เขาใหญ่กับเสือกินคน ภาค 1


     เรื่องราวสุดสยองเกียวกับเสือที่เขาใหญ่ ซึ่งอ้างอิงมาจากเรื่องจริง เป็นเรื่องราวที่ เป็นข่าวที่ลงในหน้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ปีพุทธศักราช 2541 เดือนมกราคม เราลองไปติตามชมกันเลยครับ

    "ไอ้มวลกับไอ้ชัยถูกไอ้ลายบุกเข้ามาตะปบถึงชานบ้าน หามส่งโรงพยาบาลไปเมื่อบ่ายนี้น่ะลุง" ผู้พิทักษ์ป่าในระแวกเรือนแถวดงติ้วติดลำตะคองไม่ยอมหลับยอมนอน รอบอกข่าวตระหนกนี้ให้กับลุงเชิด ชายร่างสันทัด ผมสีดอกเลา ดวงตาเย็นชา เมื่อฟังเรื่องเล่าอันหน้าตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นสดๆร้อนๆ เมื่อตอนสี่โมงครึ่ง ตรงเรือนแถวที่ถัดห้องของแกออกไปแค่สองห้อง

    คำมวนทองแต้ม ลูกจ้างสายตรวจป่าไม้เพิ่งออกเวร เห็นแดดพอมีเลยมานั่งซักผ้าอยู่ตรงชานหลังเรือนแถว ที่ยกพื้นสูงประมาณเมตรเศษๆ ในช่วงที่กำลังเพลินๆอยู่นั่นเอง เสียงสวบสาบดังมาจากราวป่า เงยหน้าขึ้นมามองอีกที เสือลายพาดกลอน หัวใหญ่เท่ากระแป๋งใส่น้ำซักผ้า ยืนแยกเขี้ยวอยู่ที่พื้น ห่างออกไปไม่ถึงห้าเมตร

    ยังไม่ทันจะขยับตัวมันก็กระโจนเข้าใส่ พรวดเดียวถึงตัว เขี้ยวเหลืองหมายงับที่ก้านคอ แค่ด้วยสัญชาตญาณเอาตัวรอด คำมวนใช้มือขวาปิดป้อง แขนขวาตั้งแต่ศอกขึ้นไปอยู่ในปากเสือ กระดูกแตก เลือดทะลัก ปากร้องขอความช่วยเหลือ ในขณะเดียวกันก็สู้ยิบตา

    เสียงโครมครามจนเรือนแถวทั้งแถบไหวเยือก ไอ้ลายสะบัดหัวพลางถูลู่ถูกัง หมายจะลากเหยื่อออกไป พิทักษ์ป่าเคราะห์ร้ายก็ขัดขืน เค้าสู้กับเสือทั้งๆที่แขนข้างนึงอยู่ในปากมัน ล้มกลิ้งเข้าไปในบ้านข้าวของกระจาย มารู้ตัวอีกครั้ง ทั้งคนทั้งเสือทะลุตัวบ้านกระเด็นมาตกอยู่ที่ลานด้านหน้าเรือนแถวเสียแล้ว

    อภิชัยเบียดกลาง สายตรวจป่าไม้อีกคนอยู่ในเรือนแถวติดๆกัน ได้ยินเสียงแหกปากร้องขอความช่วยเหลือ โผล่ออกมาดูเห็นไอ้ลายงับแขนเพื่อนกลิ้งอยู่หน้าบ้าน ยังไม่ทันจะตั้งสติ ไอ้ลายก็เปลี่ยนใจหันมาเล่นงานเค้า

    มันตะปบเข้าที่สะโพกจนล้มกลิ้งเลือดทะลัก ตัวเองกลิ้งตกลงไปในลำตะคอง ก่อนที่ทั้งคู่จะตกเป็นเหยื่อของไอ้ลาย ใครคนนึงก็คว้าปืนยิงเร็วมาได้ จะยิงใส่เสือก็ไม่กล้า เพราะเห็นชุลมุนกันอยู่เลยยิงขึ้นฟ้า "เปรี้ยง!!" ไอ้ลายตื่นทั้งคนตื่นทั้งเสียงปืน เลยเผ่นแผวลงลำตะคองเตลิดเข้าป่าไปแถววังจำปี

    ใครเลยจะคาดคิดว่าเขาใหญ่เมื่อวันวาน ห่างจากร้านอาหารและศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแค่ข้ามถนนธนรัตน์เพียงสองร้อยเมตร เสือใหญ่ตัวนี้บุกถึงบ้านเล่นงานคน แต่ถ้าใครรู้ความจริง อาจไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องแปลก

    เพราะแต่ไหนแต่ไรมา ย่านนี้คือถิ่นอาศัยที่ดีที่สุดของเสือโคร่งบนเขาใหญ่ เหตุการณ์เสือกินคนแห่งเขาใหญ่ ที่ซากของมันถูกเก็บรักษาไว้ในห้องนิทรรศการ เจ้าเสือแก่ตัวนั้นก็ขย้ำเด็กและพิทักษ์ป่าไปสองราย บริเวณใกล้เคียงกับเจ้าตัวใหม่บุกบ้านเจ้าหน้าที่ป่าไม้นั่นเอง

    เหตุการณ์เสือตัวแรกกินคนที่เขาใหญ่ ที่ถูกสต๊าฟไว้ในห้องนิทรรศการนั้น ก่อนเกิดหน้าเหตุการณ์นี้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ปีพุทธศักราช 2520 เวลายี่สิบนาฬิกา เสือโคร่งลายพาดกลอนขนาดใหญ่ตัวนี้ หลบอยู่ใต้ถุนบ้านพักของเจ้าหน้าที่เขาใหญ่

    เด็กหญิงศรีนวลซึ่งเป็นลูกของเจ้าหน้าที่ ขณะที่เด็กหญิงศรีนวลลงมาจากบันไดบ้าน เพื่อไปเก็บดิสอที่ตกไปใต้ถุนบ้าน เนื่องจากเวลานั้นเป็นเวลากลางคืน เสือแก่ตัวนี้ไม่สามารถจับสัตว์ป่ากินเป็นอาหารได้ จึงได้เปลี่ยนมาทำร้ายคนแทน

    เจ้าเสือแก่พุ่งเข้ากัดเด็กหญิงศรีนวลจนบาดเจ็บ แต่ไม่ทันได้คาบไป สุดท้ายเด็กน้อยไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหว จึงเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้นที่โรงพยาบาลจังหวัดสระบุรี ตามธรรมชาติของเสือ เมื่อได้ฆ่าคนแล้ว มันจะต้องกลับมากินเหยื่อเดิมอีก จึงได้มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อจัดการกับเสือตัวนี้

    และในคืนวันเดียวกันนั้น เวลาประมาณตีสอง นายสมพงษ์อุทัยสม สายตรวจอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กำลังปฏิบัติหน้าที่เพื่อจัดการกับเสือตัวดังกล่าว ในขณะที่นั่งกอดปืนอยู่ริมหน้าต่าง ซึ่งสูงจากพื้นประมาณสองเมตร ได้ยินเสียงสัญญาณผิวปาก จากนายอุทัยพูนเพ็ง ยื้นศีรษะออกดู จึงถูกเสือตะปบเป็นแผลเหวอะหวะ เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำนายสมพงษ์ไปส่งที่โรงพยาบาลปากช่อง แต่เสียชีวิตระหว่างทาง

    ลุงเชิดเหล็กสัก ได้ปลิดชีพเจ้าเสือกินคนตัวแรกที่ออกอาละวาดในอีกสองคืนถัดมา เพื่อไม่ให้ทำร้ายใครได้อีก หลังจากที่ได้ยินข่าวร้ายของเสือตัวที่สองที่อาละวาด ห่างจากเหตุการณ์เสือตัวแรกถึงยี่สิบปี

    จากอารมณ์แจ่มใสที่ใกล้จะมีลูกสะใภ้ กลายมาเป็นอาการตึงเครียด เช่นเดียวกับเพื่อนพิทักษ์ป่ารายอื่นๆในย่านนั้น ไม่มีใครคาดเดาได้ว่า เสือใหญ่จะหวนกลับมาอีกเมื่อไหร่ และใครจะตกเป็นเหยื่อของมัน เช่นเดียวกับปัญหาที่หลายคนไม่รู้คำตอบว่า อะไรเป็นเหตุให้ไอ้ลายตัวนี้กล้าหาญชาญชัย ถึงขนาดบุกล่าคนบนชานบ้าน

    ห้องแถวสองห้องติดๆกันนี้ก็ถูกปิดตาย เพราะเจ้าของถูกหามเข้าโรงพยาบาลด้วยฤทธิเขี้ยวเสือ ลุงเชิดมองไปที่ลูกซองห้านัดกระบอกเก่าคู่มือ ขณะที่สายตรวจหนุ่มอีกรายครอบครองปืนไรเฟิลอัตโนมัติ เอชเค. พร้อมแม็กกาซีนสิบห้านัด มาเรียบๆเคียงๆ เสนอจะมอบปืนให้ เพื่อให้ลุงเชิดไปสู้กับเสือ โดยบอกว่ามีปืนไว้ก็ไม่กล้ายิง "ไม่กล้ายิงก็เอามาไว้ที่กูนี่" เสียงแกพูดเรียบๆ จนไม่คิดว่าอีกสองชั่วโมงแกจะได้ใช้มัน

    ในประเทศที่กำลังก้มหน้าก้มตาแสวงหากำไร มอมเมาผู้คนไปท่องเที่ยว ผูกโยงไปเรื่องการอนุรักษ์ ไม่มีผู้เชี่ยวชาญสักคนที่เข้ามาดำเนินการ วิธีจัดการปัญหาที่ใช้ก็คือมาตรการ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน เสือมายิงเสือ เสือมาทำร้ายคนฆ่าเสือ

    เรือนแถวของเจ้าหน้าที่อุทยานเขาใหญ่ปลูกติดๆกันริมลำตะคอง เป็นไม้โย้เย้ประตูสังกะสี ยกพื้นสูงหนึ่งเมตร ด้านหน้ากั้นเป็นนอกชาน มีไม้ระแนงตีกั้นไว้โปร่งๆเป็นส่วนครัวและซักล้าง ด้านในเป็นที่ว่างๆ กางมุ้งกันเขรง ประตูบ้านเป็นสังกะสีผุๆ เอาตีนถีบทีเดียวก็มีสิทธิ์พังลงทั้งแถบ

    แต่เขาเหล่านี้ก็อยู่กันมาเป็นสิบๆปียังไม่มีปัญหา เพราะไม่ต้องกลัวพวกขโมยขโจรที่ไหน พวกกันทั้งนั้น แถบเรือนแถวห้องที่สี่เป็นลูกของลุงเชิด อยู่เกือบตรงกลาง เพราะเป็นที่ปลูกติดๆกัน มีแปดห้อง ด้านหลังแกต่อเติมออกมาเป็นอีกหลังไว้ให้เจ้าสมกิต ลูกชายที่เป็นลูกจ้างป่าไม้ให้นอนอยู่คนเดียว น้ำค้างแรงจัด ทุกคนดับไฟนอนกันหมดแล้ว ลุงเชิดพิงปืนไว้กับฝา ไม่ได้คิดว่าจะเกิดเรื่องร้าย เข้ามุ้งหลับไปพร้อมกับเมีย

ไม่มีความคิดเห็น