เรื่องเล่าออฟฟิศ
คุณบอยทำงาน ในออฟฟิศแห่งหนึ่ง ที่นี้มักมีเรื่องเล่าและคนเจอดีอยู่บ่อยครั้ง มีเรื่องเล่ามากมาย บางคนก็เล่าว่าเห็นเงาคนตรงนั้นตรงนี้ ซึ่งแต่ละคนก็จะเห็นแตกต่างกันไป คุณบอยทำงานอยู่ที่นี่มาเกือบห้าปี มีอยู่เรื่องหนึ่ง ที่คุณบอยรู้สึกว่าทุกคนจะเล่าตรงกันมากที่สุด จากบรรดาเพื่อนๆที่อยู่ในออฟฟิศ
ออฟฟิศแห่งนี้มีทั้งหมดสามชั้น ด้านบนจะเป็นดาดฟ้า เรื่องมันเกิดขึ้นในโกดังที่อยู่ชั้นหนึ่ง เป็นห้องที่เอาไว้เก็บหนังสือต่างๆนาๆ
ซึ่งออฟฟิศแห่งนี้ทำเกี่ยวกับนิตยสาร เมื่อเริ่มการจัดจำหน่ายออกไป ก็จะมีส่วนหนึ่งที่ถูกตีกลับเข้ามา ต้องนำไปเก็บสต๊อกไว้ในโกดัง เพื่อรอนำไปขายในงานกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับงานหนังสือ
มีอยู่ครั้งหนึ่ง คุณบั้มซึ่งเป็นเด็กใหม่ เพิ่งเข้ามาทำงานในออฟฟิศนี้ได้ไม่นานนัก แล้วถูกบรรจุให้ไปอยู่ในส่วนของการสต๊อกของ โดยปกติแล้วออฟฟิศจะปิดหกโมง แต่บางครั้งก็จะต้องมีการทำงานล่วงเวลา จนกินเวลาไปจนถึงดึกดื่น
วันหนึ่ง คุณบั้มเดินเข้าไปในตัวโกดังคนเดียว เพื่อทำการคัดแย่งนิตยสารที่จะเอาไปขายในงานกิจกรรม และมีพวกพี่ๆอีกกลุ่มหนึ่งที่อยู่หน้าโกดัง แต่ไม่ได้เข้ามาด้วย โกดังมีความยาวเกือบสองร้อยเมตร กว้างประมาณยี่สิบเมตร สูงสี่ชั้น
ทุกครั้งที่ก้าวขาเข้ามาในโกดังแห่งนี้ บรรยากาศมันมักจะไม่เหมือนเดิม บางครั้งก็รู้สึกร้อนวูบวาบ บางครั้งรู้สึกเหมือนมีไอเย็นลอยฝุ้งไปทั่ว กลิ่นอับที่ไม่เคยจางหายไปไหน เป็นเอกลักษณ์ของโกดังแห่งนี้
ภายในโกดังจะมีชั้นเก็บนิตยสารตั้งเรียงๆกันเหมือนห้องสมุดทั่วไป ยาวไปจนถึงท้ายโกดัง ต้องพกไฟฉายเข้าไปด้วย เนื่องจากหลอดนีออนที่ติดอยู่ด้านบนถึงมันจะมีอยู่หลาดหลอดด้วยกัน แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ที่นี่ดูสว่างมากนัก เพราะมันอยู่สูงเกินไป และไหนจะมีอยู่แค่ไม่กี่หลอด ทำให้ที่นี่ดูสลัวๆน่าอึดอัด
คุณบั้มนั่งแยกนิตยสารอยู่ด้านในสุด ซึ่งมันจะเป็นกำแพงตัน โดยนั่งพิงกำแพงเก่าๆแล้วหันหน้าไปที่ทางออก บรรยากาศภายในเงียบมากคล้ายหูอื้อ มีเสียงจิ้งจกคอยร้องทักอยู่เป็นเพื่อน แต่ในช่วงเวลานั้นเอง คุณบั้มรู้สึกมีอะไรบางอย่างที่ผิดสังเกต แถวๆหางตาทางด้านซ้าย จึงค่อยๆหันไปมอง
ด้านซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งอยู่มุมสุดของโกดัง ด้านบนของประตูจะมีหลอดไฟเล็กๆเพียงแค่หลอดเดียว ปรากฏว่าเห็นเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ลักษณะผมยาวปกหน้าจนถึงจมูก คลุมผ้าสีขาวยาวไปจนถึงเท้า ยืนส่งยิ้มหวานให้
คุณบั้มรีบหันกลับแล้วก้มหน้าลงทันที หัวใจเต้นตูมตามเหมือนคนที่กำลังรัวกลอง มันไม่น่าจะมีใครยืนอยู่ตรงนั้นได้ พยายามปลอบใจตัวเองว่าตาฝาดแน่ๆ และอึดใจนั้น คุณบั้มตัดสินใจที่จะหันกลับไปดูอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ความจริง
ปรากฏว่าเธอคนนั้นยังยืนอยู่จุดเดิม แต่เปลี่ยนอิริยาบถจากเดิมที่ยืนตัวตรง คราวนี้เธอโค้งลำตัวลงมาสี่สิบห้าองศาเหมือนคนแก่หลังค่อม แล้วเชิดหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้
คุณบั้มรู้สึกจุดที่ท้องน้อย หายใจไม่ทั่วท้อง ไม่รู้ว่าเป็นการคิดไปเองหรือเปล่า แต่เหมือนว่าเธอคนนั้นเริ่มยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนมุมปากยาวไปจนจะถึงใบหู คุณบั้มรีบหันกลับมาก้มหน้าเหมือนเดิม เพราะทนมองภาพที่มันน่าสยดสยองแบบนั้นต่อไปไม่ไหว
รู้สึกว่าขนหัวมันตั้งชันขึ้นเรื่อยๆ เย็นวูบวาบขึ้นที่สันหลัง ความกลัวความหวาดผวาถาโถมเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง กลอกสายตาไปมาในขณะที่ก้มหน้าอยู่เพราะความหวาดระแวงจัด อยากลุงวิ่งหนีแต่ตัวมันกลับแข็งทื่อเอาเสียอย่างนั้น
ใจหนึ่งก็สงสัยว่าเราเจอผีเข้าแล้วจริงๆเหรอ หรือว่าเราง่วงจนเห็นภาพหลอนไปเอง ก็อาจเป็นได้เพราะวันนี้เราทำงานมาก็เกือบจะสิบห้าชั่วโมงเข้าไปแล้ว คงเป็นเพราะเราเหนื่อยเกินไปแน่ๆ
เมื่อคิดได้อย่างนั้น คุณบั้มจึงค่อยๆหันกลับไปมองที่หน้าห้องน้ำอีกครั้ง แต่รอบนี้ภาพที่เห็นทำให้คุณบั้มเผลอสะอึกเฮือกใหญ่ กลั้นหายใจเองโดยอัตโนมัติ เพราะเธอคนนั้นนอนราบไปกับพื้น แล้วยกลำตัวท่อนบนขึ้นมาตั้งตรง คล้ายตัวแอลกลับด้าน
ซึ่งปกติสรีระร่างกายของคนไม่สามารถทำอะไรเช่นนี้ได้ แถมเธอยังแยกเขี้ยวยีฟันให้คุณดั้มจนมองเห็นฟันขาวเรียงซี้เงาวับ ภาพที่เห็นมันทำให้ความอดทนของคุณบั้มมาถึงขีดสุด โยนนิตยสารในมือทิ้งแล้ววิ่งร้องไห้กระเจิดกระเจิงออกนอกโกดัง
พวกพี่ๆที่นั่งกันอยู่หน้าโกดังเห็นแบบนั้นก็ตกใจ ต่างวิ่งตามไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น คุณบั้มพูดตัวสั่นปากสั่นว่า "ผมเจอผีๆๆๆ" พวกพี่ๆก็เลยเดินเข้าไปดูในโกดัง แต่เจอไม่เจออะไรที่ผิดปกติ
เรื่องราวในลักษณะนี้จะเป็นเรื่องที่คุณบอยได้ยินมามากที่สุด เกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ในโกดัง เพราะทุกคนที่อยู่เวรทำโอที มักจะเจอเข้ากับเธอในลักษณะท่าทางที่แปลกประหลาดผิดมนุษย์มนา
และล่าสุดในเวลาประมาณสี่ทุ่มเศษๆ คุณบั้มต้องเข้าไปค้นเอกสารในโกดัง ซึ่งอยู่ล๊อคแถวท้ายๆ ลักษณะตู้เก็บจะเป็นชั้นเหมือนตู้หนังสือที่มีสองฝั่ง เมื่อหยิบหนังสือออกมาก็จะสามารถมองลอดไปอีกฝั่งได้
ในขณะที่คุณบั้มหยิบเอกสารออกมาจากชั้น ปรากฏว่าเห็นเธอคนนั้นยืนอยู่อีกฝั่งของชั้นวางหนังสือ แต่คราวนี้เธอไม่มีผมปิดบังใบหน้า ทำให้คุณบั้มเห็นได้อย่างชัดเจน ลูกกะตาปูดโปน ใบหน้าเขียวคล้ำ ทำหน้าบึ้งตึง
ทุกคนที่ทำงานที่นี่จะเจอในลักษณะนี้กันแทบทุกคน แต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป คาดว่าเธอคนนี้อาจจะอยู่ที่นี่มาก่อนที่จะสร้างโกดังเสียอีก และทุกคนยืนยันว่า เธอยังอยู่ในโกดังจนถึงปัจจุบันนี้ และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมด
Post a Comment