"บ้านน้องก็อยู่นี่แหละ"
เหตุการณ์ทั้งหมดก็ได้เกิดขึ้นที่วัดแห่งหนึ่ง เมื่อคุณผู้ไม่ประสงค์ออกนามรายหนึ่ง เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์หลอนที่เกินขึ้นกับเขามานานและไม่มีทางลืม เขาเจอดีที่วัดแห่งหนึ่งใน กทม และเป็นตอนกลางวันแสกๆ ลองมาฟังประสบการณ์ของเขากันเลยครับ
เรื่องราวในวันนี้ที่จะนำมาเล่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง เกิดขึ้นเมื่อปี 2541 ซึ่งขณะนั้นผมมีอายุ 17 ปี แล้วก็เพิ่งจะเข้าเรียนมหาลัยปี 1 ครับ จากที่ไม่เคยต้องไปเรียนเองเพรามีรถคุณพ่อคุณแม่คอยรับส่งตลอดก็ต้องดิ้นรนไปเรียนเองครับ เพราะมหาลัยอยู่นอกตัวเมืองผมเลยได้มีโอกาสใช้บริการรถสองแถวเข้าออกซอยในหมู่บ้านเป็นครั้งแรก ซึ่งท่ารถสองแถวนี้ตั้งอยู่หน้าวัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพละกันครับ และเหตุการณ์ทั้งหมดก็ได้เกิดขึ้นที่วัดแห่งนี้
หลังจากเปิดเทอมไปได้ระยะหนึ่ง ประมาณ 2-3 เดือนผมก็เริ่มคุ้นเคยกับการนั่งรถสองแถวที่ป้ายหน้าวัดแห่งนี้กลับเข้าบ้านทุกวัน จำได้ว่าบ่ายวันนั้นผมนั่งรถเมล์มาถึงป้ายรถแห่งนี้ประมาณบ่าย 2 โมงกว่าๆ และเวลานั้นถึงจะเป็นกลางวันแสกๆก็จริง แต่มันเงียบมากครับเพราะเด็กนักเรียนยังไม่เลิกเรียนกัน ผมเดินฝ่าแดดมุ่งหน้าไปที่รถสองแถวเพื่อจะขึ้นรถกลับบ้านตามปกติ ขณะที่กำลังเดินผ่านบริเวณหน้าวัดไปขึ้นรถผมก็เห็นเด็กคนหนึ่ง อายุประมาณ 8-9 ขวบ ตัดผมม้า ใส่ชุดนักเรียน ยืนร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรอยู่ใกล้ๆบริเวณคิวรถสองแถว
ด้วยความที่เห็นน้องร้องไห้อยู่ตอนเดินผ่านจึงถามว่า "น้อง ร้องไห้ทำไม หลงทางรึเปล่า" พอพูดจบเด็กคนนั้นก็เอื้อมมือหนึ่งมาคว้ามือผมแล้วบีบไว้แน่นเหมือนกลัวว่าเราจะเดินหนีไป แต่ก็ยังไม่ยอมพูดอะไรนะครับ เอาแต่ยืนร้องไห้อยู่อย่างนั้น ผมก็เลยถามย้ำไปอีกครั้งว่า "บ้านน้องอยู่ไหนเนี่ย อยู่แถวนี้รึเปล่า เดี๋ยวพี่ไปส่ง" น้องคนนั้นก็ไม่ยอมตอบอะไร ได้แต่กำมือผมไว้แน่น เอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว ผมก็เกือบจะชวนไปหาน้าแถวคิวรถแล้ว แต่ทันใดนั้นเด็กผู้หญิงคนนั้นก็ได้ชี้มือข้ามศรีษะตัวเองไปทางบริเวณวัด เหมือนจะเป็นการตอบคำถามของผมว่าบ้านเขาอยู่แถวนั้นผมดูนาฬิกาแล้วเห็นว่าเป็นเวลาแค่บ่าย 2 โมงกว่าๆ คงจะพาไปส่งที่บ้านได้ ก็เลยตัดสินใจจูงมือน้องพาเข้าไปในวัดเพราะไม่รู้จะไปทางไหนจริงๆ
พอเดินผ่านซุ้มประตูวัดเข้าไปก็เห็นศาลาวัดอย่างทางขวามือไม่ไกลนักจากซุ้มประตูทางเข้า ที่ศาลานั้นมีคนนั่งกันอยู่ประมาณ 6-7 คนพอเข้าไปใกล้ๆก็สังเกตได้ว่าคนเหล่านั้นเป็นคนเฒ่าคนแก่ทั้งหมด อายุประมาณน่าจะ 70-80 กันทุกคน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง จะมีผู้ชายอยู่ซัก2-3 คน คุณตาคุณยายเหล่านั้นแต่งตัวแบบคนแก่โบราณ โดยผู้หญิงนั้นใส่ผ้าถุง เสื้อคอกระเช้า ตัดผมทรงดอกกระทุ่มครับ (แบบบ่าวในเรื่องนางทาส) พวกเขากำลังนั่งคุยกันบนแคร่ไม้ไผ่ บางคนก็นั่งกินหมากไปด้วย ทุกคนคุยกันเสียงดังดูเฮาฮามีความสุขกันมาก
พอผมเดินเข้าไปในศาลาผมก็ได้ส่งเสียงถามออกไปว่า "คุณตาคุณยาย รู้จักบ้านน้องคนนี้มั้ย เห็นเขายืนร้องไห้อยู่ที่หน้าวัด ถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ" แต่สิ่งที่ผมพูดออกไปไม่มีใครสนใจเลย ทุกคนยังคงตั้งหน้าตั้งตาคุยกันอย่างสนุกสนาน ผมจึงเรียกและถามย้ำไปอีกครั้งนึง "คุณยายรู้จักน้องคนนี้มั้ย เห็นเขาชี้มาว่าบ้านเขาอยู่แถวนี้" พอได้ยินผมถามอีกรอบ คุณยายคนหนึ่งในกลุ่มก็ได้หยุดคุยแล้วหันมาทางผม แล้วก็พูดออกมาประโยคเดียวว่า "เขาก็อยู่ที่นี่แหละไอ้หนูเอ้ย" พอคุณยายพูดจบ คุณยายและทุกคนในศาลาก็พากันหัวเราซะดังลั่นเลยครับ ทันใดนั้นผมก็รู้สึกเหมือนหน้ามืด แล้วเข่าก็ทรุดลงไป คล้ายๆเป็นลม
พอทุกอย่างมืดลงผมก็ได้ยินเสียงเรียกดังแว่วๆมาตามลม "น้องๆ เป็นอะไรรึเปล่า ไม่สบายหรอ จะไปหาหมอมั้ย" ผมก็เลยลืมตาขึ้นมาเห็นน้าผู้หญิงคนนึงกำลังนั่งอยู่ข้างๆดูหน้าตาตื่น ตอนนั้นผมก็ยังมึนๆ งงๆ อยู่ครับ เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเป็นลมมาก่อน รู้สึกเจ็บหัวเข่าเห็นว่ามันถลอกปอกเปิก แต่ดูแล้วไม่เป็นอะไรมาก ก็เลยบอกน้าคนนั้นไปว่าไม่เป็นอะไร แล้วก็เลยเล่าให้น้าคนนั้นฟังว่าผมกำลังพาน้องผู้หญิงคนนั้นไปส่งบ้าน น้าคนนั้นก็ถามว่า "อ้าว แล้วน้องคนนั้นไปไหนแล้วล่ะ" ผมก็บอกไปว่า "เมื่อกี้ยังเดินจูงมามาอยู่เลย แล้วยังถามคุณยายในศาลานี้อยู่เลยว่าบ้านน้องเขาอยู่ไหน" พูดยังไม่ทันจบประโยคเลยครับ ผมก็หันไปทางศาลาที่อยู่ข้างๆ แต่ภาพที่ปรากฏอยู่คือ ศาลาที่ว่างเปล่าไม่มีคนเลยแม้แต่คนเดียว ไม่มีแม้กระทั่งแคร่ไม้ไผ่ที่ผมเห็นคุณยายนั่งกันอยู่เมื่อสักครู่
ผมก็เลยอึ้งๆไปและงงมากๆ ปากก็ยังบอกน้าไปว่าเมื่อกี้ยังมีคนนั่งอยู่เต็มเลย แล้วผมก็ตกใจมากไปกว่านั้นเมื่อน้าคนนั้นบอกต่อไปว่า"น้าขายของอยู่ตรงนี้ ก็เห็นหนูเดินมาคนเดียวแล้วก็ล้มลงไป น้าก็เลยวิ่งมาดู" ผมก็หมดปัญญาจะโต้แย้ง เพราะมองไปรอบตัวก็ไม่มีใครเลยจริงๆผมก็เลยได้แต่ขอบคุณน้าเขาและบอกเขาว่า "ผมไม่เป็นไรแล้ว เดี๋ยวจะกลับบ้านแล้วครับ" หลังจากที่ผมเดินกลับออกมาจากวัด ผมผ่านบล็อกที่เก็บศพครับ ที่เอากระดูกไปไว้และมีรูปภาพติดไว้ ผมดันเหลือบไปเห็นรูปของคุณตาคุณยายเป็นคนเดียวกับที่ผมเห็นที่ศาลาเลยครับ ผมจำได้ดีคุณคนยายที่บอกว่า "บ้านน้องก็อยู่นี่แหละ" แล้วก็มีรูปน้องคนนั้นติดอยู่ข้างๆรูปของคุณยาย ....
Post a Comment