บ้านหลังที่หนึ่ง โดย คุณบอล จาก The Ghost Radio
ความเข้มข้นของ 8 เรื่องของคุณบอล แห่ง The Ghost Radio ถูกถอดความโดยสมาชิกพันทิป หวานยิหวา โดยกระทู้ชื่อ [สำหรับคนชอบอ่าน] รวมจักรวาลผีของคุณบอลทั้ง 8 เรื่องจาก The Ghost Radio กำลังเชื่อมโยงกันอย่างเหลือเชื่อ ถึงเรื่องต่างๆของคุณบอล เรื่องต่อไปคือเรื่อง "บ้านหลังที่หนึ่ง" จะเป็นอย่างไรนั้นไปติดตามกันเลยครับ
ผมจะขอเล่าเป็นภาพก่อนนะครับ ลองนึกถึงภาพสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวนอนสองผืนติดกัน ภาพสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวนอนด้านล่างเป็นที่ของคุณพ่อผม แล้วสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวนอนด้านบนเป็นที่ของลุงปอ กับป้านา เป็นชื่อสมมติทั้งคู่นะครับ ที่สองผืนนี้อยู่ติดกัน แล้วบ้านสวนของคุณพ่อผมจะอยู่มุมซ้ายบน ซึ่งมันก็จะติดกับที่ของลุงป้อกับป้านา สองบ้านก็ไปมาหาสู่กันเป็นปกติ ลุงป้อจะเป็นคนมีนิสัยขี้เหล้า เจ้าชู้ ชอบเล่นการพนันที่ท้ายสวน ตั้งวงไฮโลเพื่อคลายเครียดของคนทำสวนสมัยนั้น
วันหนึ่งคุณพ่อกับคุณแม่ของผมไปทำธุระที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งก็ใกล้ ๆ กับศรีสะเกษ แล้วก็กลับมาที่สวนตอนค่ำ ๆ พอกลับมาก็เห็นคนมุงอยู่ตรงบ้านของลุงปอกับป้านาเยอะเลย มีรถตำรวจ รถพยาบาล ก็เห็นว่าเป็นศพลุงปอเสียชีวิต สาเหตุของการเสียชีวิตคือการฆาตกรรม โดนทำร้ายด้วยการแทงด้วยของมีคมหลายสิบแผล ทีนี้ประเด็นการถูกฆาตกรรมตำรวจเขาก็สันนิฐานไว้หลายสาเหตุ เพราะลุงปอก็เป็นทั้งนักพนันตัวยง เจ้าชู้ แล้วชอบมีเรื่อง แต่สาเหตุหนึ่งที่คุณตำรวจให้น้ำหนักก็คือ โดยปกติแล้ว สวนของลุงปอป้านาจะมีคนต่างด้าวเป็นลูกจ้างที่เข้ามาทำงานโดยไม่ถูกกฎหมาย ลูกจ้างที่เป็นผู้หญิงกับผู้ชายสองคนนี้หายตัวไป คือเขาเป็นสามีภรรยากัน
ประกอบกับลุงปอเนี้ย เขาจะมีของมีค่าติดตัวแล้วมันก็หายไป ตำรวจก็เลยมุ่งประเด็นว่าเป็นการฆาตกรรมชิงทรัพย์ของลูกจ้าง แล้วต่างจังหวัดเวลามีงานศพเขาจะไม่ค่อยจ้าง จะเป็นลักษณะแบบชาวบ้านไปช่วยในเรื่องต่าง ๆ คุณพ่อกับคุณแม่ผมก็ไปช่วยงานของลุงปอด้วย พอเสร็จงานคืนแรกก็กลับมานอน ตอนพอผมนอนอยู่ที่บ้านก็ได้ยินเสียงร้อง โอยยยย โอยยยยยยย เสียงแบบคนเมาครับ คุณพ่อก็ลุกขึ้นมาดู เขาก็เห็นว่าเป็นคนเดินเมาอยู่ในสวน แล้วก็มีผู้หญิงยืนอยู่ด้วย คุณพ่อผมก็เลยคิดว่าเป็นพวกนักพนันที่ชอบไปเล่นพนันท้ายสวน ก็ผ่านไป
พอไปงานศพคืนที่สอง คุณพ่อผมก็ยังไปเปรย ๆ กับป้านาว่าทำไมไม่เกรงใจป้านาเลยเนอะ งานศพก็ยังจัดอยู่ ทำไมไม่มาเล่นที่งานล่ะ จะได้อยู่เป็นเพื่อนศพ ซึ่งสมัยก่อนยังสามารถเล่นการพนันในวัดได้ แต่ป้านาก็ไม่ได้พูดอะไร พอคุณพ่อผมกลับมาก็เดินไปดูที่ท้ายสวนว่ามีคนเล่นการพนันมั้ย ก็ไม่มี คุณพ่อผมเลยเดินกลับมานอนตามปกติ คุณพ่อผมก็ได้ยินเสียงเหมือนเดิมเลยครับ เป็นเสียง โอยยย โอยยยย แล้วก็เดินแล้วมีผู้หญิงเดินตาม คุณพ่อผมก็คิดแล้วว่ามันต้องไม่ปกติแน่ ๆ เลยคิดว่าพรุ่งนี้จะลองไปคุยกับป้านาดูอีกทีว่าเป็นยังไง
หลังเสร็จงานศพคืนที่สาม คุณพ่อก็เข้าไปคุยกับป้านาว่า เมื่อคืนป้านาได้ยินเสียงอะไรมั้ย ป้านาแกไม่ตอบนะครับ แต่ป้านาถามกลับมาว่า เฮียก็ได้ยินเหมือนกันใช่มั้ย มันก็แสดงว่าทั้งคุณพ่อผมแล้วก็ป้านาได้ยินเสียงคนร้องเหมือนกัน คุณพ่อก็ยังคาใจว่าเสียงอะไร เสียงคนเมาหรือคนเล่นการพนัน เดินไปดูท้ายสวนก็ไม่เห็นมีอะไร ก็กลับมานอนที่บ้านปกติ กลางดึกระหว่างที่คุณพ่อผมนอนหลับอยู่ก็ได้ยินเสียงกระซิบข้างหู ตื่น ๆ ๆ ๆ เป็นเสียงเครือ ๆ คุณพ่อผมก็ตื่นขึ้นมา แล้วได้ยินเสียงพูดต่อว่า ตื่น ๆ พ่อ แม่กลัว มันคือเสียงของคุณแม่ผมเองครับ มากระซิบปลุกคุณพ่อแล้วก็บอกว่า พ่อ พ่อ แม่กลัว
จังหวะนั้นคุณพ่อกับคุณแม่ของผมก็ได้ยินเสียงคนเดินใกล้ ๆ บ้าน ซึ่งบ้านผมติดกับสวนลุงปอ คุณพ่อผมเลยรู้ว่ามันเป็นคืนที่สาม เขาต้องเดินมาเก็บรอยเท้า คุณพ่อผมก็จับมือคุณแม่ผมไว้แน่น ๆ บอกว่า แม่ไม่ต้องกลัวนะ มีพ่ออยู่ตรงนี้ไม่ต้องกลัว แล้วบ้านเราก็มีทั้งศาลตายายที่เป็นคุณทวดของผมอยู่ด้วย ก็ปลอบกันแล้วคืนนั้นก็ผ่านไป พอถึงวันเผาคุณพ่อคุณแม่ก็ไปร่วมงานปกติ คุณพ่อผมสังเกตเห็นว่าสีหน้าของป้านาไม่ดีเลย คุณพ่อผมบอกว่ามันไม่ใช่สีหน้าของคนเศร้าเสียใจธรรมดา แต่มันเหมือนหน้าหมอง ๆ ตาไม่มีแวว แต่คนเพิ่งสูญเสียสามีไป คุณพ่อผมก็ไม่อยากทักอะไร
ผ่านไปประมาณหนึ่งเดือน คุณพ่อกับคุณแม่ผมก็ทำสวนกันปกติ อยู่ ๆ ป้านาแกก็เดินมาที่บ้านแล้วก็บอกว่า แกอยากขายสวน คนงานก็ไม่มี ลุงปอก็เสียไปแล้ว แกทำไม่ไหว คุณพ่อผมเลยบอกว่าไปบอกเสี่ยคนข้าง ๆ สิ เขามีเงินเยอะ ผมมีเงินน้อย แกก็บอกว่าบอกหลายคนแล้วไม่มีใครกล้าซื้อเลย คุณพ่อผมก็ไม่ลังเลเลยที่จะซื้อ เพราะซื้อในราคาถูก ได้ทั้งที่ ได้ทั้งสวน ได้ทั้งบ้าน คุณพ่อผมคิดแล้วว่าคุ้ม ตั้งใจว่าจะเอาบ้านของลุงปอฝั่งที่ติดถนนมารีโนเวทแล้วขาย ส่วนด้านสวนลำไย คุณพ่อผมจะทำเหมือนเดิมเพราะคุณพ่ออยากปลูกลำไยอยู่พอดี
ก็ตกลงซื้อขายกันในราคาไม่แพง แล้วคุณพ่อผมเวลาทำธุรกิจประเภทนี้ คุณพ่อจะใช้ตัวเองไปอยู่ในบ้านสามวันแรกเพื่อเป็นเคล็ด โดยเข้าไปก็จะไปสวดมนต์อย่างที่ผมเล่าไว้ คืนแรกคุณพ่อผมก็ไปเลยครับ ไปนอนที่บานสวนของลุงปอป้านา แต่ติดที่คุณแม่ผมเขาก็ไม่กล้านอนคนเดียว จะเอาไปด้วยคุณพ่อก็ไม่อยากให้ไป เลยเอาไปฝากไว้ที่บ้านเมียผู้ใหญ่บ้านที่รู้จักกันสามคืน คืนแรกคุณพ่อผมก็สวดมนต์ปกติ ระหว่างที่คุณพ่อผมนอน เขาฝันว่ามีผู้หญิงคนหนึ่ง สังเกตเห็นได้จากการแต่งตัว จากหน้าตา จากผิวพรรณ รู้เลยว่าไม่ใช่ผู้หญิงบ้านเรา ผู้หญิงคนนี้เขายืนคร่อมคุณพ่อผมอยู่ ระหว่างที่ยืนก็พูดเป็นภาษาเขมรที่แปลว่า ให้ออกไป และ ช่วยด้วย สักพักก็เห็นว่ามีเลือดไหลออกมาจากขา แล้วก็มีเด็กหล่นลงมาบนตัวคุณพ่อผม คุณพ่อผมก็ตกใจตื่น
จังหวะที่คุณพ่อผมตกใจตื่น คุณพ่อก็ได้ยินเสียงโอยเหมือนเดิมเลยครับ แต่ได้ยินใกล้ขึ้นเพราะนอนในบ้านลุงปอ คุณพ่อผมเลยลุกขึ้นไปดู เห็นคนเดิมเลยครับที่เดินโซซัดโซเซ แต่คราวนี้เขาหยุด แล้วหันมามองคุณพ่อผม จังหวะที่เขาหันมามองพ่อผม คุณพ่อจำได้แม่นเลยว่า คือลุงปอ แต่ตอนนี้ลุงปอเดินเข้ามาหาพ่อผมในบ้านหลังนี้ คุณพ่อผมก็กำโฉนดไว้แน่นเลย เพราะโฉนดมันมีตราแผ่นดินอยู่ แล้วก็อธิษฐานจิตแผ่เมตตา บอกว่า ณ ตอนนี้ที่แห่งนี้มันเป็นที่ของผมแล้ว ถ้าไม่มีเวรไม่มีกรรมต่อกันก็อย่ามายุ่งวุ่นวายต่อกัน อย่ามาสร้างเวรสร้างกรรมกันต่อไป พอคุณพ่อผมลืมตาขึ้นมา คุณพ่อผมเห็นลุงปอยืนอยู่ริมหน้าต่าง คุณพ่อผมก็ตกใจ
แต่ที่ตกใจไปมากกว่านั้น คือเห็นผู้หญิงในฝัน ยืนอยู่ด้านหลังลุงปอ พอเห็นแบบนี้คุณพ่อรู้แล้วว่าสิ่งที่เจอมันร้ายแรง คุณพ่อผมเลยนึกถึงคาถาสุดยอดของคุณพ่ออยู่บทหนึ่ง บทเดียวที่ใช้อยู่ตลอดเวลาเลยคือ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งอันเกษมสูงสุด ที่พึ่งอื่นเสมอเหมือนไม่มี แล้วก็ท่องกรณียเมตตสูตรเหมือนเดิมครับ ท่องจนไม่รู้ว่าวนอยู่กี่รอบ สักพักคุณพ่อผมได้ยินเสียงผู้หญิงเสียงเดียวกับในฝัน มากระซิบที่ข้างหูบอกว่า ออกไป ออกไป แต่คุณพ่อบอกว่า เสียงแบบเป็นมิตร ไม่ได้เป็นศัตรู คุณพ่อผมคิดแล้วว่าคืนนี้อยู่ไม่ได้แน่ ก็เลยกลับไปนอนที่บ้านสวน..
คืนที่สองปกติคุณพ่อผมก็ต้องไปนอนในบ้านที่คุณพ่อผมซื้อ แต่ว่าคุณพ่อผมไม่ไป ซึ่งในบ้านทุกหลังที่คุณพ่อผมซื้อ มีอยู่สามหลังที่คุณพ่อผมนอนไม่ไหว หลังนี้ก็เป็นหนึ่งในสามหลังนั้นครับ คืนที่สองคุณพ่อก็นอนอยู่บ้านตัวเอง ก็ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาใกล้ ๆ บ้าน คุณพ่อผมก็รู้ด้วยสัญชาตญาณว่าต้องเป็นลุงปอแน่ ๆ คุณพ่อก็ได้แต่แผ่เมตตาแล้วก็สวดมนต์เหมือนเดิม จนถึงเช้าอีกวันหนึ่ง คุณพ่อก็คิดแล้วว่าเดี๋ยวต้องไปรับคุณแม่ผมกลับมานอน ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้คุณแม่ผมคงนอนไม่ได้แน่ ๆ เขาเลยไปปรึกษากับหมอธรรม ปรึกษาพระ ว่าจะทำยังไง
จนได้ข้อสรุปออกมา ว่าคุณพ่อผมจะทำพิธีบวชป่า เป็นพิธีทางเหนือ จะมีการอัญเชิญพระสงฆ์มาสวดไชยมงคลคาถา เจริญพระพุทธมนต์ รดต้นไม้ แล้วก็เอาผ้าเหลืองไปผูกต้นไม้ เพื่อป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า เพราะเมื่อก่อนภาคเหนือมีไม้แพง ๆ เยอะ แต่ประเด็นคือหลังทำพิธีบวชป่าทุกครั้ง จะมีการตั้งศาลเพื่ออัญเชิญรุกขเทวดามาปกป้องผืนป่านั้น คุณพ่อผมเลยใช้เคล็ดอันนี้ครับ คือทำพิธีบวชป่า แล้วตั้งศาลอัญเชิญรุกขเทวดามาเพื่อปกป้องสวนที่คุณพ่อผมซื้อไว้ และที่สำคัญคือได้ตั้งศาลเพียงตาเอาไว้ให้กับลุงปอด้วย เพราะลุงปอตายไม่ดี อาจยังไม่ถึงเวลาที่ต้องไปแล้วเขาต้องการที่อยู่ เขาเลยสร้างศาลให้ลุงปออยู่
หลังจากนั้นเป็นต้นมา คุณพ่อผมไม่เห็นลุงปออีกเลย แต่คุณพ่อผมยังเห็นผู้หญิงคนเดิมยืนอยู่กลางสวน แต่ผู้หญิงคนนี้เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ยืนอยู่เฉย ๆ แต่คุณพ่อผมก็ไม่สบายใจ คุณพ่อผมเลยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับพระที่อยู่วัดใกล้ ๆ พระอาจารย์ท่านก็บอกว่าอาตมาไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้ อาตมารู้แต่เรื่องพุทธศาสตร์ ไสยศาสตร์อาตมาไม่รู้ คุณพ่อผมก็ต้องกลับ แต่ตอนกลับลงมาได้เจอกับสัปเหร่อของวัด แล้วสัปเหร่อเข้ามาคุยกับคุณพ่อผม สัปเหร่อเลยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้คุณพ่อผมฟัง
คือมีช่วงหนึ่งที่คุณพ่อกับคุณแม่ผมไม่อยู่ที่ศรีสะเกษเลย เป็นช่วงที่ลงมาทำบ้านที่จังหวัดอื่น ๆ เพื่อรอสวนออกดอกออกผล ช่วงนั้นมันมีเหตุเกิดขึ้นที่สวนของลุงปอกับป้านา คนงานต่างด้าวสองคนนี้ เขาเป็นสามีภรรยากัน แล้วภรรยาเป็นผู้หญิงท้องแก่ใกล้คลอด แต่เขาไม่สามารถไปคลอดที่อนามัยได้เพราะเขาเป็นแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ลุงปอเลยไปจ้างเมียของสัปเหร่อซึ่งเคยเป็นหมอตำแยเก่ามาทำคลอดให้ในสวน แต่ไม่ทราบว่าเพราะอะไรทั้งคุณแม่และเด็กเสียชีวิตอยู่ในสวน
ทีนี้ลุงปอเลยเสนอว่าเดี๋ยวจะทำพิธีสวดศพให้อย่างถูกต้อง สวดสามวันแล้วเผาให้ ซึ่งตรงนี้คุณพ่อผมก็ผิดสังเกต เพราะคุณพ่อผมบอกว่า ถ้าเป็นแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายส่วนใหญ่ถ้าเกิดเหตุแบบนี้ เขาจะรีบเคลียร์ให้จบให้เร็วที่สุด บางรายถึงขนาดฝังกลบกันเลย แต่ลุงปอจัดงานศพให้ ก็ตั้งศพไว้ที่ท้ายสวน เชิญพระสี่รูปมาทำพิธีถูกต้องทุกอย่างเลย แล้วก็ฝากลุงสัปเหร่อเผา ซึ่งลุงสัปเหร่อก็เล่าให้ฟังว่า เหตุผลที่ลุงปอต้องการทำพิธีอย่างถูกต้อง คือลุงปอมาบอกว่าให้เผาศพผู้หญิงคนนี้วันอังคาร ผู้หญิงคนนี้เกิดวันอาทิตย์ ตายวันเสาร์ และต้องการให้เผาวันอังคาร ซึ่งจะทำให้เฮี้ยน เพราะลุงปอต้องการเอากระดูกมาฝังไว้ในสวน สะกดวิญญาณนี้ไว้เฝ้าสวน
แต่ลุงปอไปโกหกสัปเหร่อว่าต้องการเอามวลสารนี้ไปให้พระอาจารย์ท่านหนึ่ง ทำให้คุณพ่อผมรู้เลยว่า สิ่งที่พ่อผมเจอเป็นวิญญาณของผู้หญิงเขมรคนนั้นครับ และลุงสัปเหร่อก็ทราบดีว่าสามีของผู้หญิงคนนี้เขาก็รู้ ว่าลุงปอต้องการสะกดวิญญาณ เขาถึงโกรธแล้วก็ทำร้ายลุงปอ แทงลุงปอจนเสียชีวิต แล้วก็เอาทรัพย์สินจากลุงปอหนีกลับไปประเทศตัวเอง คุณพ่อผมก็เลยอยากปลดปล่อย เลยพาลุงสัปเหร่อไปที่สวน ไปที่จุดที่คุณพ่อผมเห็นผู้หญิงคนนี้บ่อย ๆ ลุงสัปเหร่อก็ไปขุดตรงนั้นเลยครับ
ขุดไปไม่ลึกมากครับ ก็ไปเจอห่อผ้าสีแดงลงอักขระ แต่พอเปิดห่อผ้าออกมา คุณพ่อผมถึงกับตกตะลึงเลยครับ เจอหนังหน้าผากลงอักขระที่สัปเหร่อเป็นคนทำเอง แล้วซ้อนด้วยปั้นเหน่ง เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมลุงปอโดนผู้หญิงคนนี้ตาม สุดท้ายคุณพ่อผมก็ฝากผ้าทั้งห่อนี้ให้ลุงสัปเหร่อ แล้วย้ำว่าให้เอาไปทำให้ถูกเรื่องถูกราว ลุงสัปเหร่อก็เอาไปทำพิธีของเขา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คุณพ่อกับคุณแม่ผมก็ไม่เจอลุงปอ หรือวิญญาณอะไรในสวนนั้นอีกเลย
คุณพ่อผมก็ทำสวนมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งปี 2547 คุณพ่อผมกลับไปขายสวน เพราะต้องการไปทำรีสอร์ทที่จังหวัดตราด ซึ่งก็คือเรื่องที่ผมเล่าไปเรื่องแรก ว่าผมกับเพื่อนไปทำธุระที่จังหวัดตราด ก็คือไปทำเรื่องนี้แหละครับ ส่วนเรื่องต่อไปก็คือเรื่องบ้านห้าศพที่จังหวัดจันทบุรี ชื่อเรื่องต่อไปคือ บ้านหลังที่สองครับ.. //จบเรื่องที่ 6
Post a Comment