ตำนานมหาวิทยาลัยไทยในกรุงเทพย่านรังสิต


      ยังคงต่อเนื่องจากเรื่องของสมาชิกพันทิป SteeL14s ครั้งนี้จะมาเสนอเรื่องราวตำนานของมหาวิทยาลัยไทยในกรุงเทพย่านรังสิต มหาลัยที่ขึ้นชื่อเรื่องนิสิตสาวสวยลองไปติดตามกันเลยครับ

     ทุกครั้งที่ได้ไปเยือนมหาลัยนี้ ผมเป็นต้องใจเต้นทุกครั้งเลยครับ สาว ๆ นักศึกษาที่นี่น่ารักมากกกก (การันตีด้วยอันดับ 1 โพลผล โหวต มหาวิทยาลัยที่มีนักศึกษาน่ารักที่สุดของปีที่แล้ว) แต่กับเรื่องผีนี่คนละเรื่องเลยครับ ตอนที่ผมหาข้อมูลเตรียมไปถ่าย เกี่ยวกับเรื่องผีของที่นี่บอกได้เลย...ว่าไม่มีแม้แต่เรื่องเดียว ไม่มีจริง ๆ ครับ ตามเน็ต ตามกระทู้ ตามเว็บบอร์ดเมื่อพูดถึง มหาวิทยาลัยที่นี่ ล้วนมีแต่เรื่องสยองตามหอพักทั้งนั้น คนโดดตึกตายบ้าง โดนยิงบ้าง แต่ในตัวมหาวิทยาลัยนี้ไม่มีเลย (เล่น เอาโมโหจนเผลอบ่นออกมาเลยครับ ว่าเด็กที่นี้มันยังไง เรียนกันอยู่ไม่มีตายกันบ้างไง? (ฮ่า)) ผมวางแผนไว้ว่าจะเริ่มถ่ายกัน ประมาณสองทุ่มครับ ขณะที่กําลังจะตัดใจอยู่แล้วนั่นเอง เวลาประมาณ 18.30 น. ก็มีแสงสว่างส่องลงมาครับ น้องสนิทผมคนนึง (ตอนนี้ไปอยู่เชียงใหม่แล้ว) โทรมาเล่าเรื่องผีของ มหาวิทยาลัยนี้  ให้ผมฟังครับ เธอได้ข่าวว่าผมกําลังหาข้อมูลอยู่ แล้วข้อมูลที่ได้มานี่ บอกเลยว่าพลิกคดีจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ จากมหาวิทยาลัยที่ไม่มีเรื่องผี กลายเป็นว่าเรื่องผีของที่นี่ ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ขนาดเอาไปสร้างละครได้เลย

- เรื่องของ ต.
      ขอชี้แจงนิดนึงนะครับ เรื่องราวของบุคคลชื่อย่อ ต. ที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ ผมฟังมาจากน้องสาวผมชื่อเพลง และเพลง เธอได้ฟังมา จากน้องสนิทในกลุ่มของ ต. เราไม่ได้มั่วเรื่องหรือปรักปรําหรือหวังร้ายใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่น้องในกลุ่ม ต. เค้าได้พบได้ เห็นมาเลยนํามาเล่าให้ฟัง หากคนที่รู้จักกับ ต. มาอ่านเข้าแล้วรู้สึกไม่พอใจ ผมขอโทษล่วงหน้าเลยครับ (ผมเคยโดนด่าในยูทูบจน ต้องปิดคลิปมาแล้วครับ) และกรุณาอย่าถามเลยครับว่าน้องสนิทของ ต. ไอ้ที่ว่านี่มันเป็นใคร น้องเค้ามาว่าห้ามบอกว่าเค้าเป็นคน เล่าเด็ดขาด เพราะเค้าไม่อยากซวย (ลองถ้าโกรธถึงขั้นมาถามว่าไอ้คนเล่าเป็นใคร ผมคงไม่กล้าบอกหรอกครับ เดี๋ยวน้องคนนี้มัน จะโดนกระทืบเอา)

     มาเริ่มกันดีกว่าครับ ต. เป็นนักศึกษาคณะศิลปกรรมครับ ที่ มหาวิทยาลัย หลังตึกศิลปกรรมจะมีช็อปของคณะอยู่ เป็นอาคารชั้นเดียวมี หลังคากันสาด หน้าอาคารจะเป็นสนามบาส ต. เค้าเสียชีวิตลงที่ช็อปแห่งนี้ครับ เห็นว่าหล่นลงมาจากหลังคา จุดที่เสีย ข่าวว่ายืนหัน หน้าให้ตึก จะอยู่ประมาณช่องกันสาดที่ 3 นับจากซ้ายครับ สาเหตุการตาย เล่ากันหลายกระแสครับ แต่ที่หนาหูสุดคือประเด็นที่ว่า ต. เค้าขึ้นหลังคาไปจะถ่ายรูป แล้วพลาดตกลงมา (กระแสนี้มี 2 ทางครับ คือถ่ายรูปส่งอาจารย์ กับถ่ายให้แฟน) หลังจาก ต. ตาย เรื่องก็ไม่ได้ดําเนินไปตามแนวเรื่องผีแต่อย่างใดครับ ไม่มีใครเคยเห็นวิญญาณของ ต. มาเดินเพ่นพ่าน มาปรากฏตัว แต่ที่มันเป็น เรื่อง ก็เพราะเหตุการณ์นี้ครับ

     กลุ่มน้องของ ต. (ที่ผมเล่าไปตอนต้น) อารมณ์น้องเป็นห่วงพี่นะครับ ก็อยากรู้ว่าพี่เค้าเสียไปแล้วเป็นยังไงบ้าง ไปสบายรึยัง หรือยัง มีห่วงอะไรอยู่ จะได้รับเป็นธุระปะปังจัดการให้ ก็เลยไปหาพวกอาจารย์หมอ พวกนั่งทางในอะไรเถือกนั้น พอไปถึง ตาอาจารย์หมอ อะไรนี่ก็ดูให้ครับ (อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลละ ส่วนตัวผมบอกเลย ไม่เชื่อกลุ่มคนประกอบอาชีพลักษณะนี้) อาจารย์หมอบอก ว่าที่ ต. เค้าตกลงมาตายน่ะ ไม่ใช่อุบัติเหตุนะ เค้าโดนผลักลงมา (!!!) อ้าว ที่นี้พวกน้อง ๆ มันก็ตกใจสิครับ พี่กูโดนฆาตกรรม หรอ ยังไม่ทันจะเรียบเรียงเรื่องราวได้ อาจารย์หมอก็บอกมาอีกว่า คนที่ผลัก ต. น่ะไม่ใช่คน แต่เป็นผี

     ยิ่งช็อกหนักไปใหญ่เลยครับทีนี้ ไอ้พวกน้องกลุ่มนี้ยิ่งรนไปกันใหญ่ ก่อนเหตุการณ์จะลุกลาม ตาอาจารย์หมอคนนี้ก็เสนอจะนั่ง ทางในเรียกวิญญาณของ ต. มาถามให้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรแล้ว ก็ประกอบพิธีกรรมอะไรของแกไปครับ ชักอยู่ซักพักก็นิ่ง (วิญญาณ มาเข้าแล้ว) แต่เรื่องยังพลิกไม่เลิกครับ เพราะวิญญาณที่มาเข้าหมอน่ะไม่ใช่ ต. แต่เป็นไอ้ผีที่ผลัก ต. ลงมา ผีตัวที่ว่านี้มันอ้างตัว เองว่าผีเจ้าถิ่นครับ (ข้อมูลตรงนี้ผู้มีสัมผัสวิญญาณที่ผมรู้จักเคยอธิบายไว้ด้วยนะครับ พี่คนนี้ผมว่าโอเคอยู่ครับ ไม่น่าจะมั่วเหมือน หมอผีตามหมู่บ้าน) พี่เค้าบอกว่าถ้าเชื่อว่าผีมีจริง เราก็ต้องเชื่อว่าเค้ามีระบบของเค้า ในโลกของผีจะมีผีผู้นําหรือผีเจ้าถิ่น ผีเจ้าถิ่นที่ ว่านี้จะมีบริวารเยอะน้อยตามแต่อำนาจ และบางครั้งถึงขั้นมีผีเจ้าถิ่นยกพวกไปตีกันแย่งชิงเขตแดนด้วย (ตอนฟังเรื่องนี้การ์ตูนเรื่อง อีกาลอยมาเลยฮะ ภาพซูซูรันตีกับโฮเซนชัดเจนในสมอง)

     กลับมาที่ตอนผีเจ้าถิ่นมาเข้าร่างอาจารย์หมอนะครับ พอเข้าปับมันก็แนะนําตัวเองคร่าว ๆ ว่ามันเป็นใคร แถมยังบอกว่า ต. เนี่ยยัง ไม่ได้ไปเกิด ไม่ได้ไปไหน มันยังเอาไว้ภายในมหาวิทยาลัย เอาไว้เป็นบริวารของมัน ไอ้น้องคนสนิท ต. เจ้าของเรื่องก็ลองขอครับ ว่าปล่อยพี่ของเค้าไปได้ไหม อยากได้อะไรจะทําบุญไปให้ ไอ้ผีเจ้าถิ่นนี่ก็กวนครับ บอกพี่มีเป็นใคร พวกกูอยู่ในนี้มาตั้ง นานไม่เคยมีใครออกไปได้ ทําไมกูต้องปล่อยพี่ มึง

     พอฟังเข้าแบบนี้น้องมันก็ปี๊ดครับ จากตอนแรกเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ตอนนี้เริ่มไม่เชื่อละ เรื่องราวมันชักอภินิหารเกินไป ไอ้หมอนี่กะ สร้างเรื่องหลอกเอาเงินรึเปล่าเนี่ย!? เรื่องมันขนลุกตรงนี้ครับ เพราะไอ้ผีเจ้าถิ่นมันพูดออกมาว่า ถ้าพวกมึง ไม่เชื่อว่ากูมีอยู่จริง ไปที่ ศาลมหาวิทยาลัย ไม่ต้องไปกลางคืนก็ได้ เอาแค่หลังห้าโมงเย็น และพวกมึงไม่ต้องไปคนเดียว ยกโขยงกันไปเลยก็ได้ ไปถึง แล้วไปแสดงตัว บอกชื่อ นามสกุล จุดประสงค์ที่มา แล้วกูจะแสดงให้เห็นว่ากูมีอยู่จริง

      เรื่องเล่าจบลงแค่ตรงนี้ครับ เพราะผมไม่ได้รู้จักน้องคนที่ว่านี้เป็นการส่วนตัว รู้แค่ว่ามันเป็นเพื่อนกับน้องผมที่ชื่อเพลง ถึงตรงนี้ ผม ขอบอกว่าพวกผมไปลองแสดงตัวกันมาแล้วนะครับ ไปกัน 4 คน ตอนประมาณเกือบๆ 5 ทุ่ม ไปบอกชื่อ นามสกุล จุดประสงค์ (แน่ จริงออกมาเด้! ท้าไว้ไม่ใช่เรอะ โคตรเกลียดเลยพวกอันธพาลเนี่ย) สุดท้ายก็ไม่พบอะไรครับ คาดได้ 2 ทาง หนึ่งคือเรื่องนี้ไม่จริง ตั้งแต่แรก กับสอง เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แต่ระหว่างระยะเวลาที่เรื่องเกิดจนถึงพวกผมไปท้า ผีเจ้าถิ่นมันอาจจะสูญเสียอํานาจไปแล้ว ยังไง ๆ ก็สรุปว่าไม่เจอครับ และผมว่าป่านนี้ ต. เค้าคงไปสบายๆ ในที่ดี ๆ เรียบร้อยแล้วล่ะ ขออุทิศส่วนกุศลไว้ ณ ตรงนี้ด้วยนะครับ

- ศาลหอแกรนด์
     เรื่องโคตรดังประจํามหาวิทยาลัยนี้ครับ มีครบทั้งลูกเล่นและวิธีโดนหลอก เป็นอีกหนึ่งเรื่องผีที่ผมรู้สึกว่ามันเท่มาก ศาลที่ว่านี้ตั้งอยู่ ตรงข้ามมหาวิทยาลัยครับ ลงสะพานลอยมาจะเจอเลย (รึเปล่า ?) เหตุผลที่ถูกเรียกว่า ศาลหอแกรนด์ เพราะตั้งอยู่หน้าหอแกรนด์ คอนโดครับ (หอแกรนด์นี่เรื่องผีเดือดสุด ๆ เลยนะครับมีครบทั้งผีอิสลาม ทั้งผู้ชายร่างยักษ์ตาแดง โดดตึก โดนยิง นี้ ครบ) ตํานานเล่าไว้ว่า ศาลนี้ จะเห็นเฉพาะเด็กปี 1 เข้ามาใหม่และมีข้อแม้สําคัญคือห้ามเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเด็ดขาด ไม่งั้นจะ ไม่เห็น ศาลที่ว่านพบเห็นกันหลายรูปแบบครับ ทั้งว่าเป็นศาลไม้ แต่ส่วนใหญ่หลาย ๆ คนจะตอบตรงกันว่าเป็นศาลปูนสีขาวใหญ่โต อันนี้ตอนแรกที่ผมได้ฟังผมคิดเลยว่าโคตรเพ้อเจ้อครับ มาขําไม่ออกตอนเพื่อนผม คุณฟิล์ม (คนเดียวกับที่ขึ้นไปบนเรือนนาง สนม และโดนผีนางรําพี่น้องตามกลับมาจากจุฬาฯ) มาบอกผมด้วยใบหน้าตื่นเต้นว่า “ผมเองก็เคยเห็นศาลที่ว่าครับ (!) แต่เห็น ครั้งเดียว จากนั้นก็ไม่เคยเห็นอีกเลย"

     เรื่องนี้เด็ก มหาวิทยาลัยที่ เค้าเชื่อกันจริงจังเลยนะครับ เพราะมีหลายคนได้เห็นจริง ๆ ที่สยองสุด ๆ ของเรื่องนี้อยู่ที่บรรทัดต่อไปครับ

     เค้าว่ากันว่า คนที่จะเห็นศาลที่ว่านี้ได้ ต้องไม่เคยได้ยินได้ฟังเรื่องศาลนี้มาก่อนเท่านั้น มันแปลว่า ทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ หมด โอกาสเห็นศาลเรียบร้อยครับ 555555555555 (ผมนี่โคตรเสียดายครับ ฟิล์มดันเล่าให้ฟังซะก่อน)

- เรือนไทย
     ตรงบริเวณใกล้ศาลของมหาวิทยาลัย จะมีเรือนไทยอยู่ครับ ตอนกลางวันนี้จัดว่าเป็นเรือนที่สวยงามมาก แต่กลางคืนนี้ยังกับหนังผี เขย่าขวัญเลยครับ แถมรอบ ๆ ยังมีต้นไทรต้นใหญ่เรียงเป็นแนวอีก เรือนไทยนี้เล่าว่าคนโดนกันเยอะครับ เดินผ่านมีเสียงดนตรี ไทยบ้างอะไรบ้าง ทางเรื่องที่ผมฟังมานี่เค้าว่า มีเด็กนั่งทํางานกันอยู่บนเรือนครับ ก็เสียงดังกันตามประสาวัยรุ่น จังหวะนั้นก็มีน้อง คนนึงมองไปที่ตู้ (บนเรือนไทยจะมีตู้ยาว ๆ อยู่ครับ ไว้เก็บชฎา เก็บเครื่องดนตรี) น้องคนนี้เค้าเห็นมีผู้หญิงแต่งชุดเต็มยศ หน้า ขาว ยืนจ้องมาจากในตู้ครับ

     เรื่องนี้ผมส่งน้องสาวผมไปลุยครับ น้องผมชื่อเอมมิกา (น่ารักนะฮะ เคยประกวดนางสาวไทยด้วย) เอมมิกาเค้าก็ขึ้นไปครับ โดยมี พวกผมให้จังหวะเคาะ ร้อง เป็นดนตรีไทยอยู่ข้างล่าง รําไปก็วนไปครับ รอบที่ 1 ไม่มีอะไร รอบที่ 2 ก็ไม่มีอะไร รอบที่ 3 นี่พวกผม ตกใจกันทุกคนเลยครับ เอมหันมาแวบแรกที่มอง ใบหน้าไม่ใช่เอม แวบต่อมาถึงจะเห็นครับว่าใช่เอม แต่ตาแข็ง มือแข็ง ไม่พูดไม่ จา ก็รีบเอาเอมลงมาครับ ให้ยาดม นวดขมับกันอยู่พักใหญ่ ไม่เหลือบ่ากว่าแรงจริง ๆ ยังไง อย่าลองของกับอะไรไทยๆ เลย นะครับ


- หอสกายวิว
     เรื่องสุดท้ายแล้วครับ อย่างที่เล่าไปตอนต้น มหาวิทยาลัยที่นี่ผีในมหาวิทยาลัยไม่ค่อยมีครับ แต่ผีตามหอนี่เพียบ และที่ดังสุดนี้ก็คงไม่ พ้นผีที่หอสกายวิว เรื่องนี้ผมขอใช้คําว่าตํานานเลยละกันนะครับ เพราะไม่รู้ว่าจริงรึเปล่า (ตํานานนี้ดังพอตัวครับ เคยเล่าออก The Shock ด้วย) ว่ากันว่าช่วงใกล้ ๆ ถึงวันคริสต์มาส ทางหอก็นําเอาต้นคริสต์มาสใหญ่โตมาประดับตั้งไว้ที่ล็อบบี้ครับ เหตุเกิดเค้าว่าอยู่ ที่ชั้น 9 ครับ (ห้อง 926) แฟนคู่หนึ่งเกิดทะเลาะกัน แล้วฝ่ายชายเกิดพลาดตกระเบียงลงมา หัวทิ่มปักเข้ากับต้นคริสต์มาสตายคาที่ (คือหอสกายวิวนี่ทางเดินน่ากลัวครับ ห้องจะเรียงเป็นวงกลมแล้วจะปล่อยเป็นโพรงใหญ่ ๆ ไว้ตรงกลางเค้าตกลงมาที่โพรงนี้ล่ะ ครับ)

      เรื่องเล่าต่อมาว่า จากนั้นฝ่ายหญิงที่ยังอยู่ห้องนี้โดนเคาะห้องทุกคืนครับ พอเปิดไปก็ไม่มีใคร จนหลัง ๆ เคาะถี่ขึ้น แรงขึ้น จนมีถึง ขั้นจะเปิดประตูเข้ามา ผู้หญิงก็กลัวจนทนไม่ไหวเลยไปหาพระ พระท่านก็บอกว่าเค้าแค้น กลายเป็นอาฆาต เพราะคิดว่าเราไป ทําให้เค้าตาย ถ้าเค้ามาอีก ก็ให้โยมลงไปนอนใต้เตียง เค้าจะได้ไม่เห็นโยม

      คืนหนึ่งก็เกิดเรื่องจนได้ครับ เห็นว่ามาแบบออกตัวแรงซะด้วย คือกะเผด็จศึกเลยแหละ เคาะแรงมาก ดังมาก ลูกบิดประตูหมุนปิด ๆ ๆ น้องผู้หญิงคนนี้ก็เห็นท่าไม่ดี เลยลงไปมุดนอนใต้เตียงตามพระบอก แล้วประตูก็ดีดผึ้งออกมา ! ผู้หญิงก็หลับตาปีครับ ไม่กล้ามอง ก็ได้ยินแต่เสียงลากเท้าดังครืด... ดังครืด...มาเรื่อย ๆ แล้วเสียงก็มาหยุดเงียบลงที่เตียงครับ ฝ่ายหญิงเห็นเงียบไปก็ไม่รู้จะเอาไงต่อ เลยกัดฟังเปิดเปลือกตาขึ้นมา ปรากฏว่าสายตาปะทะเข้ากับใบหน้าเละเทะของผีแฟนเธอเต็มๆครับ (อธิบายคือถ้าตายปกติ เค้าก็คงจะเดินมาแหละครับ แต่คนนี้เค้าตกลงไปหัวทิ่มตาย เค้าเลยใช้หัวเดินแทนเท้าขึ้นมา แทนที่อยู่ใต้เตียงจะไม่เห็น เลยกลาย เป็นจ๊ะเอ๋กันเต็ม ๆ)

ไม่มีความคิดเห็น