อยู่ด้วยรักและผูกพัน ตอน 2
อยู่ด้วยรักและผูกพัน ตอน 2 เรื่องราวประสบการณ์จริงของสมาชิกพันทิปชื่อว่า TharaJF หากท่านพลาดตอนที่1 อยู่ด้วยรักและผูกพัน ขอขอบคุณประสบการณ์สยองจาก สมาชิกพันทิปชื่อว่า TharaJFไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ชีวิตเรามีความเกี่ยวข้องกับเรื่องที่มองไม่เห็นตั้งแต่มีน้องมาแฝง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการประพฤติปฏิบัติตนเอง ครอบครัวเราก็ใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีน้องเข้ามา อิอิ พอมีน้องเข้ามาก็ทำให้เราเองสัมผัสอะไรได้มากขึ้น คงไม่ใช่จากตัวเราที่พิเศษเองหรอก แต่อาจจะเป็นน้องที่นำพาสิ่งต่าง ๆ มาให้เราเห็น รวมถึงมาให้พ่อแม่รับรู้ด้วย ให้ใช้วิจารณญานในการอ่าน เชื่อหรือไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่ผู้อ่านแต่ละท่าน ถือว่าเรามาแบ่งปันประสบการณ์ละกันค่ะ
เรื่องนี้เกิดกับน้องชายแท้ ๆ ของเราที่มีร่างมาแฝงค่ะ แทนชื่อน้องว่า "น้องชาย" ส่วนน้องที่มาแฝงจะแทนว่า "น้อง"
เมื่อครั้งน้องชายต้องไปรับราชการอยู่ที่รพ.ค่าย ณ จ.หนึ่งของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คืนหนึ่งเพื่อนของน้องชายจะลากลับมาบ้านที่กรุงเทพฯ ต้องตื่นเช้ามืดเพื่อขี่รถมอไซจากบ้านพักออกมาหน้าค่าย ระยะทางเกือบ 10 กิโล ค่ายทหารที่ต่างจังหวัดค่อนข้างกว้างใหญ่ พื้นที่ส่วนมากเป็นป่า สองข้างทางก็เป็นป่าไม้ จากหน้าค่ายจะเป็นรพ. ถัดมาก็เป็นสถานที่ทำงานราชการ และจากตัวตึกของรพ.ไปจนถึงที่พักนี่แหละเกือบ 10 กิโล ต้องผ่านป่าไม้นานาชนิด คือในค่าย 1 ค่าย เทียบเท่าหมู่บ้าน 1 หมู่บ้านของต่างจังหวัดเลยค่ะ มันกว้างใหญ่ เงียบสงัดและมืดมากกกกก
บ้านพักนี้น้องชายพักกับเพื่อน 1 คน เช้ามืดสักตี 4 น้องชายขี่มอไซเพื่อนซ้อนแบกกระเป๋าเป้ใบใหญ่ ขี่ออกมาจากบ้านพักมุ่งหน้าไปหน้าค่าย ระหว่างทางที่ขี่มอไซก็มืด ๆ ฟ้าสลัวหมอกหน่อย ๆ มีเพียงชายหนุ่มหัวเกรียน 2 คน ขี่มอไซคันเก่า แท่ก แท่ก แท่ก ในบรรยากาศที่น่านอนมุดผ้าห่มอยู่ในบ้าน ขี่มาถึงหน้าค่ายส่งเพื่อนเรียบร้อย น้องชายขอตัวกลับก่อนเพราะอากาศมันเย็นมีหมอกลงจาง ๆ ระหว่างทางที่ขี่มอไซนั้นจิตใจมันก็คิดเตลิดเปิดเปิงไปเรื่อย ทั้งเรื่องบ้าน เรื่องพ่อแม่ เรื่องกิน รวมถึงเรื่องผี......
ขี่มาถึงหัวโค้งจะเข้าปากทางเข้าบ้านพัก มีเด็กผู้ชายใส่ชุดนอนสีน้ำเงินยืนอยู่หน้าป้ายขวามือ "บ้านพักกำลังพล......" มองตรงมาที่น้องชาย น้องชายก็เอะใจนิดนึงว่าเด็กที่ไหน ไม่เคยเห็นหน้า เลยเร่งเครื่องรถเก่าเน่า ๆ แรงอีกนิดเพื่อจะได้ไปใกล้ ๆ เห็นหน้าชัด ๆ หน่อย เข้าไปใกล้หมายจะหวังพาขึ้นรถไปส่งบ้าน เดชะบุญพอเข้าไปใกล้เด็กยิ้มทักทาย แต่ทำไมมันดูน่ากลัวจังวะ หักแฮนด์รถออกซ้ายแล้วบิดแบร๊นออกตัวอย่างไว มองกระจกหลัง เด็กวิ่งตามจ้า!!!!! น้องชายเราก็บิดคันเร่งหนี มองกระจกหลังเด็กผู้ชายคนนั้นวิ่งไปร้องไห้ไป เสียงร้องไห้ดังมาก "งือ งือ พี่รอหนูด้วย รอหนูด้วย" น้องชายเราคงรอหรอกค่ะ นางไม่รอค่าาาา ขี่ไปจนถึงหน้าบ้านตัวเองยังไม่ทันปิดกุญแจรถเลย ถึงหน้าบ้านปุ๊ปเทรถทิ้งปั๊บ เข้าบ้านได้ล๊อคประตูคลุมโปงทันที มอไซก็ยังไม่ได้ดับเครื่อง ปล่อยให้เสียงดังอยู่แบบนั้น จนเพื่อนบ้านมาเคาะประตูเรียกถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมทิ้งมอไซไว้หน้าบ้าน น้องชายจึงลุกมาเปิดประตูดึงกุญแจออก แล้วถามว่ามีใครเอาลูกหลานสักป.5 ป.6 มาเล่นที่บ้านพักไหมพี่ ตี 4 ตี 5 ทำไมปล่อยออกมายืนตากหมอกริมถนน พวกพี่เขาก็บอกว่าแถวนี้มีแต่หนุ่มโสด ถ้ามีเมียก็ยังไม่มีใครมีลูกโว๊ย น้องชายเลยโทรมาหาเล่าให้แม่ฟัง แม่เลยบอกว่า
"เออ สงสัยจะเป็นน้อง เมื่อคืนก่อนนอนดูข่าวเห็นโจรใต้วางระเบิดแถวเทพา เลยสวดมนต์ให้น้องไปดูน่ะ ไม่คิดว่าจะไปให้เห็นขนาดนั้น"
น้องชายเลยบอกว่า มาแอบดูก็ได้ แต่นี่มายืนรออยู่ริมถนนแบบนี้แบบนี้ใครเห็นก็กลัว แม่เลยบอกว่า "โธ่ น่าสงสารจัง อุตส่าห์ไปรอรับกลับเข้าบ้าน ยังขี่มอไซหนีเค้าจนร้องไห้ ไม่รู้แหละ คืนนี้ตัวใครตัวมันหาวิธีโอ๋เองแล้วกันนะ"
ทั้งขำ ทั้งน่าสงสาร เป็นใครเจอก็คงไม่จอดรถรับหรอกค่ะ เราก็ไม่จอดเหมือนกัน แต่ก็น่าสงสารเนอะ น้องชายบอกว่า เด็กคนนั้นร้องไห้ขี้มูกโป่งเลย ตอนวิ่งตามรถมอไซ ^^ จบค่ะ
ยังเกาะติดสถานการณ์ชายแดนใต้อยู่นะคะ น้องชายไปรับราชการทหารอยู่รพ.ค่ายที่หาดใหญ่ มีเหตุการณ์ระเบิดรายวัน ก็ได้น้องนี่แหละค่ะคอยสอดส่องเฝ้านะวังให้ น้องชายเล่าว่าบางครั้งไปออกหน่วยข้างนอกกับเพื่อน ถึงทางที่ต้องตัดสินใจว่าจะไปซ้ายหรือขวา ก็จะนึกถึงหลวงปู่ทวดและน้องให้ดลจิตดลใจให้เลือกทางเดินที่ถูกต้อง ก็จะมีอะไรมาดลใจให้ไปอีกทาง พอพ้นทางที่เดิน มองกลับไปทางที่ไมได้เลือกก็มักจะมีระเบิดตลอด
แต่คนที่รออยู่ทางบ้านตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่น้องชายไปประจำการที่ใต้ ไม่ว่าจะพ่อแม่หรือว่าเราก็ไม่มีใครนอนหลับได้เต็มอิ่มหรอกค่ะ ข่าวออกอยุ่ทุกวันบางทีน้องก็โทรมาบอกว่า เมื่อคืนมีโจรใต้มาลอบวางระเบิดรอบค่ายนะ บางทีก็โทรมาบอกรักนะ คิดดูหัวอกคนรออยู่ทางบ้านสิคะ แต่พวกเราก็ไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้น้องรับรู้ เพราะน้องอยู่ที่นั่นก็คงกลัวไม่น้อยไปกว่าพวกเรา
ทุกวันนี้เวลาเราไปที่แห่งไหนทั้งแปลกที่หรือสถานที่ที่ใช้ชีวิตประจำวัน เราก็จะเรียกน้อง เอาเป็นระลึกถึงน้องดีกว่าเนอะ เราก็จะระลึกถึงน้องตลอดเวลา กินอะไรก็จะเรียก ไปไหนก็จะชวนไปด้วย หรือถ้าเราเข้าวัดหรือสถานที่ที่มีเทพเราก็จะอฐิษฐานจิตขอในใจว่าขอผ่านทางมาด้วย
ถามว่ารู้สึกได้ทุกครั้งไหมว่าน้องมาด้วย ไม่หรอกค่ะบางทีก็ไม่รู้สึกอะไรเราก็ใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท ไม่เบียดเบียนใครก็พอ แต่บางครั้งก็มีคนมาทักเราบ้าง เราก็จะถึงบางอ้อว่า น้องมาด้วยจริง ๆ หรอเนี่ย
ครั้งหนึ่งไปนอนค้างกับพี่สาวที่เป็นญาติกัน พี่สาวพักอยุ่คนเดียวตอนนั้นมีปัญหาชีวิตนิดหน่อยเราเลยไปนอนเป็นเพื่อน ก่อนเข้าหอก็มีศาลพระภูมิอยู่ทางเข้า เราก็ยกมือไหว้แล้วขอในใจว่าคืนนี้ขอมานอนอาศัยที่นี่ หากมีใครติดตามมาก็ขออนุญาตผ่านทางมาด้วย ตกกลางคืนก็นอนกันบนเตียงทั้งคู่ มีตู้ข้างเตียงวางตุ๊กตาไขลานบ้าง รถไขลานบ้าง ของจุกจิกน่ารักหรือว่ารกก็ไม่รู้ พี่สาวกับเราหลับไปแล้วแต่เราสะดุ้งตื่นเพราะรู้สึกเหมือนมีอะไรมาอยู่บนหัว เรารู้สึกตัวแต่ไม่ลืมตาเพราะกลัวเหมือนกัน T T รู้สึกว่าเอ๊ะ!! ทำไมเหมือนมีใครมาเล่นผม ในใจก็คิดว่าหนูหรือเปล่านะ แต่เอ๊ะ!! หนูที่ไหนมาเล่นเป็นจริงเป็นจังหรือมันจะมาแทะผมเรา เราก็เอามืดปัดผมแล้วนอนต่อ
สักพักมาอีกล่ะ ทีนี้มาพร้อมเสียง แท่ด แท่ด ฟู่ หลับตาฟังเสียงคือเสียงรถของเล่นที่เอามือจับลากไปมาแล้วลากผ่านผมเราไปซ้ายทีขวาที แล้วทีนี้ก็เสียง แท่ด แท่ด ฟู่ ก็ดังรอบตัวเรา เหมือนมีใครจับรถมาเล่นไถไปรอบตัว เราเลยแกล้งกระแอม ฮึ่ม... เสียงก็หยุด สักพักเอาอีกละ เราเลยบอกในใจว่า
"พี่ง่วงมากเลย อย่ามากวนได้ไหม ถ้าเป็นน้องพี่ที่มาด้วยก็ให้หยุดนะ แต่ถ้าไม่ใช่ก็........ก็อะไรดี ตอนนั้นก็คิดว่าถ้าไม่ใช่เด็กของเราแล้วเป็นอย่างอื่นจะทำไง ก็เลยบอกสรุปไปว่า ยังไงก็แล้วแต่อย่ามากวนละกันจะนอน" 555 ตัดบทหนีไปเลย แล้วเสียงก็เงียบ
รุ่งขึ้นพี่สาวตื่นก่อนพี่สาวก็ทักว่าทำไมตอนนอนต้องเอาของเล่นมาเล่นด้วย ติดหรอ เมื่อคืนได้ยินเสียงรถเล่นทั้งคืนเลย เราบอกว่าอ๋อ เอามาลองไถดูว่าลานมันเสียหรือเปล่า แล้วเราก็หยิบรถของเล่นไปตั้งไว้ที่ตู้ข้างเตียง.
ตอนต่อไป อยู่ด้วยรักและผูกพัน ตอน3
หากท่านพลาดตอนที่1 อยู่ด้วยรักและผูกพัน
เรื่องจากพันทิป อยู่ด้วยรักและผูกพัน (ต่อจากกระทู้เก่า)
เรื่องโดย TharaJF
Post a Comment