นห้าสวนกับหนึ่งครอบครัว ระหว่างทางเดินลงไปทางซ้ายมือจะเป็นห้องที่เก็บผ้าปูที่นอนของพวกแม่บ้านน่ะ เค้าก็มองตามปกติเห็นเป็นผ้า ขวดน้ำ ลังแก้ว เสร็จก็เอาไปที่ชาต พอขากลับก็จะให้พี่ข้างล่างขึ้นมาส่งที่ชั้นหก แต่พวกพี่เค้าก็บอกว่าให้กลับไปเองๆ ก็เดินกลับขึ้นมา พบว่าไฟห้องแม่บ้านปิด เค้าก็คิดว่าใครจะขึ้นมาปิดในเมื่อไม่เห็นใครสักคน เลยรีบวิ่งเข้าห้อง พออาบน้ำเสร็จก็ถอดคอนแทคเลนส์ออกก็จะมองอะไรไม่ค่อยชัด นอนหันหลังให้กันกับเพื่อน ตกลงกันไว้ว่าเปิดไฟห้องน้ำไว้นะ น้องเนยนอนติดกับกำแพงห้องน้ำซึ่งจะมีทางเดินระหว่างกำแพงนิดนึง ดึกเท่าไหนไม่รู้ก็พบว่าสะกิดเขา พอสะกิดกันไปมาก็ตื่น ระหว่างลืมตามองไปมาสายตาก็จะไปอยู่ที่ปลายเท้า เป็นมุมที่เลี้ยวเข้าห้องน้ำพอดี เค้าบอกว่าเห็นเป็นหน้าคนโผล่ออกมาจากมุมห้องน้ำ แต่เพราะความสายตาสั้นเลยมองไม่ชัดบวกกับความง่วงก็เลยคิดว่าเพื่อนเค้าคงชะโงกหน้ามาดูว่าเนยตื่นหรือยัง เค้าก็เลยหลับต่อ คราวนี้เพื่อนสะกิดอีก เค้าก็ลืมตาขึ้นมา ตอนแรกเค้าเปิดทีวีทิ้งไว้ ถ้าลืมตาขึ้นมามันจะเห็นแสงทีวีแล้วสว่างหมด แต่ปรากฏว่าเป็นเงาคนพาดมาทางตัวเค้า เลยคิดว่าเพื่อนคงไปดูทีวี แล้วพอนานแค่ไหนไม่รุ้ก็ลืมตาขึ้นมาเพราะมีความรู้สึกเหมือนมีคนอยู่ใกล้ เค้าก็ลืมตาคนมาเอามือลูบหน้าทีนึง ปรากฏว่าเห็นผู้หญิงคนนึงหน้ากลมๆผมบ็อบ ตาลึกๆนั่งยองๆอยู่ข้างเตียงแล้วก้มมามองเค้า เค้าก็รู้สึกว่าขยับตัวไม่ำด้ก็สวดมนต์ สวดบทนึงผู้หญิงคนนั้นเริ่มยิ้มมากทีนึง สวดอีกบทนึงผู้หญิงคนนั้นก็ยิ่งยิ้มมากอีกทีนึง จนปากเริ่มแสยะมุมด้านข้างจนปากเริ่มน่ากลัวละเลยหวีดขึ้นมาทีนึงว่าแม่แล้วร่างกายก็หลุดเลย ขยับได้ปกติ เค้าก็มองรอบตัวทุกอย่างยังคงเงียบสนิทภายในห้อง เค้าก็สังเกตุละว่าทำไมวันนี้เพื่อนกินยาแก้แพ้มากผิดปกติ เพราะยาแก้แพ้มันจะทำให้ง่วง แต่จะทิ้งเพื่อนออกไปก็ไม่ได้ เลยนั่งอยู่อย่างนั้น เพื่อนก็ตื่นก็เจอว่าเนยเป็นอะไร เนยก็เล่าให้ฟัง เพื่อนเลยเล่าว่า เนยจำได้มั้ยที่เมื่อคืนเราสะกิด เพราะตอนแรกเรารู้สึกเหมือนมีคนมาดึงผ้าห่มเรา ก็นึกว่าเป็นเนย เลยจะสะกิดบอกส่าอย่าดึง แต่ไม่ยอมหยุดสักทีเลยลืมตามามอง แต่สายตาไปอยู่ที่ปลายเตียงก็เห็นคนคลานขึ้นจากปลายเตียงสวนขึ้นมาไวมากจนน่ากลัว เค้าเลยหลับตาปี๋อยู่อย่างนั้นจนยาที่กินออกฤทธิกล่อมประสาทไปให้หลับตอนไหนไม่รุ้ ทีนี้เค้าก็รีบลงไปข้างล่างเพราะไม่มีใครอยากอยุ่ห้อง ปรากฏว่าเจออาจารย์นั่งอยู่ที่ล็อบบี้ในชุดนอนอยู่สิบกว่าท่าน เลยเข้าไปถามกัน อาจารย์ก็บอกว่าพวกท่านยังไม่ได้นอนเลย ทุกคนเจอเหตุการณ์คล้ายกันหมดเลย อาจารย์คนแรกก็เล่าว่าที่แกนอนอยู่ห้องเป็นห้องเตียงคู่ เค้าก็นอนตะแคงแล้วดมื่อยขึ้นมาเลยพลิกตัวมา ซึ่งถ้าพลิกตัวมาจะต้องเจอเตียงของเพื่อน แต่ที่เค้าพบคือเตียงของเพื่อน พื้นเตียงจะทึบ ไม่โปร่ง ก็เห็นผู้หญิงคนนึงนอนนตะแคงข้างหันหลังพิงเตียงอนุ่งะก็มองอาจารย์ตาแข็งเลย อาจารย์ก็ทำเป็นไม่เห็นแล้วเดินออกมาเลย นึกว่าจะเป็นคนเดียวที่เจอ ปรากฏว่าเจอกันหลายคนเลย อาจารย์อีกท่านก้เจอทีวีปิดเองเปิดเอง ที่หนักที่สุดคืออาจารย์คนนึงเจอผู้หญิงคนนึงยืนปลายเตียงแล้วเค้าก็ยืดตัวเองขึ้นจนสูงแล้วดึงเชือกลงมาผูกคอตัวเอง
จนตอนเช้กเอ้าท์ก็ถามพนักงาน พนักงานก็ไม่ยอมเล่าว่าโรงแรมเคยมีเหตุการณ์อะไรหรือเปบ่า จนไปเจอกับรปภ. รปภ.ก็บอกว่าโรงแรมนี้ไม่ค่อยมีคนมาพัก และตอนนี้ไม่มีคนมาพักมาเป็นอาทิตย์แล้ว แล้วสรุปว่าครอบครัวที่เดินสวนกับน้องเนยคือใครก็ไม่มีใครทราบ
Post a Comment