คนดีผีคุ้ม


     เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นกับตี๋น้อยเป็นเรื่องที่ประสบมากับตัวเองเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี2014 ที่ห้องเช่าห้องหนึ่งแถบใกล้วัดแห่งหนึ่งย่านมหาชัยเมืองใหม่ เป็นห้องเช่าแบบห้องแถวชั้นเดียว สภาพห้องเช่าเก่าแต่ว่าราคาถูกมาก คุณตี๋เช่าอยู่คนเดียวจึงต้องการความประหยัดจังตัดสินใจเช่าแม้สภาพห้องจะเก่าก็ตาม หลังจากจัดการเรื่องค่ามัดจำต่างๆแล้วคุณตี๋ก็เดินไปไหว้เจ้าที่ศาลพระภูมิเพื่อขอที่จะมาอยู่อาศัยที่นี่ และย้ายเข้ามาอยู่ทันที ที่ทำงานคุณตี๋อยู่ใกล้ที่พัก และเขาไปกลับแบบนี้เป็นประจำ เขาชอบออกไปเที่ยวกลางคืนแล้วกลับดึกอยู่บ่อยๆประมาณตี 1 เกือบจะทุกวัน และเรื่องเกิดขึ้นเมื่อ

     วันที่เกิดเหตุก็มาถึง วันนั้นคุณตี๋น้อยรู้สึกอ่อนเพลียมาจากการทำงานและก็พักผ่อนไม่เพียงพอและเผลอหลับไป ช่วงนั้นเวลาพึ่งจะประมาณ 3 ทุ่มเอง แต่ว่าความรู้สึกนั้นรู้สึกว่าหลับไปนานมาก สักพักนึงคุณตี๋น้อยสะดุ้งตื่น ลุกขึ้นมานั่งในท่าขัดสมาธิอยู่กลางบ้าน แล้วจู่ๆคุณตี๋น้อยก็ไม่สามารถขยับร่างกายได้ยกเว้นคอเท่านั้น จึงค่อยๆขยับคอหันมองไปรอบห้อง ทางด้านซ้านมือเป็นหน้าต่างมี 2 บาน มีแสงสลัวๆ
ส่องมาจากด้านนอก ส่วนด้านหลังและด้านหน้าเป็นประตูบานใหญ่ที่ตั้งตรงกันอยู่โดยที่คุณตี๋น้อยนั่งอยู่ระหว่างกลาง และในขณะที่คุณตี๋น้อยกำลังหันรีหันขวางเพื่อมองสภาพรอบห้องอยู่นั้น พอหันกลับมาตรงหน้า ภาพที่เห็นทำให้ถึงกับสะอึก หัวใจแทบจะหยุดเต้น เมื่อพบกับผู้หญิงผมยาว ใส่ชุดคลุมสีขาว นั่งก้มหน้าคุกเข่าอยู่กับพื้น อยู่ห่างออกไประยะแค่ 1 ม. เท่านั้น

            ในใจเวลานั้นอยากจะลุกแล้ววิ่งหนีมากๆ เพียงแต่ว่าขยับตัวไม่ได้ คราวนี้แม้แต่คอและหัวที่เคยเอียงได้ก็ตั้งตรง ขยับไม่ได้เช่นกัน มีเพียงแค่ตาและปากที่พอจะขยับได้ คุณตี๋น้อยค่อยๆหลับตาลงเพราะกลัวและไม่อยากเห็นภาพที่อยู่เบื้องหน้า เหตุผลและสติที่เหลืออยู่ในเวลานั้นคิดได้แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นต้องไม่ใช่คนอย่างแน่นอน ครู่เดียวเท่านั้น คุณตี๋น้อยก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงคนนั้นเหมือนจะขยับร่างกายบางส่วน เพราะได้ยินเสียงอวัยวะของร่างกายนั้นกระทบกับพื้นไม้บนห้อง ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา จนรู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นมาหยุดอยู่ตรงหน้าของคุณตี๋น้อยเองแล้ว

            และในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเองก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างมาสัมผัสที่หัวเข่าทั้งสองข้างของตัวเอง กลิ่นเหม็นเน่าตลบอบอวลไปหมด และก็เริ่มรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างเปียกๆเหนียวๆมาสัมผัสที่ใบหน้า คุณตี๋น้อยค่อยๆลืมตาขึ้นมาดูแทบจะหยุดหายใจ เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่ก็คือ หน้าของผู้หญิงคนนั้น แทบจะมาชนอยู่กับหน้าของคุณตี๋น้อยเองอยู่แล้ว เรียกได้ว่าจมูกแตะกับจมูก ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นมีทั้งเลือดแล้วก็น้ำเหลืองไหลออกมา ลักษณะของเธอคนนั้นกำลังเอามือทั้งสองข้างจับเอาไว้ที่หัวเข่าของคุณตี๋น้อย แล้วยื่นหน้าเข้าไปแทบจะชนใบหน้ากันอยู่แล้ว ในวินาทีนั้นคุณตี๋น้อยไม่รู้จะทำเช่นไร แต่หลับตาลงเหมือนเดิม แล้วก็เริ่มนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเริ่มสวดมนต์เท่าที่จำได้ ในระหว่างที่คุณตี๋น้อยกำลังสวดมนต์อยู่นั้นก็มีเสียงแหบๆเล็กๆ เป็นเสียงสวดมนต์สวดแทรกขึ้นมา เป็นเสียงของผู้หญิงคนนั้นนั่นเอง แล้วเธอก็หัวเราะอย่างสุดเสียงแหบแห้งของเธอแบบสะใจมาก แล้วก็พูดขึ้นมาว่า "ท่องได้แค่นี้เองหรอ" ในเวลานั้นมือทั้งสองข้างของผู้หญิงคนนั้นบีบที่หัวเข่าของคุณตี๋น้อยอย่างแรง

             ในใจนั้นกลัวจนจะช็อคตายอยู่แล้ว แต่พอตั้งสติได้คุณตี๋น้อยก็พูดออกไปว่า "เอาวะเป็นไงเป็นกัน ผมไม่รู้ผมไปทำอะไรให้คุณโกรธมาโกรธอะไรผมนักหนาถึงต้องมาทำกันแบบนี้ แต่ว่าผมไม่ได้คิดร้ายอะไรกับคุณ อะไรที่ผมทำไม่ดีอโหสิกรรมให้ด้วย" แล้วก็เริ่มท่องบทแผ่เมตตาออกไป ระหว่างที่ท่องบทแผ่เมตตาอยู่นั้น ความรู้สึกจากหัวเข่ามือทั้งสองข้างของผู้หญิงคนนั้นที่กำลังบีบเข่าอยู่ก็ค่อยๆปล่อยออก แล้วก็รู้สึกว่าเหมือนเธอค่อยๆขยับตัวถอยออกไปอย่างช้าๆ ในเวลานั้นคุณตี๋น้อยยังคงหลับตาอยู่เพียงแต่รู้สึกเอา เหมือนว่าเธอคนนั้นจะหายไป แล้วก็ค่อยๆลืมตาขึ้น สิ่งที่พบอยู่ตรงหน้าเธอยังไม่ได้หายไปไหน แต่ว่ากลับกลายเป็นผู้หญิงใบหน้าสวย ผิวขาวมาก ไว้ผมยาว แล้วเธอก็ค่อยๆยิ้มให้ แล้วพูด
ขึ้นมาว่า "ขอบคุณนะ" แค่นั้นแหละ คุณตี๋น้อยมารู้สึกตัวอีกทีก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเป็นเวลา 6 โมงเช้าเข้าไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดในคืนนี้น่าจะเป็นความฝัน แต่ว่าแปลกตรงที่เจ็บเข่าทั้งสองข้างอย่างมาก ลักษณะของหัวเข่านั้นเป็นรอยช้ำวงใหญ่ทีเดียว

             คุณตี๋น้อยแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในความฝันจึงไปถามทางเจ้าของห้องพัก เจ้าของห้องก็พูดแค่เพียงว่า "ไม่มีนะ ไม่เคยมีใครมาตายที่นี่" จากนั้นก็เลยไม่เซ้าซี้อะไรอีกเพราะกลัวเจ้าของห้องจะต่อว่าเอา หลังจากนั้นคุณตี๋น้อยก็ไปทำบุญถวายสังฆทานพร้อมทั้งอุทิศส่วนกุศลและนึกถึงเธอคนนั้น คุณตี๋น้อยก็ยังคิดอยู่ในใจว่า เธอคนนั้นเป็นใครกัน ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาได้ อยากเจออีกสักครั้งจะได้ทำบุญอุทิศไปให้เธอคนนั้น ถ้าเธอยังคงต้องการ

            วันเวลาก็ล่วงผ่านไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์ สิ่งที่คุณตี๋น้อยต้องการก็เกิดขึ้นจนได้ คืนนั้นคุณตี๋น้อยฝันแบบเดิมอีกครั้ง ที่เดิม ห้องเดิมสถานการณ์เดิมทุกอย่าง คุณตี๋น้อยมองไปรอบๆห้อง จนสายตาไปหยุดที่ประตูด้านหน้าของตัวเอง สิ่งที่เห็นก็คือผู้หญิงคนเดิม แต่ว่าคราวนี้เธอไม่เข้ามาใกล้ แต่ว่าเธอลอยผ่านประตูไปอย่างช้าๆ พร้อมกับรอยยิ้มด้วยสีหน้าที่สดชื่น แล้วเธอก็ลอยผ่านไป คุณตี๋น้อยนั่งได้อย่างอิสระ แต่ว่าจู่ๆก็รู้สึกมีอะไรบางอย่างมากระชากที่แขนแบบสุดแรง คุณตี๋น้อยหันกลับไปดู อย่างที่บอกว่าด้านหลังมีประตูบานใหญ่อีกบานที่เปิดอยู่ มีชายร่างใหญ่ตัวดำ นุ่งโจงกระเบนสีแดง ตานั้นแดงก่ำ มือข้างหนึ่งของชายคนนั้นกำลังจับขอบประตูอยู่ มืออีกข้างก็กำลังกระชากแขนของคุณตี๋น้อยอยู่

           ชายคนนั้นพยายามกระชากอย่างสุดแรง คุณตี๋น้อยก็ขืนไว้แล้วก็ร้องสุดเสียง "ช่วยด้วย ช่วยด้วย" ชายร่างใหญ่คนนั้นก็พูดกลับมาว่า"มากับข้า มากับข้าซะดีๆ เอ็งต้องมากับข้า หมดเวลาของเอ็งแล้ว" คุณตี๋น้อยก็ร้องเสียงหลงว่า "ไม่ไป ไม่ไป ผมไม่ไป" ในเวลานั้นทั้งตัวของคุณตี๋น้อยเกือบจะหลุดเข้าไปในประตูนั้นอยู่แล้วเพราะว่าสู้แรงดึงของชายร่างใหญ่นั้นไม่ไหว หลังจากที่ร้องออกไป มืออีกข้างของคุณตี๋น้อยก็เหมือนมีใครมาดึงเอาไว้ พอหันกลับไปดูก็เป็นผู้หญิงคนนั้น เธอเข้าไปดึงแขนของคุณตี๋น้อยอีกข้างเอาไว้ร้อมกับตะโกนไปที่ชายร่างใหญ่นั้นว่า"ไม่ใช่ค่ะท่าน ไม่ใช่ ท่านมาเอาผิดตัวแล้ว คนคนนี้ยังไม่ถึงเวลา ยังเอาเขาไปไม่ได้" แต่เหมือนกับว่าชายร่างใหญ่คนนั้นไม่ได้ยิน ต่างฝ่ายต่างฉุดกระชากร่างของคุณตี๋น้อย จนผู้หญิงคนนั้นเหมือนจะโมโห เธอดึงแขนของคุณตี๋น้อยสุดแรงเกิดอีกครั้ง ความรู้สึกเหมือนวูบ เหมือนคนที่กำลังจะตกเหว

            แล้วคุณตี๋น้อยก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา เวลาตอน 7 โมงเช้า ร่างกายของคุณตี๋น้อยเต็มไปด้วยเหงื่อแต่ว่าตัวนั้นเย็นมาก แล้วก็รู้สึกเจ็บที่แขนทั้งสองข้างอย่างมาก พอก้มลงไปดู ที่แขนทั้งสองข้างมีรอยถูกบีบอยู่ทั้งสองข้างเลยเป็นสีเขียวช้ำ คุณตี๋น้อยคิดในใจ เธอคนนั้นเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงมาช่วยเอาไว้ได้ ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ  หลังจากนั้นก็พยายามสืบหาจากคนบริเวณห้องพักแถวนั้น แต่ก็ไม่มีใครรู้จักหรือพบเห็นเธอคนนั้นมาก่อน อีกสิ่งหนึ่งที่คิดได้ก็คือห้องพักบริเวณนั้นจะอยู่ติดกับวัดวัดหนึ่งมากๆ ก็จึงได้ไปทำบุญถวายสังฆทานให้เธออีกครั้ง แล้วก็อธิษฐานไปอีกว่า ไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนวันนั้นผมขอบคุณครับที่ช่วยผมเอาไว้ แล้วจากนั้นไม่นานคุณตี๋น้อยก็ย้ายออกไปจากห้องพักแห่งนั้น
แล้วก็ไม่เคยฝันถึงเธอคนนั้นอีกเลย

ไม่มีความคิดเห็น