แท็กซี่ตีนผีกับผู้โดยสารผี
เรื่องราวสุดหลอนของคุณต้นเกิดขึ้นกับเขาจากประสบการณ์ตรงที่เขาได้สัมผัสความรู้สึกหลอนนี้ ไม่ใช่เพียงแค่คนเดียวแต่หากว่ามีเพื่อนร่วมเดินทางเสียวไปได้คือ คนขับแท็กซี่ ลองไปติดตามรับชมรับฟังกันเลยครับเรื่องของคุณต้น
เรื่องราวและเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเป็นประสบการณ์ตรงที่ต้นได้พบเจอมาด้วยตัวเอง ขอย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา ในวันนั้นต้นกำลังจะกลับจากบ้านเพื่อนย่านพระราม 9 เวลาขณะนั้นประมาณตี1 ได้ ต้นได้เรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่บ้านแถววัดเสมียนนารี หลังจากรอสักพักก็ได้แท็กซี่ ต้นขึ้นนั่งที่ด้านหน้าข้างคนขับ แล้วก็บอกแท็กซี่ว่า "พี่ๆ ขึ้นทางด่วนเลย ผมจะรีบกลับบ้านนอน ง่วงนอนมาก" แล้วต้น
กับคนขับแท็กซี่ก็มุ่งหน้าขึ้นสู่ทางด่วน ตอนแรกนั้นต้นก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะว่าต้นก็กลับบ้านดึกเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ได้คาดคิดว่าคืนนั้นจะได้พบเจอกับเรื่องบางอย่างที่ทำให้ต้องตกตะลึง
ในขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งอยู่บนรถบนทางด่วนนั้น สายตาของต้นก็บังเอิญเหลือบไปมองด้านเบาะหลังคนขับ ซึ่งก็คือเบาะด้านขวาสายตาของต้นก็ได้เห็นเงา เป็นลักษณะเงาดำๆ มีผมยาวมาก นั่งอยู่เบาะด้านหลังคนขับ ต้นตกใจสุดขีดจนเผลอหลุดปากออกไปว่า "เฮ้ย!" พี่คนขับก็ตกใจกับเสียงที่ต้นร้องอุทานออกมาจนหันมามองหน้าต้นแล้วถามว่า "น้องเป็นอะไรร้องเสียงดังเลย" ต้นก็เลยบอกว่า "พี่ ผมเห็นเงาผู้หญิงผมยาวนั่งอยู่เบาะหลังพี่ ฝั่งเดียวกับพี่เลย" พี่แท็กซี่ได้ยินแบบนั้นก็ตอบกับต้นว่า "น้องคิดมากไปรึเปล่า เห็นพี่เปิดรายการเดอะช็อค ไม่ต้องมาบิ๊วเลย น้องไปดื่มเหล้าเมามารึเปล่า หรือว่าคิดไปเอง" แต่ต้นก็ยืนยันว่าเปล่า ไม่ได้ดื่มเหล้าเลย "ผมไม่ได้เมา ผมเห็นจริงๆ" พอต้นยืนยันหนักแน่นพี่คนขับรถแท็กซี่ก็ได้ชะโงกมองไปด้านหลังเพื่อพิสูจน์ว่ามีอะไรอยู่ที่เบาะหลังหรือไม่ พี่แท็กซี่มองที่เบาะหลังแวบหนึ่งแล้วก็หันมามองหน้าต้น พูดออกมาว่า"ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่" แต่ว่าต้นสังเกตุได้ชัดเจนว่าสีหน้าของพี่คนขับนั้นเปลี่ยนไป
แล้วพี่แท็กซี่ก็ขับรถไปเรื่อยๆ จู่ๆพี่คนขับก็เอ่ยปากขึ้นมาลอยๆว่า "ช่างเถอะ อยากอยู่ก็อยู่ไป อยากไปก็ไป ทางใครทางมันดีมั้ย สาธุ สาธุ อย่าเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย" พอพี่แท็กซี่พูดจบก็เริ่มเหยียบรถด้วยความเร็วสูง เหมือนกับว่าคันเร่งมีเท่าไหร่เหยียบไม่ยั้ง ต้นได้แต่นั่ง งงเป็นไก่ตาแตก คำพูดแปลกๆที่พี่คนขับพูดเมื่อสักครู่นั้นยังก้องอยู่ในโสตประสาทของต้น และก็รู้ด้วยว่าพี่เขาไม่ได้พูดกับตัวเองแน่นอน น่าจะพูดกับใครบางคนที่อยู่เบาะหลังมากกว่า พี่แท็กซี่อาจจะไม่อยากให้ต้นกลัวตอนที่หันไปมองจึงบอกว่า "ไม่เห็นมีอะไร" วินาทีนั้นรถวิ่งอยู่บนทางด่วนด้วยความเร็วสูง ต้นนั้นใจหนึ่งก็กลัวอุบัติเหตุ อีกใจหนึ่งก็กลัวผี ก็เลยได้แต่นั่งเงียบไม่สามารถพูดอะไรได้ ในใจนั้นคิดได้ว่า นี่ถ้าเกิดรถไม่ได้อยู่บนทางด่วนจะขอลงกลางทางเลยดีกว่า
และในระหว่างที่ต้นนั่งนิ่งทำตัวไม่ถูกอยู่นั้นก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ต้นหันเหลือบมองไปที่เบาะด้านหลังอีกครั้ง ต้นหันเหลือบไปเล็กๆก็ต้องตกใจสุดขีด เพราะคราวนี้ผู้โดยสารปริศนาที่อยู่เบาะหลังกำลังแสยะยิ้มให้กับต้น ใบหน้านั้นน่ากลัวมาก ต้นทำอะไรไม่ได้เลย จะร้องก็ร้องไม่ออก ส่วนที่คนขับก็ยังสวมวิญญาณตีนผีอยู่นั่นเอง ทำได้เพียงอย่างเดียวคือหันหน้ากลับมา นั่งตัวแข็งทื่อ ภาวนาในใจอยากให้ถึงบ้านไวๆ โดยที่ไม่คิดจะเหลือบมองไปทางด้านหลังอีกแม้เพียงเล็กน้อย
เวลาผ่านไปครู่หนึ่งก็เหมือนมีแสงสว่างสาดส่องมาที่ตัวของต้น เมื่อพี่แท็กซี่พูดขึ้นมาว่า "น้องๆ ถึงวัดเสมียนนารีแล้ว บ้านน้องอยู่ตรงไหน" ต้นรีบตอบทันควันว่า "ไม่เป็นไรครับพี่ ผมลงตรงนี้แหละ" ควักเงินค่าโดยสารให้กับพี่แท็กซี่แล้วก็บอกกับพี่เขาว่า "เงินทอนไม่ต้อง" ต้นรีบปิดประตูรถให้แล้วก็วิ่งกลับบ้านทันทีโดยที่ไม่หันกลับไปมองแท็กซี่คันนั้นอีกเลย ก็ไม่แน่ใจว่าผู้โดยสารคนก่อนหน้านี้เป็นใคร หรือว่าพี่แท็กซี่ไปรับใครขึ้นมา แล้วถ้าเกิดว่าวันนั้นต้นไม่ได้เลือกไปนั่งที่ด้านข้างคนขับ แล้วไปนั่งที่เบาะหลังก็ไม่รู้ว่าจะเห็นอะไรมากกว่านี้หรือไม่
Post a Comment