ผู้ร่วมชั้นสุดสยอง


     ประสบการณ์หลอนจากคุณนาตยา ที่เธอประสบด้วยตนเองเธออาศัยอยู่คอนโดแห่งหนึ้งใน กทม และเป็นเรื่องแปลกมากที่ชั้น 8 ที่เธอพักอาศัยอยู่นั้น เพื่อนร่วมชั้นนั้นน้อยมาก เนื่องจากไม่ค่อยมีคนมากพลุกพล่านเธอจึงชอบในจุดนี้ เรื่องราวของเธอเกิดขึ้นเมื่อ  วันหนึ่งเป็นวันหยุด น้องกำลังนอนอยู่ก็ต้องตกใจตื่น เนื่องจากได้ยินเสียงของผู้หญิงห้องข้างๆกำลังกรีดร้องเสียงดังมาก แล้วก็ตามมาด้วย
เสียงร้องไห้คร่ำครวญ น้องก็เลยลุกจากเตียงไปดูที่ตาแมวว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่เห็นอะไร ก็เลยไม่ได้สนใจ กำลังจะล้มตัวเพื่อนนอนต่อ ก็ต้องได้ยินเสียงร้องกรี๊ด กับเสียงร้องไห้อีก เสียงนั้นดังสลับกันอยู่นาน สุดท้ายก็ทนไม่ไหวเลยลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวออกไปข้างนอก พอน้องกลับมาที่คอนโดก็ต้องแปลกใจว่ามีรถมูลนิธิมาจอดอยู่ ก็เลยเดินเข้าไปดู ปรากฏว่าผู้หญิงที่น้องได้ยินเสียงร้องกรี๊ดแล้วก็ร้องไห้เมื่อเช้านั้น ตอนนี้เธอกลายเป็นศพ!

      เจ้าหน้าที่มูลนิธิกำลังเก็บศพของเธออยู่ ก็ได้ทราบจากคนแถวนั้นว่า ผู้หญิงคนนั้นเขากินยาฆ่าตัวตาย น้องรู้สึกตกใจและกลัวมากก็เลยยืนคุยอยู่กับเจ้าของตึก เจ้าของตึกก็บอกว่า เธอกินยาฆ่าตัวตายตั้งแต่เมื่อคืน เนื่องจากทะเลาะกับแฟน แล้วแฟนของเขาก็ออกไปอยู่ที่บ้านแม่ พอเขากลับเข้ามาประมาณเที่ยงก็พบว่าผู้หญิงเจ้าของห้องนั้นกลายเป็นศพเนื่องจากกินยาฆ่าตัวตายไปซะแล้ว ได้ยินเจ้าหน้าที่ที่กำลังเก็บศพนั้นคุยกัน ประมาณเวลาเสียชีวิตเขาก็บอกกันว่าน่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง นั่นก็ยิ่งทำให้น้องขนลุกมากกว่าเดิม เนื่องจากว่าน้องได้ยินเสียงร้องกรี๊ดแล้วก็เสียงร้องไห้เมื่อตอนประมาณ 7 โมงเช้านี้เอง เวลาในการประเมินศพของเจ้าหน้าที่นั้นเธอน่าจะเสียชีวิตไปนานแล้วแล้วน้องได้ยินเสียงร้องกรี๊ดได้อย่างไร

              ตอนนั้นในใจก็กลัวๆ แต่ก็พยายามคิดว่าไม่น่ามีอะไร เพราะเจ้าของคอนโดก็บอกว่าจะไปนิมนต์พระมาทำบุญ น้องก็เลยพยายามไม่คิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก แต่ว่าคืนนั้นก็ไม่ได้นอนพักที่ห้อง ไปนอนที่บ้านเพื่อนแทน ล่วงเข้าสู่วันจันทร์ น้องก็กลับมาจากการทำงานแต่รู้สึกได้เลยว่าคอนโดนั้นมันเงียบผิดปกติ ก็เลยรีบเข้าห้อง พออาบน้ำเสร็จก็สวดมนต์ก่อนนอน น้องนอนหลับไปได้สักพักนึง ก็เริ่มได้ยินเสียง
คนร้องไห้ ตอนแรกนั้นก็คิดว่าอาจจะเป็นห้องข้างๆก็เลยไม่ได้สนใจ นอนหลับไปจนเช้า พอตื่นขึ้นมาก็อาบน้ำอาบท่าจัดแจงแต่งตัว เตรียมตัวไปทำงาน เวลาตอนนั้นประมาณตี 5 ครึ่ง พอน้องเดินออกมาจากห้อง เดินมุ่งหน้าไปที่ลิฟต์ก็ต้องเดินผ่านห้องที่มีคนฆ่าตัวตาย ตอนนั้นรู้สึกแปลกๆเหมือนกัน เหมือนกับว่ามีคนกำลังจับตาจ้องมองเธอ

             ขออธิบายอีกหน่อยนึงว่าห้องพี่น้องอาศัยอยู่ตั้งอยู่บนชั้น 8 นั้น เวลาเดินไปลงลิฟท์จะต้องเดินลงบันไดเป็นหนึ่งชั้น เนื่องจากลิฟท์ตั้งอยู่ที่ชั้น 7 พอน้องเดินเลี้ยวจะลงบันได สายตาก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงคนดังกล่าว ผู้หญิงที่กินยาตายนั้นนั่งก้มหน้าอยู่หน้าห้อง ตอนนั้นน้องตกใจมาก รีบวิ่งไปกดลิฟท์ รีบออกไปทำงานโดยด่วนที่สุด พอเลิกงานช่วงเย็นกลับมาถึงคอนโดก็มาเจอกับพี่คนหนึ่ง ซึ่งพักอยู่ห้องข้างใต้ของห้องผู้หญิงที่ฆ่าตัวตาย พี่คนนั้นก็เล่าให้ฟังว่าตัวของเธอเองก็ไม่สามารถนอนได้เลย เนื่องจากว่าได้ยินเสียงทั้งคืน ทั้งร้องไห้ ทั้งกรีดร้องสงสัยต้องย้ายเพื่อจะหาห้องใหม่ พอคุยกันได้สักพักนึงก็แยกกันไป น้องก็เดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง หลังจากอาบน้ำเสร็จก็มาไหว้พระ ในระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงร้องไห้แบบเดิม ดังขึ้นมาอีก น้องก็เลยตัดสินใจแผ่เมตตาให้กับเขาแล้วก็พูดในใจว่า เดี๋ยววันศุกร์หยุด จะไปถือศีลบวชชีพราหมณ์ อุทิศส่วนกุศลไปให้ จบประโยคในใจ เสียงร้องไห้นั้นก็เงียบลง

               พอเวลาผ่านไปถึงวันศุกร์ น้องก็ไปบวชชีพราหมณ์ที่วัดแห่งหนึ่ง หลวงพ่อท่านก็ทักกับน้องขึ้นมาว่า "พาเพื่อนมาด้วยเหรอ" น้องได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว พอจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพเรียบร้อย เริ่มต้นการปฎิบัติธรรมจริง น้องก็ตั้งใจเต็มที่ คิดถึงเขา พยายามอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ จู่ๆขณะที่น้องกำลังเดินจงกรมอยู่นั้น สุนัขที่วัดก็หอนกันเกรียวเลย น้องตั้งใจปฏิบัติธรรมอยู่ทั้งหมด 3 วัน พอถึงกำหนดวันกลับ หลวงพ่อท่านก็พูดขึ้นมาอีกว่า "เขาได้รับแล้วนะ รู้สึกขอบคุณคุณโยมมากๆ" พอกลับมาจากวัดน้องก็รู้สึกสบายใจมากอยู่ๆในขณะที่น้องกำลังอยู่ในลิฟท์ กำลังก้มลงกดโทรศัพท์เล่นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกำลังกระซิบอยู่ที่ข้างหูว่า "ขอบคุณนะ" วินาทีนั้นน้องตัวแข็งทื่อ ขนลุกไปทั้งตัว เนื่องจากว่าในลิฟท์น้องอยู่เพียงลำพังคนเดียว

               พอประตูลิฟท์เปิดออก น้องก็รีบวิ่งออกมา ก็เจอเข้ากับเจ้าของตึกเดินลงมาจากชั้น 8 พอดี แล้วพี่เจ้าของตึกก็บอกว่า ไม่ต้องกลัวนะที่ทำห้องนั้นเป็นห้องพระไปแล้ว และหลังจากวันนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องไห้หรือว่าเสียงกรีดร้องอีกเลย

ไม่มีความคิดเห็น