สิ่งที่เพื่อนผมเจอ โดย คุณบอล จาก The Ghost Radio


           นับว่ากำลังน่าติดตามมากสำหรับเรื่องจักรวาลผีของคุณบอล แห่ง The Ghost Radio ที่ถูกถอดความโดยสมาชิกพันทิป หวานยิหวา โดยกระทู้ชื่อ [สำหรับคนชอบอ่าน] รวมจักรวาลผีของคุณบอลทั้ง 8 เรื่องจาก The Ghost Radio จากเรื่องแรก "สิ่งที่ผมเจอ" ต่อด้วย  "บทสรุปสิ่งที่ผมเจอ" กลับมาครั้งนี้ ผีสยองหนองกระจายขอส่งต่อความสยองด้วยเรื่องต่อไป  "สิ่งที่เพื่อนผมเจอ" เชิญรับฟังกันเลยครับ

          ย้อนไปสิบกว่าปีที่แล้ว จากที่ผมเคยบอกไว้ ว่าตอนนั้นผมกลับจากกันทรลักษ์เพื่อกลับมาที่รีสอร์ท พอผมกับเพื่อนมาที่รีสอร์ทก็เจอพี่พนักงานที่เตรียมเอกสารอะไรไว้ให้ผมเรียบร้อยแล้ว เพราะต้องเอาเอกสารไปให้ปากคำกับเจ้าพนักงาน พอไปถึงสถานีตำรวจ ผมกับพี่พนักงานก็เดินขึ้นไปบนสถานีตำรวจกัน แต่ว่าเพื่อนผมเขาไม่ได้ไปด้วย เขาหยุดอยู่ที่หน้าสถานีตำรวจ ผมก็คิดว่าเขาคงรออยู่ที่รถ ผมก็ขึ้นไปให้ข้อมูลกับตำรวจ แล้วเจ้าพนักงานก็ชี้ไปที่เด็กกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มาพักที่รีสอร์ท แบ่งเป็นสองกลุ่ม คือยืนอยู่ข้างนอกกับผู้ปกครอง กับอีกกลุ่มที่โดนคุมขังอยู่ ซึ่งผมขออนุญาตข้ามรายละเอียดตรงนี้ไปเลยนะครับ

          ในจังหวะที่ผมกำลังคุยกับเจ้าพนักงาน เพื่อนผมก็เดินขึ้นมา แล้วก็เดินตรงไปที่กลุ่มของน้องสามสี่คนที่ยืนอยู่ข้างนอกแล้วก็ยืนคุยกัน เพื่อนผมก็คุยกับน้อง ๆ ไป ผมก็คุยกับเจ้าพนักงาน ใช้เวลากว่าสองชั่วโมง จนกระทั่งเรียบร้อยก็รอพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่จะไปทำแผนทำอะไรที่รีสอร์ท ซึ่งอีกวันเนี่ย คือวันที่ผมกลับมาที่กรุงเทพแล้วนะครับ แต่ว่ายังมีคุณพ่อคุณแม่อยู่

         ระหว่างขับรถกลับรีสอร์ท ผมก็ถามเพื่อนผมว่าที่เข้าไปคุยกับน้อง ๆ กลุ่มนั้น คุยอะไรกัน เพื่อนก็ไม่เล่า จนเมื่อกลับมาเจอกันเมื่อปีที่แล้ว ก็คุยเรื่องนี้กันขึ้นมา เขาเลยเล่าว่า เขาไปคุยกับน้องคนหนึ่งที่อยู่หน้าห้องขัง สมมติว่าชื่อน้อง เต้ นะครับ น้องเต้เล่าให้ฟังว่า ในคืนเกิดเหตุ เด็กกลุ่มนี้ประมาณสิบกว่าคน เป็นเด็กที่ค่อนข้างมีฐานะ เขาก็ขับรถมาเพื่อหาที่พักในจังหวัดตราด ก็เข้ามาเปิดที่พักในรีสอร์ทผม เปิดทีเดียวหกห้องรวด แล้วก็ออกไปเที่ยวกันในจังหวัดตราด

          ประมาณสองสามทุ่มก็ซื้อเครื่องดื่มกลับมานั่งกินกันในสวน พอดื่มไปสักพักหนึ่ง ในกลุ่มเนี่ยจะมีหัวโจกอยู่คนหนึ่ง สมมติว่าชื่อโต๊ด นะครับ โต๊ดเนี่ยก็จะเป็นเด็กห่าม ๆ เพิ่งสร้างตัวได้ โต๊ดพูดขึ้นมาว่า วันนี้บรรยากาศดี มาเล่าเรื่องผีกันดีกว่า แล้วโต๊ดเนี่ยเป็นคนไม่กลัวผี เขาเลยให้เงื่อนไขว่า ถ้าใครเล่าเรื่องผีให้เขากลัวได้ เขาจะเรียกคนนั้นว่าพ่อ แล้วกราบที่เท้าด้วย เพื่อนก็อยากลอง โต๊ดก็เดินหาสถานที่ในรีสอร์ทเพื่อจะเล่า แต่ในรีสอร์ทผมเนี่ยไฟมันเต็มไปหมด ไม่มีที่มืด ๆ แต่ว่ารีสอร์ทผมเนี่ยมันจะติดกับที่นาโล่ง ๆ โต๊ดก็หาเก้าอี้มาเหยียบ เพื่อจะปีนข้ามรั้วลวดหนามของรีสอร์ทไป เพราะรั้วร้อยลวดหนามไว้ถี่ไม่สามารถลอดผ่านไปได้ แล้วบอกคนอื่นว่า ไปหลาย ๆ คนมันไม่สนุก ให้ปีนข้ามไปเล่าทีละคน

          แล้วเขาก็เดินไปในทุ่งนาสักระยะหนึ่ง รอให้เพื่อนข้ามไปเล่าให้ฟังทีละคนแบบตัวต่อตัว แต่ก็ไม่มีใครทำให้โต๊ดกลัวได้ แถมตะโกนมาบอกด้วยว่ากระจอก จนมีเพื่อนของเต้คนหนึ่งบอกว่า เรื่องนี้ต้องทำให้โต๊ดกลัวได้ แล้วต้องเรียกเขาว่าพ่อด้วย เขาก็กระโดดข้ามรั้วไปแล้วไปเล่า แต่ระหว่างที่เล่าปรากฏว่าคนเล่าเกิดกลัวเสียเอง เลยกวักมือเรียกเพื่อน ๆ จากอีกฝั่งว่า ใครก็ได้มาอยู่เป็นเพื่อนคนนึง ก็มีเพื่อนคนหนึ่งไปนั่งเป็นเพื่อนรวมเป็นสามคน ทีนี้เต้เนี่ย เขารู้สึกแปลก ๆ ตั้งแต่แรกแล้วว่าเราไม่น่าทำอะไรแบบนี้ แล้วมีจังหวะหนึ่งที่เต้หันไปมอง เต้เห็นว่ามีชาวบ้านสามคนเดินเข้ามา เต้ก็คิดว่าต้องเป็นคนเฝ้าที่ เพราะที่ตรงนั้นเป็นที่นา ต้องมีคนมาเฝ้ามาดุแน่ ๆ เลย เพราะเราไปบุกรุกที่เขายามวิกาล เขาก็ลุกขึ้นมาเรียกเพื่อนเพราะกลัวว่าด้วยนิสัยไม่ยอมคนของโต๊ดจะทำให้มีเรื่องกัน

          จังหวะที่เต้จะข้ามรั้วไปเรียกเพื่อน สามสี่คนนั้นเขาก็นั่งลงเหมือนจะนั่งฟังด้วย เต้เลยคิดว่ามันไม่มีเรื่องอะไรเลยเดินกลับมา แต่พอสักพักเต้หันไปมองอีก เต้เห็นว่าตรงนั้นมีกลุ่มคนเหมือนมากกว่าเจ็ดคนกำลังนั่งฟังอยู่ บางคนยืน บางคนนั่ง บางคนก้มลงฟัง เต้เลยรู้สึกไม่ดี ตะโกนเรียกเพื่อนว่า โต๊ด ๆ กลับมา พอเต้ตะโกนว่าโต๊ดกลับมา พวกลุง ๆ กับชาวบ้านก็หันมามองเต้ แล้วหันมามองเต้อยู่แบบนั้นตลอด  จนเต้รู้สึกไม่ดี เลยตะโกนว่า โต๊ดมาเหอะ ไหว้ล่ะ กลับมาเหอะ

          โต๊ดก็ข้ามรั้วกลับมา แล้วพูดว่าสามสี่เรื่องไม่เห็นน่ากลัวเลย เดี๋ยวกรูไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วกรูจะกลับมาเล่า เดี๋ยวพวกทุกคนจะต้องเรียกกรูว่าพ่อเพราะเรื่องนี้เด็ดสุด พอกลับมาจากห้องน้ำ โต๊ดก็วิ่งกลับไปนั่งที่เดิม แล้วบอกว่าใครอยากฟังก็ตามกรูมา ซึ่งตอนนั้นเต้ไม่เห็นคนกลุ่มนั้นแล้ว โดยในตอนนี้กลุ่มที่นั่งฟังเรื่องผีก็คือมีด้วยกันทั้งหมด 5 คนรวมเต้ด้วย

        โต๊ดก็เริ่มเล่าว่า เรื่องผีที่น่ากลัวที่สุดก็คือ เรื่องผีตาข่มขืนผียาย แล้วระหว่างที่พูดโต๊ดก็เอามือล้วงไปในกระเป๋า หยิบเอาตุ๊กตารูปคุณตานั่งพับเพียบ แล้วก็หยิบเอาตุ๊กตายายนั่งพับเพียบออกมาจากกระเป๋าอีกข้างหนึ่งประกอบการเล่าครับ โดยเอาตุ๊กตาสองตัวประกบกันแล้วเล่าไปเรื่อยๆ โดยเต้รู้สึกไม่ดี ขนลุกตลอดเวลา เพื่อน ๆ เลยชวนกลับเพราะเห็นว่ามันไม่มีอะไรเลย กลายเป็นเรื่องตลกไปแล้ว ทุกคนก็เลยข้ามกลับมา โดยโต๊ดกลับมาเป็นคนสุดท้าย จังหวะที่โต๊ดเหยียบเก้าอี้เพื่อจะข้าม โต๊ดบอกว่ารู้สึกได้ว่ามีคนถีบจากข้างล่าง ทำให้โต๊ดตกลงมาที่ฝั่งรีสอร์ทของผม แต่ว่าไม่ได้ตกลงที่พื้น โต๊ดตกลงตรงขดลวดหนามที่พนักงานเขาขดไว้ที่พื้น

        โต๊ดก็ดิ้นอยู่ตรงนั้นเพราะเจ็บ แต่ยิ่งดิ้นขดลวดหนามมันก็จะยิ่งกางออก เพื่อน ๆ ก็เข้าไปช่วยโต๊ดกันอย่างทุลักทุเล เต้เป็นคนที่มีสติที่สุด ก็บอกว่าให้เพื่อนช่วยกันอุ้มโต๊ดไปที่หน้ารีสอร์ท เดี๋ยวเขาจะวิ่งไปบอกพี่พนักงานให้โทรเรียกรถพยาบาลมารับ แต่พอเพื่อนอุ้มโต๊ดไปถึงหน้ารีสอร์ท อยู่ ๆ โต๊ดก็ตกลงพื้นร้องโอ้ย แล้วโต๊ดก็ตาเหลือก เป็นจังหวะที่เต้เดินออกมาพอดี เต้เลยเห็นผู้ชายแก่ ใส่ชุดขาวคนหนึ่ง กำลังเอาขาขวาเหยียบที่คอโต๊ด เต้เลยรู้ด้วยสัญชาตญาณ รีบวิ่งไปที่ศาลพระพรหมกับศาลตายายหน้ารีสอร์ทแล้วยกมือไหว้ขอโทษแทนเพื่อน แล้วเต้ก็เห็นว่าในศาลตายายเนี่ย เป็นศาลว่าง ๆ พร้อมกับได้ยินเสียงพูดว่า ไปเอากูกลับมา

        พอได้ยินแบบนั้น เต้ก็วิ่งออกไปหน้ารีสอร์ท อ้อมไปตรงจุดที่เขานั่งเล่าเรื่องผีกัน ไปหาตุ๊กตาของตากับยายจนเจอแล้วเอากลับมาตั้งไว้ที่เดิม แต่ว่าตุ๊กตาตาคอพับ พอตั้งเสร็จก็ไหว้ขอโทษ แต่ตุ๊กตาทั้งสองตัวพลิกล้มลงไปในศาลเหมือนว่าเขาไม่ยอมรับคำขอโทษ พอดีกับที่รถมารับโต๊ดไปโรงพยาบาล เพื่อน ๆ ที่เหลือก็กลับมานั่งคุยกัน แล้วเต้ก็เล่าเรื่องที่เจอให้เพื่อน ๆ ฟัง แต่เพื่อน ๆ บอกว่าตอนนี้ไปดูโต๊ดก่อน แล้วเรื่องนี้ค่อยมาเล่าต่ออีกที แล้วทั้งหมดก็พากันไปโรงพยาบาล

        พอไปถึงโรงพยาบาล พยาบาลก็โทรตามตำรวจ แจ้งว่าน้องที่เข้ามาเนี่ย เข้ามาด้วยอาการช็อค เพราะรับสารเสพติดมากเกินไป ซึ่งผมก็เพิ่งมารู้ทีหลังว่า ที่เด็กกลุ่มนี้ร่ำรวยกันก็เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แล้วพอเล่ามาถึงตรงนี้เพื่อนผมก็ถามผมว่า บอลรู้มั้ย ทำไมเด็กสามสี่คนที่อยู่หน้าห้องขัง ทำไมเด็กกลุ่มนั้นไม่ยอมกลับ ผมก็ตอบว่า สงสัยเขาคงรอเพื่อน ๆ ออกมาจากห้องขังมั้ง เพื่อนผมก็บอกว่าไม่ใช่ ที่มันไม่ลงมาเพราะมันไม่กล้า

        ผมก็ถามว่าทำไมถึงไม่กล้า เพื่อนผมบอกว่า ก็ตอนที่บอลขึ้นไปหาเจ้าพนักงานกับพี่เจ้าหน้าที่ เขาเห็นคนแก่คนหนึ่ง ยืนคอพับอยู่หน้าสถานีตำรวจ แล้วก็มียายคนหนึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ซึ่งเขารับรู้ได้เลยว่าไม่ใช่คนปกติ ยิ่งไปกว่านั้น คือมีเด็กคนหนึ่ง นั่งขัดสมาธิร้องไห้อยู่ข้าง ๆ ตา ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่โต๊ดเสียชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาลครับ คือระหว่างอยู่ที่โรงพยาบาล โต๊ดก็เพ้อแล้วก็เล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่าเจออะไรบ้าง ก่อนจะเสียชีวิต

       แล้วมันมีเรื่องบังเอิญอยู่อีกเรื่องหนึ่งครับ เมื่อก่อนเวลาผมกลับมาจากต่างประเทศเนี่ย บางครั้งผมก็กลับมาที่รีสอร์ท มาไหว้ศาลตายายบ้าง แล้วก็เห็นตุ๊กตาเด็กตัวหนึ่งตั้งอยู่ในศาล ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่ทราบเรื่องนะครับ พ่อก็เลยบอกว่า อ๋อ เป็นเด็กที่อยู่กับตากับยายเนี้ยแหละ คือพ่อเค้าฝันครับ ว่ามีเด็กมาร้องขออยู่ด้วย พ่อเลยไปซื้อตุ๊กตาเด็กผู้ชายมาตั้งไว้ แต่พ่อผมก็ไม่ทราบเรื่อง ผมเองก็ไม่ทราบเรื่อง เพิ่งจะมาทราบเมื่อปีที่แล้วนี่เองครับ

       แล้วผมต้องบอกก่อนว่า ตอนนี้รีสอร์ทตรงนั้นผมรีโนเวทเป็นอพาร์ทเม้นท์ไปแล้วนะครับ ซึ่งศาลพระพรหมยังอยู่ ศาลตายายก็ยังอยู่ รูปปั้นตุ๊กตาตายายกับรูปปั้นตุ๊กตาเด็กก็ยังอยู่ครับ  คุณพ่อผมวางตุ๊กตาเด็กไว้ตรงเชิงศาลตายายนะครับ แล้วเต้เป็นคนเล่าให้ฟังนะครับ ว่าตอนนั้นโต๊ดน่าจะหยิบตุ๊กตาตายายมาตอนที่เขาไปเข้าห้องน้ำ เพราะห้องน้ำที่รีสอร์ทผมมันอยู่ข้างหน้าแถวฟร้อน ใกล้ ๆ กับศาลตายายครับ

       แล้วผมขออนุญาตเกริ่นไว้ก่อนนะครับ เกี่ยวกับธุรกิจ ๆ หนึ่งที่เรียกว่า ซื้อบ้านผี ซึ่งสมัยผมเด็ก ๆ คุณพ่อคุณแม่ผมเขาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่เขาจะชอบซื้อบ้านหลุดจำนอง บ้านที่มีเหตุฆาตกรรม เพราะบ้านพวกนี้จะราคาถูก แล้วรีโนเวทใหม่ ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นที่มาของตุ๊กตาตายายในรีสอร์ทผม ว่าทำไมถึงไม่เหมือนกับที่อื่น ๆ ครับ เพราะเป็นตุ๊กตาที่มีที่มาครับ.. //จบเรื่องที่ 3

ไม่มีความคิดเห็น