บ้านเก่าเคยเป็นสำนักทรงเจ้า


     เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม เข้าต้องย้ายบ้านใหม่ ซึ่งบ้านที่จะย้ายเข้าไปนั้นเคยเป็นบ้านสำนักทรงเจ้ามาก่อนประตูและหน้าต่างทุกใบมียันต์เขียนกำกับเอาไว้ทุกบาน  เรารู้สึกหวาดกลัวในช่วงแรกๆที่อยู่อาศัย เป็นสภาพบ้านเก่าในห้องที่เขานอน ก็มีเสาตกน้ำมันอยู่มีหิ้งเก่าๆ เล็กๆ 1 อัน วันที่เข้าไปทำความสะอาดห้องนอนครั้งแรกนั้น  พี่ชายของผมก็พูดขึ้นมาว่า "ถ้าเกิดงวดนี้ถูกหวย จะเปลี่ยนหิ้งใหม่ให้"  ในคืนนั้นเองก็มีหญิงคนหนึ่งเข้าฝันพี่ชายเพื่อมาบอกเลขและพี่ชายเขาได้ซื้อเลขที่หญิงคนที่เข้าฝันให้มาและในที่สุดพี่เขาถูกหวย  นั่นก็คือเรื่องราวแรกๆที่ย้ายเข้ามาอยู่ แล้วก็ผ่านไปไม่มีอะไร ทุกอย่างเป็นปกติจนกระทั่ง

      วันเวลาล่วงเลยผ่านไปประมาณ 3 ปีก็เริ่มที่จะมีเรื่องราวแปลกๆเกิดขึ้น เรื่องแรกนั้นพี่ชายก็ได้พาเพื่อนๆมานั่งกินนั่งดื่มสังสรรค์กันในบ้าน พี่ชายของผมนั้นนั่งหันหน้าไปทางหน้าต่าง บ้านหลังนี้ต้องบอกก่อนว่าไม่มีรั้ว ประตูเข้าบ้านอยู่หลังบ้าน แล้วก็เป็นบ้านชั้นเดียว ระหว่างที่เพื่อนๆของพี่นั้นนั่งสังสรรค์กันอยู่ก็เห็นว่ามีคนเดินผ่านหน้าต่างไป ซึ่งเห็นเฉพาะช่วงส่วนบนเท่านั้น ทุกคนในกลุ่มก็หันไปมองที่ประตูหลังบ้านนึกว่าจะมีสมาชิกมาเพิ่ม แต่ก็ไม่มีใครเดินเข้ามา พี่ชายก็เลยลุกขึ้นจากวงเดินไปชะโงกหน้าต่างดู มองไปด้านนอกหลังบ้านก็ไม่มีใคร ก็เลยเดินไปเปิดประตูเพื่อดู ก็ยังไม่เห็นมีใครอยู่ดี ต่างคนต่างมองหน้ากันแปลกๆ ในส่วนตัวของผมเองนั้นก็เคยพาเพื่อนๆมานั่งสังสรรค์ที่บ้าน ก็เจอเหตุการณ์ลักษณะคล้ายๆกัน นั่นคือเหมือนมีคนตามมา เดินผ่านหน้าต่างไปเหมือนจะตรงมาที่ประตู แต่ก็ไม่เห็นใคร

             แล้วก็ยังเคยมีเหตุการณ์ที่เจ้านายของพี่นั้นมาจากกรุงเทพมาขอนอนค้างที่บ้านเพื่อทำธุระ แต่ว่าเจ้านายของพี่ชายนั้นก็นอนอยู่ในบ้านได้แค่แป๊บเดียวแล้วก็ต้องลุกออกไปนอนที่รถโดยที่ไม่ยอมพูดจาอะไร พอเช้ามาพี่ก็ไปถามว่าทำไมไม่นอนในบ้าน เจ้านายก็บอกว่า "กรุนอนไม่ได้ เขาไม่ยอมให้กรุนอน" ห้องนอนของแม่นั้นก็เหมือนกัน ผมนอนไม่ได้ เวลาผมไปนอนจะโดนอำทั้งคืน มีเหตุการณ์หนึ่ง คืนนั้นผมไปนอนในห้องแม่ แล้วก็โดนอำอีกเหมือนปกติ แต่ว่ารอบนี้ลืมตามองไปที่ปลายเท้าแล้วก็ได้เห็นเห็นเป็นลักษณะผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก เหมือนกับว่าเป็นพ่อ แม่ และลูก ร่างทั้ง 3 ร่างนั้นยืนตระหง่านอยู่ที่ปลายเตียง แค่ยืนอาจจะไม่เท่าไหร่ ร่างทั้ง 3 ร่างนั้นมีเพียงแค่ร่างกายจริงๆ ทั้ง 3 ไม่มีศีรษะมีเพียงแค่ร่างกายยืนอยู่ หัวเป็นตอ ตอนนั้นผมตกใจมาก พยายามรวบรวมสติและกำลังที่มีเพื่อดิ้นจากอาการผีอำ พอหลุดแล้วก็รีบวิ่งออกไปนอนนอกห้องทันที พอเช้ามาเจอกับพี่ชายก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่พบเจอในห้องแม่ให้ฟัง แล้วพี่ก็พูดหน้าตาเฉยว่า "ตอนกรุนอนก็เจอแบบนี้แหละ" ทั้งหมดทั้งมวลนั้นเป็นเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้

             จนกระทั่งมาถึงเหตุการณ์ของคืนหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นกับตัวผมแบบจังๆ คืนนั้นเพื่อนของผมได้มาหาที่บ้าน ก็เลยนั่งคุยนั่งเล่นกัน มีตัวผมเองพี่ชาย แล้วก็เพื่อน เราสามคนนั่งคุยนั่งเล่นกันอยู่ในบ้าน แล้วจู่ๆเรื่องที่สนทนากันนั้นก็กลับกลายเป็นการเล่าเรื่องผีไปโดยไม่รู้ตัว เล่าเรื่องนั้นทีเรื่องนี้ที จนกระทั่งมาจบที่บ้านของตัวเอง ว่าเหตุการณ์ในบ้านนี้ก็ไม่ใช่ธรรมดา เจอยังไง ใครเจออะไร ก็นั่งคุยกันไปเรื่อย จนกระทั่งพี่ชายของผมก็พูดขึ้นมาว่า "คุยเรื่องแบบนี้กันสงสัยคืนนี้เขาน่าจะมา" พวกเราทั้งสามพอคุยกันจบก็ไม่ได้คิดอะไร ต่างแยกย้ายกันเข้านอน ตัวผมนั้นนอนในห้องของผมกับพี่ชาย ส่วนเพื่อนนั้นนอนอยู่ด้านนอก ลักษณะภายในห้องนอนนั้นจะมีที่นอน 5 ฟุตวางอยู่ติดกับกำแพงห้อง มีเพียงแต่ฟูก ไม่มีเตียง ตัวผมนอนบนฟูก พี่ชายนั้นนอนข้างๆ

              ก่อนนอนผมก็ได้หันไปคุยกับพี่อีก คุยเรื่องโน้นเรื่องนี้กันจนเริ่มที่จะง่วง ก็เลยบอกกับพั้ว่านอนเถอะ แล้วผมก็ได้พลิกตัวกลับมาทางด้านกำแพง สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าก็คือ มีผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่ข้างๆผม เธอนอนตะแคงมือแนบลำตัว ขานั้นเหยียดตรง แต่ว่าเธอนั้นไม่ได้นอนอยู่บนที่นอนกับผม เธอนอนตะแคงแปะอยู่กับข้างฝา ลักษณะเหมือนกับคนยืนตัวตรงมือแนบลำตัว แล้วก็เอามือนั้นแปะที่ข้างฝา ผมของเธอนั้นเหยียดตรงไม่ตกลงมาตามแรงโน้มถ่วง ผมได้เห็นภาพแบบนั้น ตัวนั้นชาไปทั้งร่าง ได้แต่นอนนิ่งๆทำอะไรไม่ถูก ผู้หญิงคนนั้นนอนแนบอยู่กับกำแพงห่างผมแค่เพียงนิดเดียว แล้วเธอก็เริ่มพูด ผมจับใจความไม่ได้แต่รู้สึกได้ว่าเธอกำลังต่อว่าผมและพี่ ผมได้แต่นอนตัวแข็งทำอะไรไม่ถูกอยู่นิ่งๆ ครู่หนึ่ง
เท่านั้นเธอคนนั้นก็หายไป หลังจากนั้นมาผมก็ไม่กล้านอนในห้องนอนอยู่พักใหญ่ๆ แล้วก็ไม่อาจทราบได้ว่าตั้ง 3 ร่างที่มายืนอยู่ในห้องแม่ โดยที่ไม่มีหัวนั้นเป็นใคร รวมไปถึงผู้หญิงที่นอนแปะอยู่กับกำแพงคนนั้นก็ไม่ทราบว่าเธอคือใครเช่นกัน แต่เรื่องทั้งหมดในคืนนั้นที่เธอมาต่อว่าผมและพี่อาจจะเป็นเพราะคำพูดคำนั้นก็ได้ "คืนนี้เขาน่าจะมา"

ไม่มีความคิดเห็น