ผมยังไม่อยากตาย โดย คุณบอล จาก The Ghost Radio


     ยังคงนำเสนอเรื่องราวคุณบอล แห่ง The Ghost Radio  ที่ถูกถอดความโดยสมาชิกพันทิป หวานยิหวา โดยกระทู้ชื่อ [สำหรับคนชอบอ่าน] รวมจักรวาลผีของคุณบอลทั้ง 8 เรื่องจาก The Ghost Radio  เราได้นำเสนอไปแล้ว 3 เรื่องด้วยกัน  "สิ่งที่ผมเจอ" ,"บทสรุปสิ่งที่ผมเจอ" และ "สิ่งที่เพื่อนผมเจอ"  ซึ่งเนื้อเรื่องเชื่อมโยงกันเรื่องต่อไปรับรองว่าสุดสยองหนองกระจายแน่นอนครับกับเรื่องที่เป็นภาคต่อของทั้ง 8 เรื่อง คือเรื่อง "ผมยังไม่อยากตาย" ไปรับชมกันเลยครับ

จากคราวก่อนที่ผมบอกว่าจะเล่าเรื่องธุรกิจบ้านผีของคุณพ่อคุณแม่ผม พอผมไปคุยกับเพื่อน เพื่อนผมเลยบอกว่าให้เล่าเรื่องนี้ก่อนเพราะว่ามันจะมีความเชื่อมโยงกันกับเรื่องบ้านที่คุณพ่อผมไปเจอ ผมเลยขออนุญาตเล่าเรื่องนี้ก่อนนะครับ ก็คือเมื่อสมัยปี 2548 เพื่อนผมเนี่ยก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมที่พักเหมือนกัน แต่เขาจะอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี เขาเล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 47 ช่วงที่ผมกับเขาแยกกันโดยที่ผมไปทำงานอยู่ต่างประเทศส่วนเขาทำงานอยู่ที่จันทบุรี

ช่วงปี 2548 มันมีอยู่คืนหนึ่ง มีน้องคนหนึ่งขับรถเข้ามาเช็คอิน ระหว่างที่น้องเขากรอกเอกสารเพื่อนผมก็เอาบัตรประชาชนของเขามาถ่ายเอกสาร แล้วเค้าเหมือนเห็นอะไรแวบ ๆ ในกระจกเลยหันมามองน้อง บอกน้องว่า น้องไม่ต้องกลัวนะ รีสอร์ทพี่ไม่มีอะไร ไม่ต้องเอาสายสิญจน์มาคล้องคอ น้องก็บอกว่าผมไม่ได้คล้องสายสิญจน์พี่ แล้วเขาก็ควักออกมาเป็นสร้อยคอธรรมดา เพื่อนผมก็ไม่ว่าอะไร

พอพี่พนักงานไปส่งน้องคนนี้ที่ห้องพัก น้องก็บอกพี่พนักงานว่า เดี๋ยวจะมีผู้หญิงแบบนี้ ๆ นะมาหา ถ้าเขามาให้พาขึ้นมาส่งได้เลย ระหว่างที่น้องคนนี้ทำธุระ อาบน้ำ เขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ก๊อก ๆ ๆ ระหว่างที่เขากำลังจะออกไปเปิดประตู เขาก็ได้ยินเสียงข้างนอกเหมือนว่าเปิดประตูเข้ามาแล้ว เขาก็ทำธุระในห้องน้ำต่อ ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนคนปลดล็อกประตูกระจกที่ระเบียงแล้วเลื่อนบานประตูกระจกออก เขาเลยคิดว่าคงเป็นแฟนเขาออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียง เขาเลยคุยด้วย แต่จนถึงตอนนี้เหมือนว่าเขาพูดอยู่คนเดียว ปรากฏว่าพอเขาออกมาจากห้องน้ำ เขาเห็นกระเป๋าเดินทางตั้งอยู่หน้าห้อง เพราะประตูมันเปิดอยู่ เขาก็รู้สึกไม่พอใจ เลยโทรลงไปต่อว่าพี่พนักงานข้างล่าง

พี่พนักก็ชี้แจงว่า พอดีคุณผู้หญิงเขาเข้ามา แล้วให้ผมเอากระเป๋าขึ้นไปวางไว้หน้าห้อง ผมก็เอากระเป๋าไปวางไว้หน้าห้องแต่ไม่ได้เคาะประตู ไม่ได้เปิดประตู แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าใช่พี่ผู้หญิงคนนี้มั้ย เพราะพอเขาเอากระเป๋าขึ้นไปวางเสร็จ พี่ผู้หญิงก็เดินออกจากฟร้อนไปเลย น้องคนนั้นก็เลยบอกว่าเดี๋ยวเขาโทรหาเอง เขาก็โทรไปหาแฟน แฟนเขาก็เลยบอกว่าเขาลืมไปว่าวันนี้เป็นวันเกิดเพื่อน เดี๋ยวเขาไปงานวันเกิดเพื่อนเสร็จประมาณเที่ยงคืนเดี๋ยวเขาจะกลับมา

น้องผู้ชายคนนั้นก็เปิดแอร์ เปิดทีวีนอน แล้วก็เผลอหลับไปครับ แล้วเขาก็ฝันว่า เขานอนอยู่บนเตียงนั้น แล้วมีคนอาบน้ำอยู่ เขาเลยคิดแฟนเขาอาบน้ำอยู่ จะแกล้งแฟนให้ออกมาจากห้องน้ำแล้วไม่เจอเขา เขาเลยลงไปแอบอยู่ใต้เตียง พอเขาลงใต้เตียง ปรากฏว่าเขาเจอแฟนเขาอยู่ใต้เตียง แล้วแฟนเขาเอามือปิดปากไม่ให้พูด แล้วประตูห้องน้ำก็เปิด แล้วก็มีคนเดินออกมา แล้วประตูห้องก็เปิด แล้วก็มีคนเดินเข้ามา แล้วคนสองคนนั้นก็ทะเลาะกัน แต่เขาไม่รู้ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร จนมันรุนแรงขึ้นแล้วเริ่มมีการลงไม้ลงมือ น้องผู้หญิงก็ร้องว่า ช่วยด้วย ช่วยด้วย

น้องผู้ชายคนนี้ก็จะออกจากใต้เตียงมาช่วย แต่แฟนเค้าดึงไว้ไม่ให้ออกมาช่วย ผู้หญิงคนนั้นก็ร้องอีกว่า ช่วยด้วย ช่วยด้วย คนที่อยู่ใต้เตียง ช่วยกูด้วย น้องผู้ชายก็สะดุ้งตื่น โดยที่ในห้องไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาก็เดินออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียง ไปล้างหน้าในห้องน้ำ แล้วเขาก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตู เขาก็คิดว่าคงเป็นแฟนเขากลับมาแล้ว พออกมาจากห้องน้ำ เขาเห็นมีคนนอนอยู่บนเตียง เขาเลยมั่นใจว่าเป็นแฟนเขาแน่ ๆ เขาเลยเดินอ้อมไปอีกฝั่งหนึ่ง แล้วนอนบนเตียงเพื่อจะคุยกัน แต่พอเขาพลิกตัวกลับไปมันเป็นเตียงว่าง ๆ

ด้วยความที่เขาเชื่อว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นเป็นคน เขาเลยคิดว่าแฟนเขาต้องลงไปอยู่ใต้เตียงแน่ ๆ เขาเลยตั้งใจจะแกล้งจ๊ะเอ๋ เขาเลยก้มลงไปใต้เตียง แล้วก็เห็นเป็นเงาดำ ๆ เหมือนมีคนอยู่ใต้เตียงจริง ๆ เขาเลยยืนมือเข้าไปใต้เตียงจะแกล้ง แต่มีมือสวนออกมาจับมือน้องคนนี้แล้วพูดว่า ช่วยด้วย พอดีกับที่มีเสียงเปิดประตูเข้ามา แล้วเป็นแฟนเขายืนอยู่ที่ประตู แล้วทั้งเขาและแฟนเห็นเหมือนกันทั้งคู่ ว่าเป็นคนวิ่งไว ๆ พุ่งออกไปที่ระเบียง

แฟนเขาก็โมโหมาก เพราะตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์ แล้วก็มารับไปงานวันเกิดด้วย แต่เหมือนน้องผู้ชายเอาใครมานอน น้องผู้ชายก็บอกว่าฉันมาที่นี่เพื่อมาหาเธอ ฉันจะเอาใครมานอนด้วย แล้วก็ทะเลาะกัน ระหว่างที่ทะเลาะกันก็มีการทำลายข้าวของด้วย เพื่อนผมก็ขึ้นมาห้าม วันที่เช็คเอาท์เพื่อนผมก็เลยขอเบอร์ติดต่อสำรองไว้ เพื่อติดต่อเรื่องการชำระค่าเสียหายที่ยังไม่เรียบร้อย ก็ได้เป็นเบอร์ของคุณพ่อแล้วก็เบอร์ของน้องผู้หญิงเอาไว้

วันต่อมาเพื่อนผมก็ติดต่อไปหาน้องคนนี้ เพราะยังคาใจเรื่องเชือกสายสิญจน์ที่เพื่อนผมเห็นว่าคล้องอยู่ที่คอ เพื่อนผมก็ถามน้องเขาว่า น้องพี่ถามจริง ๆ นะ น้องไปทำอะไรมา ทำไมพี่เห็นเหมือนว่าเป็นเชือกสายสิญจน์คล้องอยู่ที่คอ แต่พอหันไปอีกทีไม่เห็นแล้ว น้องเขาก็ไม่พูดอะไรนะครับ เขาก็เงียบ แล้วเขาก็ตัดสายไป

พอวันถัดไป กลายเป็นน้องคนนี้โทรกลับมาหาเพื่อนผมเอง แล้วก็บอกว่า ผมเล่าแล้วพี่ ผมเล่าแล้ว ผมยังไม่อยากตาย พี่ช่วยผมด้วย เพื่อนผมก็บอกให้ใจเย็น ๆ น้องผู้ชายคนนั้นก็เล่าให้เพื่อนผมฟัง เขาบอกว่า ก่อนที่จะเดินทางมาที่รีสอร์ทเพื่อนของผมเนี่ยนะครับ เขาเลิกกับผู้หญิงคนหนึ่งไปแล้ว แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมเลิก แล้วเขาก็รู้ว่าน้องคนนี้จะมาหาผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่จันทบุรี เขาเลยจะโทรมาบอกว่า ถ้าวันนี้เธอไปหาผู้หญิงอีกคนหนึ่งนะ ฉันจะทำในสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง แล้วเธอจะเสียใจไปตลอดชีวิต พอน้องผู้ชายเล่าถึงตรงนี้ มันมีเสียงกรี๊ดขึ้นมาจนเพื่อนผมตกใจ แล้วสายก็หลุดไป พอเพื่อนผมโทรกลับไปหาน้องก็ไม่ติด

เพื่อนผมเลยคิดว่าจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า เขาเลยโทรไปที่เบอร์สำรองคือเบอร์น้องผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ก็ไม่ติด เลยโทรไปอีกเบอร์หนึ่งคือเบอร์คุณพ่อ ปรากฏว่าคุณพ่อรับสาย คุณพ่อก็บอกว่า โอเค เดี๋ยวเขาจะไปดูลูกเขา พออีกวันเขาก็อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาเลยโทรไปหาคุณพ่อ วันที่หนึ่งคุณพ่อไม่รับสาย วันที่สองคุณพ่อก็ไม่รับสาย แต่วันที่สามคุณพ่อรับสาย เพื่อนผมก็ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับน้องหรือเปล่าครับผมเป็นห่วง ถ้าเป็นปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายอะไรตรงนี้เนี้ยเราคุยกันได้

คุณพ่อก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปคุยกันที่นั่นก็ได้ แล้วพ่อเขาก็นัดเพื่อนผมไปที่ ๆ หนึ่ง ที่นั่นก็คือวัดครับ พอดีวันนั้นเพื่อนผมแต่งกายไม่สุภาพเลยไม่ได้เข้าไปข้างในซึ่งเขามีงานศพกันอยู่ รอจนแขกกลับไปหมดก่อนเพื่อนผมก็เข้าไปถามว่า คุณพ่อ มันเกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมให้ผมมาพบที่นี่ พ่อเขาก็ให้เพื่อนผมจุดธูปไปไหว้ ซึ่งปรากฏว่าศพในงานก็คือศพของน้องผู้ชายคนนั้น เพื่อนผมก็ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น คุณพ่อก็เล่าว่า จำวันนั้นที่เพื่อนผมโทรไปบอกให้ช่วยไปดูน้องหน่อยได้มั้ย วันนั้นพ่อไปแล้ว แต่พอไปถึงลูกเขาเหมือนไม่มีสติ เอาแต่พูดว่าเล่าแล้ว เล่าแล้ว จะเล่าความจริงให้ฟังแล้ว พ่อก็ถามว่าความจริงอะไร

น้องเขาก็เลยเล่าว่า วันนั้นก่อนที่จะไปที่รีสอร์ท เขาไม่ได้ไปที่รีสอร์ทที่จันทบุรีเลย แต่เขาแวะไปเคลียร์กับแฟนเก่าของเขาก่อนครับ แล้วเขามีการทะเลาะกันและลงไม้ลงมือ จนเผลอไปบีบคอน้องคนนั้นเสียชีวิต เขาตกใจ เขาเลยอำพรางคดีด้วยการทำเหมือนว่าน้องผู้หญิงคนนั้นผูกคอตาย แล้วต่อมาตัวเขาก็ผูกคอตายเหมือนกัน คุณพ่อของน้องผู้ชายเลยคาดว่าลูกชายน่าจะเครียดกลัวต้องโทษจากคดีฆ่าคนตาย เลยผูกคอตายหนีความความผิด แต่เพื่อนของผมบอกกับผมว่า คนที่โทรมาหาเขาแล้วบอกว่าช่วยด้วย ผมไม่อยากตาย ไม่น่าจะไปผูกคอตาย

แล้วบ้านหลังที่น้องผู้หญิงเช่าอยู่ คือหลังเดียวกับที่น้องผู้ชายคนนี้กลับไปผูกคอตาย แล้วบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่คุณพ่อของผมเคยซื้อไว้นานแล้ว แล้วขายให้กับคน ๆ หนึ่งซึ่งเขาปล่อยให้เช่า แล้วคนที่เช่าก็คือน้องคนนี้แหละครับ ก็คือคุณพ่อผมเคยซื้อบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งบ้านหลังนั้นเคยมีประวัติมาก่อน แล้วต่อมาก็ขายบ้านหลังนี้ให้กับคน ๆ หนึ่ง แล้วคน ๆ นั้นก็เอาไปปล่อยเช่า ซึ่งคนเช่าก็คือน้องผู้ชายคนนี้ เช่าเพื่อจะอยู่กับน้องผู้หญิงคนนี้ครับ และก็คือบ้านที่เขาพลั้งมือฆ่าน้องผู้หญิงตาย ก่อนที่ตัวเองจะกลับไปผูกคอตายที่บ้านหลังนั้นเหมือนกัน ซึ่งบ้านหลังนี้ สิบกว่าปีก่อนก็มีเหตุผูกคอตายมาแล้วเหมือนกัน ก่อนที่พ่อของผมจะไปซื้อมารีโนเวทแล้วขายไป แล้วเดี๋ยวพอฟังเรื่องถัดไปจะเข้าใจว่าทำไมผมต้องเอาเรื่องนี้มาเล่าก่อน.. //จบเรื่องที่ 4

ไม่มีความคิดเห็น