เรื่องหลอนมหาลัยย่านนครปฐม


     เรื่องจากเจ้าของกระทู้จากพันทิป เล่าโดยสมาชิกพันทิป SteeL14s กลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้กับเรื่องหลอนๆในรั้วมหาลัย ครั้งนี้เราไปที่มหาลัยย่าน นครปฐม มหาลัยเก่าแก่กว่า 70 ปี แน่นอนครับมีเรื่องตำนานมากมายลองไปติดตามชมกันเลยครับ

      มหาวิทยาลัยมหาลัยย่าน นครปฐม ขึ้นชื่อเรื่องผีดุ อันดับต้น ๆ ของเมืองไทย พูดถึงมหาวิทยาลัยมหาลัยย่าน นครปฐม แน่นอนว่า บุคคลแรกที่เราจะต้องนึกถึง คงไม่พ้น ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี "นาย...ถ้าฉันตาย นายนึกถึงฉัน นายรักฉัน นายไม่ต้องไป ทําอะไร นายทํางาน" ประโยคนี้ เป็นประโยคที่ผมได้ฟังได้อ่านทีไร ยังรู้สึกขนลุกทุกครั้งครับ มหาวิทยาลัยมหาลัยย่าน นครปฐม  ตั้งอยู่บนเนื้อที่เดิมของอาณาบริเวณเขตพระราชฐานพระราชวังสนามจันทร์ครับ เป็นพระราชวังฤดูร้อนใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เรื่องราวของที่นี่ส่วนใหญ่คล้ายคลึงกับที่สวนสุนันทาพอสมควรครับ อาจจะ ด้วยความที่เป็นวังเก่าเหมือนกัน

- ลานทรงพล
     ทุกวันนี้ก็เป็นลานที่สวยงามครับ ร่มรื่นด้วยหมู่ไม้ แต่พอฟังประวัติก็ถึงกับเสียวสันหลัง เพราะว่าลานทรงพลที่ผมไปยืนอยู่ ณ เวลา นั้น เค้าบอกว่าเป็นลานประหารเก่า (คือเค้าเคยฟันหัวกันตรงที่ผมยืนนั่นเอง) บ้างก็ว่าห้ามสวดชินบัญชร บ้างก็ว่าเห็นผู้หญิงนุ่งห่ม สไบ

- ชั้นสองตึกอักษรฯ
     คณะอักษรศาสตร์ ก็นับได้ว่าเป็นคณะแรกของวิทยาเขตสนามจันทร์เลยนะครับ (ข้อมูลผิดพลาดยังไงขออภัย) ก็เล่ากันว่าที่ชั้นสอง ของตึกคณะ มีหลายคนเคยพบเห็นคนโบราณนุ่งโจงกระเบนสีแดงสด

- ศาลหน้าตึกอักษรฯ
     ผมมีพี่คนหนึ่งเรียนอยู่ที่นี่ครับ ชื่อพี่โดนัท พี่โดนัทเล่าให้ฟังว่าเคยมีเพื่อนเค้าคนหนึ่ง จู่ๆ ก็ขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาไหว้ศาลแล้วก็ขี่ ออกไป สักพักคนที่ขี่ก็ได้ยินเสียงอะไรครูดคราดที่ด้านหลัง หันกลับไปเห็นคนครึ่งตัวคลานตามมา (ผมว่าถ้าเรื่องนี้เป็นจริง เพื่อนพี่ โดนัทไม่น่าจะทําแค่ไหว้ น่าจะทําอะไรร้ายแรงกว่านั้น ไม่งั้นคงไม่โดนคลานตาม)

     เรื่องของศาลตึกอักษรฯ ยังไม่หมดครับ น้อง ๆ ในคณะหลายคนบอกกันว่า ศาลที่คณะจัดได้ว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ขออะไรส่วนใหญ่จะ สําเร็จทุกทีไป แต่มีกฏก็คือ “ขอได้ แต่ห้ามบน” น้องคนเดิมเล่าให้ฟังต่อว่าเคยมีรุ่นพี่มาบนเรื่องสอบ แล้วปรากฏว่าสอบได้จริง ๆ แต่ ดันไม่ไปแก้บน คืนหนึ่งรุ่นพี่คนนี้ก็ฝันว่าตัวไปอยู่ในโรงละครทรงพลพร้อมกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ไปบนด้วยกัน แล้วก็มีเพชฌฆาตร่างสูง ใหญ่ เดินมาฟันหัวพวกเค้าทีละคน

- สะพานข้ามดาว
     เวลาเที่ยงคืนห้ามปั่นจักรยานผ่านสะพานข้ามดาว (สะพานจะอยู่แถว ๆ ลานทรงพล) หากไปปั้น ว่ากันว่าจะไม่ได้กลับมายังที่เดิม (น่าจะหมายถึงทะลุมิติอะไรแบบนั้นครับ)

- เพลงกลิ่นจันทร์
     เพลงนี้เห็นว่าเป็นเพลงประจํามหาวิทยาลัยครับ หากใครร้องยามค่ําคืนต้องร้องให้จบ ไม่งั้นจะเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทย (เรื่องนี้คล้ายๆ กับตํานานเพลง เจ้านกน้อย ของมหิดลอยู่เหมือนกันครับ แต่ของมหิดลนี่ถ้าร้องไม่จบจะมีผีมาช่วยร้องต่อให้จบ เรื่องเพลงเจ้า นกน้อยที่มหิดลนี่ดังพอตัวเลยนะครับ เพื่อนผมอยู่ ม.กรุงเทพ ยังเคยได้ยิน)

- ตึกศิลป์ 3 คณะมัณฑนศิลป์
     เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวพี่โดนัทเองเลยครับ พี่โดนัทเรียนอยู่คณะมัณฑนศิลป์ ช่วงรับน้องก็อยู่มหาวิทยาลัยกันดึกดื่นเตรียมทําพร็อพ ระหว่างนั้นเองก็มีเพื่อนอีกคนนึง ควักเอากล้องวิดีโอขึ้นมาถ่าย ปรากฏว่าระหว่างถ่ายเค้าเห็นผู้หญิงใส่ชุดขาววาบผ่านหน้ากล้องไป เพื่อนคนนี้ก็ตกใจรีบเรียกเพื่อน ๆ มาดู ก็กรอเทปย้อนกลับไป (สมัยนั้นเป็นเทปมินิ DV ครับ) แล้วพอเปิดเล่นใหม่อีกครั้ง ก็ยังพบว่า ถ่ายติดผู้หญิงชุดขาวคนนั้นอยู่ในกล้องด้วย ทุกคนต่างก็ตกใจ จึงรีบลบออกทันที (ถ้าเป็นสมัยนี้คงได้ไปออกคลิปแบทเทิลแล้วนะ ครับ)

      เรื่องยังไม่จบง่ายๆ ครับ คืนต่อมาพวกพี่โดนัทก็ยังคงทําพร็อพกันต่อ เพื่อนอีกคนที่เพิ่งมาใหม่ (พี่โดนัทเล่าว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนมี เซ้นส์) เพื่อนคนที่มีเซ้นส์นี้เองที่ได้บอกพี่โดนัทว่าให้บอกเพื่อนให้เบา ๆ หน่อย มีคนมาดูอยู่นะ เป็นผู้หญิงชุดขาว (ทั้ง ๆ ที่พี่คนนี้ไม่ ได้รู้เรื่องผู้หญิงชุดขาวในกล้องมาก่อนเลย)
เรื่องนี้ยังมีภาค 2 นะครับ คือพี่โดนัทเนี่ยมีเพื่อนคนนึงชื่อพี่เอ (ทุกวันนี้เป็นอาจารย์สอนที่มหาลัยย่าน นครปฐม ด้วย) พี่เอเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องผี อย่างรุนแรง พอพี่เอรู้เรื่องที่เพื่อน ๆ ถ่ายติดผี แกก็ไม่เชื่อครับ ก็มานั่งทํางานพร็อพด้วยกันในอีกคืนหนึ่ง ระหว่างนั่งกันอยู่พี่เอก็ ดีดฝาน้ําเล่น ๆ แต่ฝาที่ว่า กลับลอยไซดโค้งไปปิดสวิตซ์ไฟดับ ซึ่งไอ้สวิตช์ไฟที่ว่าเนี่ยอยู่ไกลมากกกก แค่ดีดให้ฝาน้ําไป ปิดสวิตช์ไฟดับได้ก็ยากแล้ว นี่ลอยไซด์โค้งข้ามกลุ่มเพื่อนไปดับได้อีก นั่นล่ะครับ ทุกคนพากันวิ่งป่าราบอยู่ไม่ไหวแล้วหลังโดนกัน มาหลายคืน (ผมมีโอกาสได้ไปคุยกับพี่เอด้วยนะครับ แกก็ยังยืนยันว่าไม่ใช่ผีหรอก บังเอ็ญ 55555)

     เช้าวันต่อมาทุกคนก็เอาดอกไม้ เอาลําไยมาขอขมาล่ะครับ โดยวางไว้บนตู้ดับเพลิง ตกเย็นมาดูปรากฏว่าลําไยถูกแกะซะงั้น พี่ โดนัทก็บอกว่าไม่น่าจะใช่ฝีมือสัตว์ เพราะตู้ดับเพลิงมันอยู่สูง ก็เป็นอีกเหตุการณ์ที่อธิบายไม่ได้ครับ

- เรือนนางสนม
      นี่เป็นเรื่องที่พูดได้ว่าน่ากลัวที่สุดของที่นี่เลยครับ เรือนนางสนมนนางสนมเป็นใครไม่มีข้อมูลใดๆ บอกไว้เลย แต่เท่าที่ฟังมานี่คือ มีอายุเก่าแก่มาก บางกระแสว่าเผลอ ๆ เก่าประมาณสมัย ร.5 ด้วยซ้ํา เรื่องเล่าเรือนนางสนมนี่เยอะมากครับ มีตั้งแต่ถ้าไปปั่นจักรยาน หน้าเรือนนางสนมตอนดึก ปั้น ๆ ไปจะรู้สึกว่ารถหนักขึ้น หันหลังไปจะเห็นมีผู้หญิงชุดไทยไม่มีหน้านั่งซ้อนหลังอยู่ แถมไม่นั่ง อย่างเดียว เอาเล็บยาวเฟือยลากพื้นไปด้วยอีกต่างหาก

     อาจารย์เอ (ขอเรียกอาจารย์นะครับ พี่เค้าเป็นอาจารย์แล้ว) แกเล่าว่าเคยฟังมาว่าเหตุผลที่บ้านหลังนี้ปัจจุบันต้องปิดหน้าต่าง ก็ เพราะว่าคนผ่านไปผ่านมาชอบเห็นผู้หญิงอยู่ในตัวเรือน (เรือนจะเป็นสถาปัตยกรรมยุคเก่าครับ ยกใต้ถุนขึ้นสูง) และที่เด็ดมันอยู่ ตรงที่คนเข้าไปในเรือนน่ะ จะไม่เจอ คนเจออะ จะเป็นคนที่รออยู่ข้างนอก !!

     ผมได้ลองขึ้นไปกันมาแล้วด้วยนะครับ เอาจากเริ่มแรกก่อน ก็ไปเดินสํารวจใต้ถุน แค่ใต้ดินก็วิ่งกันแล้วครับ ไปเจองูเหลือมตัว เบ้อเริ่ม เพื่อนผมว่าเป็นงูเหลือมจุดทอง (ลายจุดทอง ๆ ตามตัว) โบราณว่าถ้ามีงูเหลือมลักษณะนี้อยู่ใต้ถุนบ้าน แปลว่าเป็นงูเจ้าที่ ก็ ขึ้นไปบนเรือนกันครับ ไปสํารวจกันดู (ไม่ได้ไปทําลายอะไรเลยนะครับ กล่าวขอโทษเด็กทับแก้วมา ณ ที่นี้) ลักษณะภายในก็เป็น เหมือนที่เราเห็นตามหนังย้อนยุคแหละครับ ยุคคนไทยแต่งสูทใส่หมวกนั่งรถม้า จะลองก็ต้องลองให้สุดครับ ผมก็เลยไปลองดู ใกล้หน้าต่าง ถามว่ากลัวไหมก็กลัวอยู่แล้วครับ แต่ไปทั้งทีต้องเอาให้สุด ระหว่างรอยู่นี่ได้ยินเสียงอะไรรอบตัวตลอดเลยครับ แต่ บอกไม่ได้ว่ามันเสียงอะไร จนมาตัดสินใจหยุดแล้วลงดีกว่าตอนได้กลิน ๆ หนึ่งครับ เป็นกลิ่นคล้าย ๆ กลิ่นสาบคนแก่ พอลงมาก็ไป ถามน้องๆ ที่อยู่ด้านล่างครับว่าเห็นอะไรตามเรื่องเล่าบ้าง น้องมันบอกไม่รู้ไม่กล้ามอง (ยิ้ม !)

- สระแก้ว
     แต่เดิมใช้เป็นที่ถ่วงน้ํานักโทษครับ เคยมีคนมาเล่าให้ฟังด้วยว่าเคยงมพบลูกตุ้มถ่วงน้ําจากในสระ อันนี้จริงเท็จยังไงผมไม่ทราบจริง ๆ เพราะไม่ได้ลงไปดําดู

- สไบเขียว-สไบแดง
     อาจารย์เอ (ผู้ไม่เชื่อเรื่องผี) เล่าให้ฟังครับ ว่าซัก 8-9 ปีที่แล้วนับจากสมัยแกยังเป็นนักศึกษา สมัยนั้นส่วนใหญ่คนจะขี่จักรยานในมอ กัน หากปั่นเส้นเลียบคลองตอนเที่ยงคืน (ตอนนี้เป็นตึกหมดแล้ว) ปั่นไปเค้าว่าจะเจอผู้หญิงใส่ชุดไทยโบกมือให้จากริมคลอง ถ้าเจอสไบขียวก็โชคดีไป แต่ถ้าเจอสไบแดง ห้ามหันไปมองให้เค้ารู้ตัวเด็ดขาด ไม่งั้นเค้าจะตามกลับไปบ้าน

ไม่มีความคิดเห็น