หญิงปริศนากับกลิ่นดอกปีบ
เมื่อเราสัมผัสได้ถึงวิญญาณ ไม่ว่าจะเห็น หรือสัมผัส และได้กลิ่น เรื่องราววันนี้ชวนน่าขนลุกยิ่งนัก เรื่องของคุณเก๋ กับการไปเที่ยวเชียงใหม่ เธอพบกับบางอย่าง และเพื่อนๆของเธอที่ไหด้วยเริ่มสังเกตุเห็นอาการประหลาดของเก๋ และวพกเธอไม่สามารถหาคำตอบของเรื่องต่อไปนี้ที่เกิดขึ้นจริงกับพวกเธอ
เรื่องราวที่จะเล่าให้ฟังเป็นเหตุการณ์ที่พึ่งจะเกิดขึ้นสดๆร้อนๆเมื่อ 11 วันที่ผ่านมานี่เอง ทางบริษัทของเก๋นั้นได้มีการจัดทริปไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ โรงแรมที่พักนั้นก็อยู่ใกล้กับไนท์บาซ่า วันแรกที่เดินทางไปถึงเป็นช่วงเวลาประมาณตี 5 ทางคณะก็ได้ให้ทุกคนเข้าไปล้างหน้าล้างตาที่โรงแรม ขออธิบายก่อนว่าโรงแรมแห่งนี้ มีสภาพค่อนข้างจะเก่า เก๋และกลุ่มเพื่อนก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ ในขณะที่กำลังเดินไปห้องน้ำนั้น ก๋ก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งแต่งชุดไทยล้านนา ลักษณะคล้ายๆกับพนักงานของทางโรงแรม เธอคนนั้นยิ้มมาทางเก๋เก๋ก็ยิ้มทักทายกลับไป พอเพื่อนหันมาก็ถามว่าเก๋ยิ้มให้ใคร เก๋ก็เลยบอกกับเพื่อนว่ายิ้มให้พนักงานโรงแรม แต่พอเก๋หันกลับไปมองเธอคนนั้นอีกครั้ง ก็ไม่เห็นเธอแล้ว แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเดินมุ่งหน้าเข้าห้องน้ำไปทำธุระตามปกติ แล้วหลังจากนั้นเก๋กับกลุ่มเพื่อน
ก็ต้องขึ้นรถตู้ไปเที่ยวตามรายการของทัวร์ที่จัดเอาไว้ให้ กว่าจะกลับมาถึงโรงแรมอีกครั้งนั้นก็เป็นเวลา 5 โมงเย็นเข้าไปแล้ว ทางไกลก็บอกให้ทุกคนนั้นแยกย้ายกันเข้าพักตามห้องของตัวเองก่อน แล้วค่อยมารวมกันอีกทีเวลา 6 โมงครึ่ง
ห้องพักของเก๋กับเพื่อนที่ได้มานั้นเป็นห้องที่อยู่ริมสุด คือเป็นห้องที่อยู่สุดท้ายติดอยู่กับทางออกของบันไดหนีไฟ ความรู้สึกครั้งแรกที่เก๋เปิดประตูห้องเข้าไปนั้นคือ ได้กลิ่นของดอกปีบที่หอมมาก เก๋เลยหันไปพูดกับเพื่อนที่พักด้วยกันว่า "ที่นี่ดีจัง ฉีดน้ำหอมกลิ่นที่เราชอบซะด้วยนะ" แต่ว่าเพื่อนนั้นก็ทำหน้างงๆ ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันต่อ ต่างรีบแยกย้ายกันทำธุระส่วนตัวของตน เพื่อนของเก๋จัดการรื้อกระเป๋าเอาเสื้อผ้าออกมาไว้ด้านนอก เก๋ก็เลยขอตัวอาบน้ำก่อน พอทุกอย่างเรียบร้อยก็บอกกับเพื่อนว่า "เราไปรอตรงสระว่ายน้ำนะเดี๋ยวจะไปโทรศัพท์หาแม่ด้วย" พอเก๋ไปถึงสระว่ายน้ำ ตอนนั้นที่ไปไม่มีคนเลย ด้วยสภาพอากาศที่เย็นก็เลยไม่มีใครมาว่ายน้ำ เก๋คุยโทรศัพท์กับแม่อยู่พักนึง พอเสร็จก็เดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ พักเดียวเท่านั้นเก๋ก็ได้ยินเสียงทักมาจากด้านหลังว่า "ปิ๊กบ้านก่อเจ้า" พอหันหลังกลับไปมองก็เจอกับผู้หญิงคนนั้น คนเดิมกับที่ยิ้มให้เก๋ตอนมาถึงที่โรงแรมใหม่ๆ
เก๋หันไปก็เลยยิ้มให้ แล้วก็พูดกับเธอว่า "ไม่ใช่ค่ะ มาเที่ยว" เธอคนนั้นได้ฟังแล้วก็ยิ้มพร้อมกับถามอีกครั้งว่า "บ่ปิ๊กบ้านก่อเจ้า"แต่เก๋เริ่มงง ก็เลยยิ้มให้เขาแล้วเดินจะกลับไปหาเพื่อนที่ห้อง ในขณะที่หันหลังกลับก็เจอเพื่อนเดินมาพอดี เพื่อนก็ถามกับเก๋ว่า "แกคุยกับอะไรเรียกก็ไม่ได้ยิน" เก๋ก็เลยเล่าเรื่องที่เจอให้เพื่อนฟัง แต่ว่าเพื่อนก็สวนกลับมาว่า "ฉันไม่เห็นใครสักคน เห็นแต่แกยืนบ่นพึมพำอะไรอยู่คนเดียวก็ยังนึกอยู่ว่าคุยโทรศัพท์ไม่เสร็จหรือเปล่า" เก๋แปลกใจกับคำพูดที่เพื่อนบอก พอหันกลับไปอีกครั้งก็ไม่เจอกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว แต่ก็คิดว่าเธอคนนั้นคงเดินออกไปก่อนที่เพื่อนจะเดินสวนเข้ามาพอดี ก็เลยมองไม่เห็นกัน เลยตัดสินใจเดินกลับไปรวมเป็นกลุ่ม เพื่อไปทานอาหารเย็นหลังจากทุกคนทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว ในขณะที่กำลังจะเดินกลับห้องพัก เก๋ก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง เลยสะกิดบอกกับเพื่อนว่า"ผู้หญิงคนนั้นไง คนที่เราเล่าให้ฟัง" แต่ว่าเพื่อนหันไปมองก็ไม่เห็น เพื่อนเลยพูดกับเก๋ว่า "อย่าเล่นอย่างนี้ดิ" เก๋ก็เลยบอกกับเพื่อนว่า"ไม่มีอะไรหรอก เขาเดินเข้าไปด้านหลังแล้ว"
พอทั้งคู่กลับไปถึงห้องพัก ขออธิบายก่อนว่า เตียงนั้นเป็นเตียงคู่ เก๋กับเพื่อนนอนคนละเตียง ในขณะที่เก๋กำลังเคลิ้มอยู่นั้นใกล้จะหลับเต็มทน เก๋ก็รู้สึกตัวได้ว่ามีใครสักคนแน่นอนกำลังกอดมาจากด้านหลัง ตอนนั้นกำลังงัวเงีย คิดได้แค่ว่าเพื่อนน่าจะมาแกล้งแต่ว่าพอหันหน้ากลับไปถึงกับขนลุกไปทั้งตัวเลย เพราะเพื่อนก็ยังคงนอนหลับอยู่ที่เตียงของตัวเอง ตอนนั้นในใจคิดว่าอาจจะหลอนไปเอง
พยายามข่มตานอนอีกครั้ง แล้วอยู่ๆก็ได้กลิ่นดอกปีบลอยขึ้นมา เก๋นั้นข่มความกลัวจนหลับไป นอนหลับไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบได้ แต่มารู้สึกตัวอีกครั้งก็เพราะมีเสียงผู้หญิงมากระซิบที่ข้างหูว่า "ตื่นได้แล้ว" แต่ลืมตาขึ้นมาดูนาฬิกาเป็นเวลาตี 4 เลยหันไปมองเพื่อนก็เห็นว่าเพื่อนยังคงนอนหลับอยู่ ตอนนั้นก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็ลุกขึ้นจากเตียงทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็มาปลุกเพื่อน เนื่องจากเช้าวันนี้
ก็มีโปรแกรมแต่เช้า พอเดินลงลิฟท์มาสายตาก็เหลือบไปเจอผู้หญิงคนนั้นยืนยิ้มอยู่ เลยหันกลับไปยิ้มตอบ เพื่อนหันมาเจอก็ถามว่า "ยิ้มให้ใครอีก" พอกำลังจะชี้บอกเพื่อน ผู้หญิงคนนั้นที่ยืนอยู่ก็กลับหายไปต่อหน้าต่อตา วินาทีนั้นเก๋รับรู้ได้แล้วว่าเธอไม่น่าจะใช่คนแน่ๆ เก๋กับเพื่อนก็เลยรีบเดินเข้าไปรวมกลุ่ม เพื่อไปเที่ยวตามโปรแกรมของคณะ
พอถึงตอนเย็นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับห้องพักของตัวเอง วันนั้นเป็นวันสุดท้ายของการไปเที่ยว พวกเพื่อนๆก็เลยมารวมตัวกันที่ห้องของเก๋ เพื่อคุยกันตามประสาสาวๆ จู่ๆเพื่อนคนหนึ่งก็พูดขึ้นมาว่า "แกใช้น้ำหอมอะไร กลิ่นหอมดีจัง" เพื่อนอีกคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า"กลิ่นเหมือนดอกปีบเลย" ส่วนเก๋ก็กำลังจะบอกว่าไม่ได้ฉีดน้ำหอม และเพื่อนอีกคนก็พูดขึ้นมาอีกว่า "ก็ว่าจะถามอยู่เหมือนกัน วันนี้เดินอยู่ใกล้ๆได้กลิ่นตลอด" เก๋กับเพื่อนที่นอนพักอยู่ห้องเดียวกันก็ได้แต่มองหน้ากันด้วยความงุนงง เนื่องจากทั้งสองคนนั้นไม่ได้กลิ่นอะไรเลย สัมผัสไม่ได้ถึงกลิ่นดอกปีบที่เพื่อนกำลังคุยกันอยู่ สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร ทุกคนต่างคุยกันเรื่องอื่นจนดึก แล้วก็แยกย้ายกันกลับไปนอน พอเพื่อนๆกลับไปห้องของตัวเองแล้ว เก๋กับเพื่อนก็เลยขยับเตียงนอนเพื่อนำเตรียมมาชิดกัน ตัวของเก๋นั้นนอนอยู่ข้างในริมผนัง
ในช่วงที่กำลังจะเคลิ้มหลับก็มีความรู้สึกแบบเดิม คือมีใครสักคนกำลังมากอดจากด้านหลัง เก๋สะดุ้งแล้วลุกขึ้นหันไปมอง ในใจตอนนั้นกลัวมาก เพราะว่าเก๋นอนฝั่งผนังและเพื่อนก็นอนหลับอยู่ด้านข้าง พอไม่เห็นอะไร เก๋เลยขยับเข้าไปนอนใกล้เพื่อนมากที่สุด พยายามข่มความกลัว ในขณะที่กำลังจะเคลิ้มหลับกลิ่นดอกปีบก็หอมโชยมาจางๆ เหมือนกับว่าที่มาของกลิ่นนั้นอยู่ไกลๆ แล้วค่อยๆขยับ
มาใกล้ ความรู้สึกในขณะนั้นเหมือนตกอยู่ในภวังค์ แล้วก็มีเสียงผู้หญิงคนเดิมดังที่ข้างหูว่า "บ่ปิ๊กบ้านก่อเจ้า" เสียงพูดนั้นเย็นมากแล้วอยู่ๆเก๋ๆก็มองเห็นภาพเหมือนกับบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านไม้เรือนไทยที่สวยมาก พร้อมกันนั้นก็มองเห็นภาพเป็นผู้หญิงคนนั้นคนเดิมนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ เธอมองมาที่เก๋แล้วก็มีเสียงพูดขึ้นมาอีกว่า "บ่ปิ๊กบ้านก่อเจ้า ปิ๊กมาได้แล้วนะเจ้า" ความรู้สึกของเก๋ตอนนั้นใจมันหวิวๆ กำลังจะ
พยายามหันกลับไป แต่ว่าอยู่ๆเพื่อนก็สะกิดปลุก บอกว่าตี 5 แล้ว วันนี้เพื่อนๆนัดกันจะไปทำบุญก่อนกลับ เพราะว่าใกล้กับโรงแรมนั้นมีวัด
พอทุกคนทำบุญกันเสร็จแล้วก็แผ่เมตตาตามปกติ เก๋ก็พยายามนึกถึงและเผื่อแผ่ถึงผู้หญิงคนนั้นที่เจอด้วย พออธิษฐานเสร็จก็มีเสียง "สาธุ" เบาๆที่ข้างหู เก๋ขนลุกไปทั้งตัว พอกลับไปถึงโรงแรมก็เก็บของเตรียมตัวที่จะเดินทางกลับกรุงเทพ ตอนที่เก๋กำลังก้าวขึ้นรถตู้ก็ได้ยินเสียงเรียกมาเบาๆจากด้านหลัง พอหันกลับมามองก็เห็นเป็นผู้หญิงคนนั้นคนเดิม ยืนอยู่ด้วยหน้าตาที่เศร้าหมองมาก เหมือนกับว่าเธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ว่ายังไม่ทันที่จะได้ยินเพื่อนก็เรียกขึ้นรถก่อน แล้วทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าเธอคนนั้นและกลิ่นดอกปีบคืออะไรเธอต้องการอะไร หลังปีใหม่เก๋ตั้งใจวางแผนว่าจะกลับไปที่เชียงใหม่อีกครั้ง เพื่อหาคำตอบกับสิ่งที่เธอคาใจ
Post a Comment