สิ่งที่พ่อผมเจอ โดย คุณบอล จาก The Ghost Radio
เรื่องราวสยองทั้ง 8 เรื่องของคุณบอล แห่ง The Ghost Radio ถูกถอดความโดยสมาชิกพันทิป หวานยิหวา โดยกระทู้ชื่อ [สำหรับคนชอบอ่าน] รวมจักรวาลผีของคุณบอลทั้ง 8 เรื่องจาก The Ghost Radio ดำเนินมาถึงตอนที่ 5 แล้ว คือเรื่อง "สิ่งที่พ่อผมเจอ" ที่กำลังติดตามกันว่าแล้วไปรับชมกันเลยครับ
ย้อนไปเมื่อสมัยปี 2512 คุณพ่อผมก็ทำงานรับจ้างทั่วไป จนกระทั่งเขาอายุยี่สิบกว่า ๆ ก็ไปเป็นลูกจ้างรับเหมาก่อสร้าง ทีนี้เถ้าแก่เขาก็มีงานรับเหมาไปที่จังหวัดศรีสะเกษ อำเภอกันทรลักษ์ แล้วคุณพ่อผมเนี่ยเป็นคนมีหัวสร้างสรรค์ ระหว่างทำงานเขาก็สังเกตว่าดินตรงนี้มันมีสีดำ แล้วก็หนา พ่อผมก็เลยไปถามมาว่าดินตรงนี้มันคือดินอะไร ปรากฏว่ามันคือดินภูเขาไฟครับ มันมีแร่ธาตุ เลยทำให้คุณพ่อผมเริ่มหันมาทำสวนที่ศรีสะเกษ แต่ตัวคุณพ่อผมเนี่ยเป็นคนจันทบุรี ระหว่างรอสวนออกดอกออกผลคุณพ่อผมก็ไปเอาเสื่อที่จังหวัดจันทบุรีไปขายที่สนามหลวง
ประมาณปี 2515 คุณพ่อผมก็เอาเสื่อจากจันทบุรีมาขายที่สนามหลวง พกเสื่อมาเยอะ ก็จำเป็นต้องหาบ้านเช่า ด้วยความที่ตัวเองเอาเงินไปลงทุนกับการทำสวนไว้เยอะ แถมยังไปเหมาเสื่อมาอีก เลยทำให้ต้องหาบ้านเช่าราคาถูก บริเวณใกล้ ๆ สนามหลวง ก็จะมีบ้านเช่าราคาถูกอยู่หลังหนึ่ง ซึ่งคุณพ่อบอกว่ามันถูกจนน่าสงสัย แต่คุณพ่อก็ไปเช่า บ้านนี้เป็นบ้านสามชั้น โดยชั้นสองกับชั้นสามจะแบ่งบ้านให้เช่า ชั้นหนึ่งมีสี่ห้อง ห้องน้ำรวม
กลางวันคุณพ่อก็จะเอาเสื่อไปขายที่สนามหลวง ตกกลางคืนเขาก็จะกลับมานอนพักผ่อน ด้วยความที่คุณพ่อเป็นคนอัธยาศัยดี เขาก็ผูกมิตรกับห้องข้าง ๆ พาคนจากห้องข้าง ๆ มากินข้าวกินเหล้าที่ห้องตัวเอง ทีนี้ความพิเศษของห้องของคุณพ่อผมเนี่ย จะเป็นห้องที่อยู่ฝั่งหน้าบ้าน แล้วก็มีระเบียงเพื่อเอาไว้ตากเสื่อ เพราะว่าเสื่อจะชื้นไม่ได้ ซึ่งคุณพ่อผมนอนอยู่ที่ชั้นสามด้านหน้า จนคืนหนึ่งคุณพ่อนอนฝันว่า มีผู้หญิงบ้านฝั่งตรงข้ามยืนโบกมือ พ่อผมก็สะดุ้งตื่นแล้วลุกออกมาดู แล้วเขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามจริง ๆ คุณพ่อผมก็คิดว่ามันเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลยครับ คุณพ่อก็สวดมนต์ไหว้พระนอน
คืนที่สองก็เจอเหตุการณ์แบบนี้อีก คือนอนฝันว่ามีผู้หญิงกวักมือเรียกจากบ้านฝั่งตรงข้าม พอตื่นขึ้นมาก็เจอผู้หญิงกวักมือเรียกอยู่อยู่จริง ๆ คืนนี้สามพ่อผมเลยตั้งใจว่า ถ้าเจออีก เขาจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว จะหาที่อยู่ใหม่ ปรากฏว่าคืนที่สามไม่เจอ แล้วมันตรงกับวันที่พ่อผมหยุดงาน พ่อผมก็นั่งพักผ่อนอยู่ที่ระเบียง แล้วเค้าก็เห็นผู้หญิงกำลังขี่จักรยานเข้าไปในบ้านฝั่งตรงข้าม เขาเลยคิดว่า อ่าว สิ่งที่เขาเห็นมันคนนี่ เขาเลยลงจากห้องข้ามถนนไปเคาะประตู จังหวะที่เคาะประตูคุณพ่อผมได้ยินเสียงเหมือนโต๊ะหรือเก้าอี้ล้มดังตึ้ง แล้วมีเสียงผู้หญิงร้อง พอดีกับประตูบ้านไม่ได้ล็อค คุณพ่อผมเลยถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป
พอเข้าไป ชั้นหนึ่งไม่มีใคร พอขึ้นไปชั้นสองเจอที่นอนเป็นแคร่ แล้วมีผู้หญิงแก่ ๆ นอนอยู่ เป็นคนไข้ติดเตียง เขาเลยวิ่งขึ้นไปชั้นสาม เจอผู้หญิงคนหนึ่งเป็นลมล้มอยู่ ข้าง ๆ เป็นผู้ชายแก่เป็นคุณตา ทีนี้คุณตาก็ผลัก ว่าเป็นใครไม่รู้อยู่ดี ๆ มาอุ้มหลานสาวเขา คุณพ่อผมก็บอกว่า ตอนนี้ไม่ต้องสนใจอะไรแล้ว ต้องพาไปหาหมอก่อน คุณพ่อผมก็อุ้มผู้หญิงคนนี้ไปหาร้านหมอที่อยู่ใกล้ ๆ โดยมีคุณตาคนนั้นไปด้วย พอกลับมาบ้านก็มานั่งคุยกัน
สรุปว่าผู้หญิงที่คุณพ่อผมเจอเนี่ย เป็นคนนะครับ แล้วคุณตาก็บอกว่าที่ไม่พอใจเพราะแถวนั้นมีคนเสพยาม้าเยอะ เขากลัวคนติดยาบุกรุกเข้ามา พอผู้หญิงคนนั้นได้สติก็มานั่งคุยกับคุณพ่อผม คุณพ่อก็ถามว่าทำไมตอนกลางคืนน่ะ คุณชอบมองผมกวักมือเรียกผมอยู่ฝั่งตรงข้าม ผู้หญิงคนนั้นเขาก็บอกว่า ฉันมองคุณจริง ๆ แต่ฉันไม่ได้กวักมือเรียกคุณ ฉันโบกมือ บอกว่าอย่าอยู่ตรงนั้น เพราะบ้านเช่าหลังนั้นมันไม่มีคนอยู่ แต่ผู้หญิงคนนี้เห็นพ่อผมนั่งกินข้าว หัวเราะอยู่คนเดียว นั่งพูดอยู่คนเดียว ซึ่งผู้หญิงคนนั้นเขาอยู่มาก่อน เขาก็ทราบว่าบ้านหลังนี้เคยมีเหตุฆาตกรรม
คุณพ่อผมก็งงว่าแล้วมันเกิดอะไรขึ้น คนที่คุณพ่อผมเจอล่ะ คนที่คุณพ่อผมคุยด้วยล่ะ ถึงขนาดมานั่งกินข้าวกันด้วยล่ะ คืออะไร มันเลยทำให้คุณพ่อผมย้ายออกในวันนั้นเลย ย้ายมาอยู่ฝั่งบ้านของผู้หญิงคนนี้โดยอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ระหว่างนั้นก็ช่วยดูแลคุณยายที่ป่วยติดเตียง แล้วก็ดูแลคุณตาด้วย พอถึงช่วงทำสวนก็กลับศรีสะเกษไปทำสวน ก็สานความสัมพันธ์กันมาเรื่อย ๆ จนคุณพ่อผมกับผู้หญิงคนนี้มีความผูกพันกัน
จนมาถึงปี 2520 คุณพ่อผมก็ได้รับโทรเลขว่า ยายเสีย ช่วยลงมาหน่อย คุณพ่อผมก็เลยลงจากศรีสะเกษมาที่บ้านของผู้หญิงคนนี้ ช่วยจัดงานศพคุณยาย แล้วบ้านตรงข้ามที่คุณพ่อผมเคยเช่าก็ยังไม่มีคนอยู่นะครับ ยังมีป้ายให้เช่าแต่ไม่มีคนอยู่ แล้วคุณพ่อผมเคยเช่าอยู่ เขาก็รู้จักเจ้าของที่อยู่ปากซอยใกล้ร้านหมอ เขาเลยไปแซว ๆ อาเฮียว่า งวดก่อนก็หลอกให้ผมเช่าคนเดียวแล้ว งวดนี้ก็ยังไม่มีคนอยู่ ไม่ขายให้ผมเลยล่ะ ขายให้ผมถูก ๆ ก็ได้ ก็แค่แซว ๆ ปรากฏว่าอาเฮียแกขายจริง เพราะเขาก็ไม่อยากอยู่แถวนั้นแล้ว อยากไปอยู่ต่างจังหวัด คุณพ่อผมก็แซวว่า งั้นขายสองแสนก็พอมั้ง
พอรุ่งขึ้นอาเฮียขายให้พ่อผมจริง ๆ สองแสน พอซื้อมาปั๊บคุณพ่อผมก็ปล่อยให้เช่า แล้วคนก็เริ่มทยอยเข้ามาอยู่ แต่ชั้นสามคุณพ่อผมไม่ให้เช่า ให้เช่าแค่ชั้นหนึ่งกับชั้นสอง พอถึงช่วงทำสวน คุณพ่อต้องกลับไปทำสวน ก็ขอให้คุณตาบ้านตรงข้ามมาช่วยเก็บค่าเช่า ไม่ถึงปีก็มีโทรเลขด่วนจากผู้หญิงมาอีกว่าคุณตาเสีย คือภายในปีนั้นผู้หญิงคนนี้เสียทั้งคุณตาและคุณยายเลย คุณพ่อผมก็ลงมาช่วยจัดงานศพ ทีนี้ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่เหลือญาติที่ไหนแล้ว เหมือนมีแค่พ่อผมคนเดียวที่เขารู้จัก จนเมื่อประมาณปี 21 - 22 คุณพ่อกับผู้หญิงคนนี้ก็แต่งงานกัน ซึ่งผู้หญิงคนนี้ก็คือคุณแม่ของผมเองครับ
คุณพ่อผมก็เลยบอกคุณแม่ว่า งั้นไปอยู่ศรีสะเกษกันเพราะตรงนี้ก็ไม่มีใครแล้ว คุณตาคุณยายก็เสียแล้ว คุณแม่ผมก็บอกว่าไปสิ คุณพ่อผมเลยตัดสินใจขายทั้งบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วก็บ้านคุณแม่ผม แล้วปรากฏว่าช่วงนั้นมันจะมีสำนักพิมพ์มาซื้อบ้านไป ทำให้คุณพ่อของผมได้เงินก้อนมาในช่วงนั้น คุณพ่อผมก็คิดว่าจะเอาเงินก้อนนี้ไปทำอะไรดี แล้วก็คิดได้ว่าที่ผ่านมาเราก็เคยอยู่บ้านที่มีเหตุการณ์ต่าง ๆ บ้านพวกนี้จะราคาถูก พ่อผมเลยปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่า จะเจาะจงซื้อบ้านพวกนี้ คุณพ่อผมก็เลยไปหาเพื่อน ๆ ที่เป็นพาร์ทเนอร์กัน ทำให้เกิดธุรกิจบ้านผีขึ้นมาในปี 22 ครับ
ซึ่งบ้านแบบนี้คุณพ่อผมเล่าให้ฟังหลายเรื่อง เช่นบ้านข้างสวนที่ศรีสะเกษ คนงานเขมรฆ่านายจ้าง คุณพ่อผมก็ซื้อไว้แล้วขายต่อ บ้านห้าศพในอำเภอหนึ่งที่จันทุบรี ถ้าผมพูดแบบนี้คนแถวนั้นต้องทราบแน่ มันจะมีบ้านหลังหนึ่งโดนยิงห้าศพเลยครับ แล้วก็ขายในเวลาถัดมา อีกหลังหนึ่งคือบ้านผีตีนกลับ ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างทับเมรุเก่า ซึ่งทั้งสามหลังนี้ผมขอเอาไว้ก่อนเดี๋ยวจะมาขยายในวันหน้า
ทีนี้กลับมาที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นต้นกำเนิดของทุกเรื่องที่ผมเล่าให้ฟังนะครับ คือเมื่อปี 2527 คุณพ่อผมไปเจอบ้านหลังหนึ่งที่จังหวัดนนทบุรี บ้านสวย ถูกมาก ทำเลดีมาก อยู่ติดถนนใหญ่ ปัจจุบันคือถนนแจ้งวัฒนะ โดยบ้านนี้คุณพ่อผมตั้งใจว่าจะซื้อแล้วอยู่เอง ไม่ขาย เหมือนตั้งใจว่าจะกลับมาลงหลักปักฐานที่กรุงเทพ ไม่อยู่แล้วที่ศรีสะเกษเพราะทำสวนมันเหนื่อย ซึ่งปีนั้นคุณแม่มีผมแล้ว เพราะผมเกิดปี 2527
ระหว่างที่ผมกับคุณแม่อยู่ที่ศรีสะเกษ คุณพ่อก็ลงมาซื้อบ้านหลังนี้ แล้วก็รีโนเวท โดยบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่มีประวัติคือมีผู้หญิงท้องแก่ผูกคอตายในบ้าน เขาเลยขายในราคาถูก แต่บ้านสวยมาก ที่สำคัญบันไดไม้ตรงที่ผู้หญิงคนนี้ใช้ผูกคอตายเป็นไม้มะค่า ซึ่งเป็นไม้ราคาแพง คุณพ่อผมชอบบันไดไม้อันนี้มากเลยซื้อไว้ ระหว่างที่รีโนเวทก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะครับ เพราะคุณพ่อผมดวงแข็ง พอใกล้เสร็จคุณพ่อก็ไปรับผมกับคุณแม่ผมมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ แล้วความแปลกมันก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อผมกับคุณแม่มาอยู่.
บ้านหลังนี้เป็นบ้านสองชั้น เป็นบ้านสามตอน ชั้นล่างเป็นห้องรับแขกและห้องครัว ชั้นบนมีห้องนอนอยู่สองฝั่ง ฝั่งหน้ากับฝั่งท้าย ตรงกลางเป็นห้องน้ำ ระหว่างที่คุณพ่อผมนอนอยู่ที่ชั้นสอง เขาตื่นขึ้นมาในเวลาผีตากผ้าอ้อม แล้วเค้าได้ยินเสียงถีบจักรข้างล่าง คือข้างล่างมันจะมีโต๊ะจักรอยู่ เพราะคุณแม่ผมชอบเย็บผ้า คุณพ่อผมก็ได้ยินเสียงถีบจักรข้างล่าง เขาก็เลยคิดว่าคุณแม่ตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่ เลยจะลงมาดูข้างล่าง
พอคุณพ่อลงมาปรากฏว่า จักรมันเหมือนกับถูกถีบแล้วค่อย ๆ หยุด แล้ว ณ ตอนนั้น คุณแม่ผมไม่อยู่ คุณแม่อุ้มผมออกไปข้างนอก นี่คือสิ่งแรกที่คุณพ่อผมเจอนะครับ แต่คุณพ่อผมผูกพันกับเรื่องพวกนี้ ท่านก็พยายามแผ่เมตตา สวดมนต์ให้ แล้วเขาก็อยู่ต่อแต่ยังไม่เล่าให้คุณแม่ฟัง เพราะกลัวว่าคุณแม่จะกลัว เหตุการณ์แปลก ๆ ครั้งที่สองก็คือ ตอนที่คุณพ่อผมเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนที่ชั้นสอง คุณพ่อผมก็ได้ยินเสียงคุณแม่ผมร้อง โอ้ย คุณ ช่วยด้วย คุณ ช่วยด้วย
คุณพ่อผมก็ออกมาจากห้องน้ำ แล้วกำลังจะรีบลงไปข้างล่าง จังหวะที่คุณพ่อผมกำลังจะลงบันไดไปข้างล่าง มีมือมาจับที่ไหล่พ่อผมครับ แล้วบอกว่า ไม่ต้องไป ซึ่งเป็นมือของแม่ผมเองครับ จับไหล่พ่อว่าไม่ต้องไป พ่อผมหันมาก็ทำหน้างง แม่ผมเลยบอกว่า ฉันก็ได้ยินเสียงนั้นเหมือนกัน นี่คือจุดเริ่มต้นที่คุณพ่อคุณแม่ผมเริ่มเจอเรื่องแปลก ๆ ในบ้าน แล้วคุณพ่อผมทำธุรกิจแบบนี้มา เขารู้ว่าบ้านหลังนี้ต้องรีโนเวทแล้วทำพิธีของเขา แล้วขายต่อ ไม่เหมาะกับการอยู่
แต่ระหว่างนั้นก็ยังทนอยู่กัน แต่มันมีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ผมทนอยู่ต่อไม่ได้ ก็คือตอนที่ผมยังเป็นเด็กอยู่ อายุประมาณขวบเศษ ๆ คุณพ่อเล่าให้ผมฟังว่า ผมจะชอบนั่งเล่นอยู่ใต้บันได เพราะมันจะเป็นมุมของเล่นให้ผม โดยระหว่างที่ผมเล่นผมก็จะไม่สนใจของเล่นอะไรเลย แต่ผมจะเงยหน้าเหมือนเล่นกับอะไรบนฟ้าบนอากาศ พอคุณแม่ให้เล่นรถผมก็เล่นแป๊บเดียว แล้วสักพักผมก็หยิบรถยื่นขึ้นไปในอากาศ จนวันหนึ่งคุณแม่ผมยืนอยู่หน้าบ้าน แล้วก็ปล่อยให้ผมเล่นอยู่ตรงนั้นคนเดียว
คุณแม่ผมได้ยินเสียงผมร้องไห้ เขาเลยเข้ามาดู ภาพที่แม่ผมเห็นคือ เหมือนมีอะไรบางอย่างจับผมขึ้นมานั่ง แล้วผมก็ถูกอะไรบางอย่างผลักให้หัวฟาด แล้วผมก็ร้องไห้ แล้วผมพยายามลุกขึ้นมานั่ง แล้วก็มีอะไรบางอย่างผลักผมให้ล้มคะมำ หน้าทิ่มหน้าหงายอยู่แบบนั้นสามสี่รอบ มันเลยทำให้คุณพ่อกับคุณแม่ผมไม่เอาแล้ว ถ้าอยู่ด้วยกันแบบนี้แล้วทำร้ายลูกฉันก็อย่าอยู่ ก็พากันกลับไปอยู่ที่ศรีสะเกษ บ้านนั้นก็รีโนเวทอยู่ แล้วคุณพ่อผมก็ขายบ้านหลังนี้ให้คน ๆ หนึ่ง แล้วคน ๆ นั้นก็เอาไปปล่อยเช่า
และบ้านหลังนี้ก็คือต้นกำเนิดของเรื่อง ผมยังไม่อยากตาย แล้วเด็กคนนั้นก็แขวนคอตายในจุดเดียวกับที่หญิงท้องแก่แขวนคอตายเลยครับ และนั่นเป็นบ้านหลังสุดท้ายที่คุณพ่อทำในปี 2527 ครับ พอปี 2528 คุณพ่อก็เริ่มไปทำธุรกิจโรงแรมแทน ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าคุณพ่อผมซื้อบ้านแบบนี้แล้วขายไปทั้งหมดกี่หลังครับ คือมันเยอะ แต่ที่ผมจำได้มีสี่หลัง ก็คือบ้านที่ศรีสะเกษหลังหนึ่ง บ้านห้าศพ บ้านผีตีนกลับ แล้วก็บ้านที่นนทบุรีหลังนี้ครับ แต่ตอนหลัง บ้านที่นนทบุรีเนี่ย คุณพ่อผมได้กลับมาซื้อ เพราะคุณพ่อผมทราบว่าจะมีห้างสรรพสินค้ามาทำ เลยซื้อเพื่อที่จะขายให้เขาเอาไปทำห้าง แต่ผมไม่บอกว่าเป็นห้างอะไรนะครับ
แล้วคุณพ่อผมท่านเกิดวันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2492 เดือนนี้มีวันเสาร์ 5 วัน แล้วเสาร์ที่ 2 เมษายน เป็นวันเสาร์ที่ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ที่เขาเรียกว่า เสาร์ 5 ซึ่งร้อยปีจะมีอยู่แค่ไม่กี่วัน เรียกว่าเป็นคนดวงแข็ง แล้วเวลาเกิดของคุณพ่อผม ยิ่งแข็งกว่าดวงอีกครับ แล้วผมจะขออนุญาตเฉลยต่อ เรื่องคุณพ่อของผมใช้วิธีไหนในการรีโนเวทบ้าน วิธีทางโลกผมขอไม่เฉลยเพราะเป็นเคล็ดลับทางธุรกิจ แต่วิธีทางไสยศาสตร์เนี้ย จะมีบทอยู่บทหนึ่ง คือกรณียเมตตสูตร เป็นบทสวดมนต์ที่พระพุทธเจ้าทรงประทานให้ภิกษุสงฆ์ที่ถูกผีหรือเทวดารบกวน บทนี้เคยมีพูดถึงในพระไตรปิฎกด้วยครับ โดยเหล่าภิกษุจะใช้บทนี้สวดเพื่อให้ผีหรือวิญญาณทั้งหลายเป็นมิตรกับเรา แล้วบ้านทุกหลังที่คุณพ่อผมไปรีโนเวทเนี้ย ก็ไม่เคยไปไล่เขาออกไปไหน แต่ทำให้เขาเป็นเพื่อนกับเรา ส่งเสริมเรา ทำให้เรามีกินมีใช้ไปเรื่อย ๆ และทุกวันนี้ครอบครัวผมทำธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ครับ
แล้วผมเล่าข้ามไปเรื่องหนึ่งคือเรื่องคุณตากับคุณยายของผม คือตอนเสียชีวิต คุณยายผมเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่ง แต่คุณตาผมเสียชีวิตในบ้านที่ปล่อยให้เช่าแล้วให้คุณตาช่วยดูแลนะครับ แล้วคุณแม่ผมก็ฝันว่า ตายายเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน คุณพ่อผมก็เลยไปเชิญหมอธรรมที่ศรีสะเกษ ลงมาเพื่อเหมือนเอาคุณตาคุณยายมาอยู่ในตุ๊กตา เพื่อที่ว่าไปไหนก็จะได้ไปด้วยกัน แล้วตุ๊กตาตายายนี้ก็เป็นที่มาที่ไปของศาลตายายที่โรงแรมนี้ล่ะครับ
ที่ผมเคยเกริ่นว่าศาลตายายของผมไม่เหมือนศาลตายายทั่วไป ก็คือเป็นคุณทวดของผมครับทางฝั่งแม่ครับ แล้วคุณตาคุณยายผมเป็นคนไม่ชอบสิ่งเสพติดอยู่แล้ว เพราะว่าตรงนั้นเนี่ย มันมีคนเสพยาอยู่ด้วย เพราะแบบนั้น เขาเลยไปทำร้ายโต๊ด เพราะโต๊ดยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติด และเพื่อนพ่อผมที่เป็นพาร์ทเนอร์ทำธุรกิจบ้านผีนี้นะครับ ก็คือคุณพ่อของเพื่อนผมคนหนึ่ง สมมติว่าชื่อเอ และเอคนนี้แหละ คือคนที่ผมขับรถไปเจอผีที่ทุ่งขนานในเรื่องสื่งที่ผมเจอครับ
ผมขอเกริ่นตามสไตล์ผมเหมือนเดิมเลยนะครับ เกี่ยวกับบ้านอีก 3 หลัง บ้านหลังแรกเป็นบ้านข้างสวนที่ศรีสะเกษ เป็นบ้านที่คนงานเขมรฆาตกรรมนายจ้าง หลังนี้สยองมาก รีโนเวทแล้ว ขายแล้ว ก็ยังสยองอยู่ จนกระทั้งสุดท้ายทุกวันนี้ยังปล่อยเป็นบ้านร้าง หลังที่ 2 บ้านห้าศพที่อำเภอหนึ่งในจังหวัดจันทบุรี คือมีการยิงกันตาย 5 ศพในบ้าน คนที่จันรู้ดีเลยครับ ทุกวันนี้ก็ยังเฮี้ยนอยู่ครับ แล้วบ้านหลังสุดท้ายที่เป็นไฮไลท์ของผมก็คือ บ้านผีตีนกลับ ทำไมมันถึงเป็นผีตีนกลับ ทำไมถึงยุ่งเกี่ยวกับเมรุเก่า เดี๋ยวผมขออนุญาตไว้วันหน้าอีกทีครับ.. //จบเรื่องที่ 5
Post a Comment