เสี่ยวพ่อ
"เสี่ยวพ่อ" เรื่องราวที่จะทำให้คุณติดตามจากเนื้อเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ประสบการณ์จริงของจากสมาชิกพันทิปนาม TharaJF ขอขอบคุณสมาชิกพันทิปนาม TharaJF สำหรับเรื่องราวสยองขวัญไว้ ณ ที่นี้ด้วย
หนุ่มสาวบนดอยภาคเหนือสมัยก่อนเวลาจะจีบกันต้องเดินข้ามป่าข้ามเขาลัดเลาะหมู่บ้านเดินเท้ากันไปค่อนวัน
กว่าจะได้เจอหน้ากันไม่ได้ง่ายเหมือนสมัยนี้ที่เขย่าแอพแล้วนัดเจอกันใกล้ ๆ กว่าจะได้เจอกันแต่ละครั้งสมัยก่อน
ค่อนข้างลำบากและใช้ระยะเวลาเดินทางพอสมควร ยิ่งเป็นสาวต่างบ้านที่หน้าตาดีแล้วล่ะก็มีรึที่หนุ่มต่างบ้านจะไม่
ขายขนมจีบ ยิ่งหนุ่มบ้านไกลแต่หมั่นมาให้เห็นหน้าทุกวันยิ่งทำคะแนนได้ดีกว่าหนุ่มบ้านใกล้แต่ไม่ค่อยโผล่หน้ามาให้เห็น
พ่อเล่าว่ามีเสี่ยวหรือเพื่อนสนิทคนหนึ่งสมัยแตกเนื้อหนุ่มวัยแรกรุ่นไปปิ๊งปั๊งสาวต่างบ้านชื่อว่า “กรองแก้ว”
หมู่บ้านที่กรองแก้วอยู่ห่างออกไปหลายกิโล แต่เสี่ยวพ่อก็ดั้นด้นเดินเท้าไปหาทุกวัน ออกจากบ้านแต่เช้า
เดินตุเลง ๆ ออกไป กว่าจะกลับเข้ามาอีกทีก็ค่ำมืดดึกดื่น จนพ่ออยากเห็นหน้าตาของกรองแก้วบ้างว่ามัน
จะงามหยดย้อยขนาดไหนกันเชียวถึงทำให้เสี่ยวฮาหลงได้ขนาดนี้ พ่อจึงตัดสินใจขอตามไปดูบ้าง
ว่าแล้วเสี่ยวพ่อก็บอกไม่งามเท่าไหร่ไม่ต้องไปดู พ่อก็ว่าไม่งามแล้วจะไปเทียวไล้เทียวขื่อเขาทำไมทุกวัน
เสี่ยวพ่อว่าก็แค่อยากเห็นหน้าทุกวันก็พอ จีบไม่ติดไม่เป็นไร พ่อก็บอกฮาขอไปดูหน้าจิมเต๊อะ เสี่ยวพ่อก็
ไม่ให้ไป ก็เถียงกันไปมาสักพักจนพ่ออ่อนใจไม่ไปก็ไม่ไป สงสัยจะหวงคงกลัวกรองแก้วจะมาหลงเสน่ห์
เราแทน (อันนี้พ่อเราคิดเอง)
เสี่ยวพ่อก็ยังคงทำเหมือนเดิมในทุก ๆ วัน เข้าสวนทำไร่ก็ไม่ไป จนแม่ของเสี่ยวพ่อมาบอกให้พ่อตามไปดูหน่อย
ซิว่าหายหัวไปไหนอยู่ได้ทั้งวี่ทั้งวันกว่าจะกลับเข้าบ้านก็ค่ำมืดดึกดื่นข้าวปลาก็ไม่เคยกลับมากินที่บ้าน เป็นแบบนี้
มาหลายวันแล้ว พ่อจึงตัดสินใจในเช้าวันรุ่งขึ้นไปดักรอเสี่ยวพ่อที่หน้าหมู่บ้านที่คาดว่าอย่างไรเสียก็ต้องผ่านตรงนี้แน่
ว่าแล้วก็เจอเสี่ยวพ่อเดินผ่านไป พ่อเราก็เดินตามจนเสี่ยวพ่อหันมาถามว่า “คิงจะตามฮามายะอะหยัง?” พ่อจึงบอกว่า
“แม่คิงหื้อฮาตามคิงไปผ่อว่าคิงหายหัวไปยะอะหยัง บ่ยอมอยู่บ้านอยู่จ่อง” เสี่ยวพ่อก็บ่นว่าไร้สาระ ฮาจะไปไหนก็เรื่อง
ของฮาก่า บ่ดีมากวนใจ๋ แล้วก็รีบเดินจ้ำนำหน้าไปอย่างรวดเร็ว พ่อเราก็เร่งฝีเท้าตามไปติด ๆ พ่อเราเดินตามหลังไป
โดยที่เสี่ยวพ่อก็ไม่สนใจว่าพ่อเราจะเดินตามทันหรือไม่ทัน ต่างคนต่างเดินแต่จุดมุ่งหมายคงเป็นที่เดียวกัน
เมื่อย่างก้าวเข้ามาถึงหมู่บ้าน (จะเรียกว่าหมู่บ้านก็ไม่เชิงเพราะบ้านแต่ละหลังปลูกอยู่ตีนเขาห่างกันดูเป็นหย่อมมากกว่า)
เสี่ยวพ่อพาพ่อเดินเข้าไปตามทางของหมู่บ้านเรื่อย ๆ เป็นบ้านที่ปลูกเป็นขั้นตามไหล่เขาเว้นระยะห่างกันพอสมควร
จนพ่อถามว่ามันอีกไกลหรือเปล่ากว่าจะถึง เสี่ยวพ่อบอกไม่ไกล เห็นหลังคาบนยอดนั้นไหมล่ะ ว่าแล้วก็ชี้มือตรงไปข้างหน้า
นู้นนนนนน... พ่อว่าเห็นหลังคาบ้านลิบ ๆ แต่เอาวะ มาถึงขนาดนี้แล้วถ้าไม่งามหยดย้อยอย่างที่เสี่ยวพ่อหลงล่ะก็มีเคืองแน่!!!
ในที่สุด ทั้งคู่ก็เดินมาจนถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง บ้านไม้ยกสูงหลังคาเพิงมุงจากห้องเดียวสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ มีไม้ไผ่สานเป็นแคร่
ตั้งอยู่ข้างบันได มีพ่อแม่และผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาจิ้มลิ้มนั่งทำกับข้าวอยู่ใต้ถุนบ้าน พ่อแม่ยิ้มต้อนรับขับสู้เสี่ยวพ่อเป็นอย่างดี
ก็แหงสิ เล่นมาจีบลูกสาวเขาทุกวันแบบนี้ เขาก็ยิ้มแก้มปริว่าลูกสาวจะได้ออกเรือนกับพ่อหนุ่มคนนี้เป็นแน่แท้ เหตุการณ์วันนั้น
ผ่านพ้นไปอย่างเรียบง่ายแต่สร้างความอิ่มเอมใจให้แก่เสี่ยวพ่อเป็นอย่างมาก พ่อจึงบอกให้เสี่ยวพ่อรีบมาหมั้นหมายเสีย
ถ้าอยากได้กรองแก้วเป็นแฟน ก่อนที่จะมีหนุ่มบ้านอื่นมาชิงตัดหน้าไปเสียก่อน จึงเป็นการดีที่เสี่ยวพ่อเอ่ยปากชวนกรองแก้ว
ไปเที่ยวที่บ้านของตัวเองบ้าง โดยรับปากว่าพรุ่งนี้จะรีบมารับแต่เช้าเพื่อพาไปให้รู้จักกับแม่ของตน พ่อแม่ของกรองแก้วก็ยินดี
พร้อมบอกฝากฝังให้ดูแลน้องและให้รีบมาส่งกลับบ้านก่อนตะวันตกดิน
เช้าวันต่อมาเสี่ยวพ่อและพ่อก็รีบตื่นแต่เช้าเดินทางไปยังหมู่บ้านของกรองแก้วเพื่อรับและพาไปแนะนำตัวให้แม่ของเสี่ยวพ่อได้รู้จัก
และหากเป็นไปได้ก็อยากที่จะรีบหาฤกษ์ผูกข้อไม้ข้อมือหมายจับจองกรองแก้วให้เร็วไว เพราะกลัวจะถูกหนุ่มบ้านอื่นมาแย่งจีบไป
เสียก่อนดังที่พ่อเราว่าไว้ เมื่อทั้งคู่เดินทางมาถึงบ้านกรองแก้วและพากันเดินออกจากหมู่บ้าน กรองแก้วหันหลังกลับไปมองพ่อกับแม่
และโบกมือให้ก่อนจะรีบจ้ำอ้าวมาให้ทันหนุ่ม ๆ ที่เดินนำหน้าอย่างไม่รีรอ กรองแก้วตะโกนเรียกเสี่ยวพ่อว่าให้เดินช้า ๆ หน่อยจ่ะพี่จ๋า
ขาฉันสั้นเดินตามไม่ทันแล้ว เสี่ยวพ่อและพ่อก็พากันหัวเราะชอบใจกับความไร้เดียงสาของกรองแก้ว พ่อจึงกระเซ้าเสี่ยวพ่อไปว่า
“คิงรีบเดินยะหยัง จะรีบพาสาวกลับบ้านไปทำเมียก๊ะ” ว่าแล้วก็หัวเราะชอบใจกันใหญ่ พ่อว่า กรองแก้วเป็นสาวแรกรุ่นผิวสวยหน้าใส
แก้มแดงอ่องต่อง (แดงระเรื่อ) เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาดูไม่มีพิษภัยอะไร แต่สาวแบบนี้ล่ะที่หนุ่มชื่นชอบเพราะว่าเหมาะแก่การมาเป็น
แม่ของลูกมากกว่าคู่ควงไปวัน ๆ
เมื่อทั้งสามคนเดินทางมาถึงหมู่บ้านของตัวเองแล้วนั้น ทางไปบ้านของเสี่ยวพ่อจะต้องผ่านป่ารกทึบซึ่งเป็นจุดที่กรองแก้ว
ขอหลบเข้าไปฉี่ก่อนที่จะเดินทางต่อไปอีกไม่ไกลก็ถึงบ้านเสี่ยวพ่อ ทุกครั้งกรองแก้วมักจะขอตัวเข้าทางเพื่อไปฉี่ก่อนเสมอ
และปฏิเสธที่จะไปเข้าห้องน้ำที่บ้านของเสี่ยวพ่อโดยให้เหตุผลว่ากลัวจะไปทำห้องน้ำบ้านของพี่สกปรก เสี่ยวพ่อจึงไม่ขัดใจ
เพราะไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แม่ของเสี่ยวพ่อถูกตาต้องใจกรองแก้วอย่างมากเพราะ
เป็นคนเรียบร้อยพูดจาอ่อนหวาน จึงถามไถ่เรียบเคียงว่าหากจะขอมาเป็นลูกสาวอีกสักคนเจ้าตัวจะยินยอมไหม กรองแก้วก็บิด
ม้วนอายแต่ก็พยักหน้ารับอย่างหลีกหนีไม่ได้ ความรักของทั้งคู่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว หนุ่มก็เทียวไปรับสาวมาเที่ยวบ้านตนบ้าง
ตนไปเที่ยวเล่นบ้านสาวบ้าง จนความรักของทั้งคู่เริ่มสุกงอม มีการตกลงเรื่องหมั้นหมายสู่ขอกันให้เป็นเรื่องเป็นราว และกำหนด
จะแต่งงานกันแบบเรียบง่าย สามเถ้าสี่แก่พอเป็นพิธี
ทุกอย่างดำเนินผ่านไปอย่างรวดเร็วและรวบรับตัดตอน ที่ว่ารวบรัดตัดตอนเพราะว่าเสี่ยวพ่อคิดไม่ซื่อแล้วน่ะสิ ก็หนุ่มสาวอยู่ใกล้กัน
ไฟมันก็แรงทั้งคู่ มันก็คงมีอารมณ์ปะทุกันบ้างแหละน่า เสี่ยวพ่อไปรับกรองแก้วออกมาจากบ้านเพื่อไปเที่ยวเล่นที่บ้านตนอย่างเคย
แต่คราวนี้ใจมันคิดเตลิดไปไกลกว่านั้น ไหน ๆ ก็จะต้องแต่งงานกันอยู่แล้วขอมากกว่าหอมแก้มจะเป็นไรไป จึงกระซิบขอที่หูเบา ๆ
ว่าวันนี้ขอจ้ำบ๊ะสักทีก่อนเข้าหอได้หรือไม่ กรองแก้วม้วนเขินอายไม่ตอบตกลงแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ทั้งคู่เดินจูงมือกันมา โดยมีที่หมาย
ก็คือบ้านของเสี่ยวพ่อ แม่ไปสวนไม่มีคนอยู่บ้านทำอะไรก็สะดวกกว่าจะแอบไปทำในป่า แต่ก่อนจะถึงบ้านของเสี่ยวพ่อ กรองแก้ว
ก็ต้องแวะเข้าไปหลบฉี่ที่ป่าข้างทางก่อนทุกที... อีกแล้วหรอวะ? นี่คือที่เสี่ยวพ่อคิดแต่ไม่ได้เอ่ยปากออกมาให้ระคายหูกรองแก้ว
เพียงแต่เคยเอาเรื่องนี้มาเล่าให้พ่อฟังว่าเป็นแบบนี้ทุกที คนอะไรจะมาปวดฉี่ที่ตรงนี้ตลอดเวลา พ่อเคยเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ปู่ฟังว่า
เสี่ยวพ่อติดสาวหมู่บ้านตีนดอย ปู่ว่าบ้านตีนดอยส่วนใหญ่มีเชื้อผีกะทั้งนั้น ผีกะก็คือผีปอบตามความเชื่อของภาคเหนือ พ่อจึงเล่า
เรื่องที่กรองแก้วแวะฉี่ที่ป่าข้างทางให้ปู่ฟัง ปู่จึงย้อนถามว่าป่านั้นอยู่ตรงไหนของหมู่บ้านเรา พ่อจึงบอกไปว่าอยู่ก่อนถึงบ้านเสี่ยว
ที่เป็นป่าพุ่ม ๆ ปู่เลยถึงบางอ้อ ถามต่อว่าอยากรู้อะไรดี ๆ ไหม ถ้าอยากให้ทำตาม แต่ถ้าไม่อยากก็ให้อยู่เฉย ๆ แล้วปล่อยให้เพื่อน
เอ็งแต่งงานกับกรองแก้วไปซะ
มาแล้วค่า ต่ออีกนิดเดียวก็จบแล้ว พอดีมีงานด่วนเร่งมา ต่อเลยค่ะ
พ่อจึงนำความที่ได้จากปู่ไปเล่าให้เสี่ยวพ่อฟัง เสี่ยวพ่อมีท่าทีอึดอัดใจเล็กน้อยแต่ก็อยากพิสูจน์อะไรบางอย่างให้หายแคลงใจ
เพราะปู่เราเป็นตำรวจที่พอมีวิชาบ้าง ในสมัยก่อนชาวบ้านถ้าไม่พึ่งหมอผีก็ต้องวิ่งมาหาปู่เรานี่ล่ะที่พอทำพิธีปัดเป่าอะไรได้บ้าง
และเมื่อถึงวันที่เสี่ยวพ่อไปรับกรองแก้วมาเที่ยวเล่นที่บ้าน กรองแก้วก็ขอแวะเข้าข้างทางเพื่อไปหลบฉี่เหมือนเดิม แต่คราวนี้
กรองแก้วเดินหายเข้าไปเพียงครู่เดียวแล้วก็รีบวิ่งออกมาพร้อมกับอ้าปากแลบลิ้นร้องแฮ่ แฮ่ น้ำลายไหล ตะโกนบอกเสี่ยวพ่อ
ว่าไม่ไหวแล้วจ่ะพี่ แสบปากเหลือเกิน รีบพาฉันกลับบ้านเร็ว!!! กรองแก้วเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า หน้าเริ่มแดงขึ้น ปากพองแดง
พร้อมยังแลบลิ้นมีน้ำลายไหลย้อยออกมา ปากก็บ่นว่าแสบปาก ร้อนปาก จนเสี่ยวพ่อต้องรีบพากลับบ้านไปกินน้ำล้างปาก
จบจากเหตุการณ์นั้น เสี่ยวพ่อเริ่มขาดการติดต่อกับกรองแก้ว จากไปมาหาสู่กันถี่ ๆ ก็เริ่มนาน ๆ ทีไปเจอ
จนกระทั่งห่างหายกันไปในที่สุด กรองแก้วก็ไม่เคยมาตามเสี่ยวพ่อที่บ้านถึงแม้จะรู้จักบ้านกันเป็นอย่างดี
และแล้วความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็จบลงแบบงง ๆ ก่ง ก๊ง เป็นที่น่าสงสัยและเสียดายสำหรับแม่ของเสี่ยวพ่อ
ที่ไม่ได้กรองแก้วมาเป็นลูกสะใภ้ แม้จะถามความจากเสี่ยวพ่อว่าเหตุใดถึงเลิกกันก็ไม่ได้คำตอบจากเสี่ยวพ่อ
จนในที่สุด กรองแก้วก็หายสาบสูญไปจากชีวิตของเสี่ยวพ่อ ทั้งคู่ขาดการติดต่อและไม่เคยได้เจอกันอีกเลย
จนถึงปัจจุบัน
..........................................................
ป่ารกทึบข้างทางก่อนจะถึงบ้านเสี่ยวพ่อนั้น เป็นที่ที่ชาวบ้านนำกระดูกควายมาทิ้งไว้ หลังจากปู่แนะนำให้เสี่ยวพ่อ
พิสูจน์อะไรบางอย่าง จึงทำให้เสี่ยวพ่อมั่นใจว่าสิ่งที่ตนเห็นนั้นเป็นเรื่องจริง ทุกครั้งที่ผ่านป่านี้ กรองแก้วจะขอหลบ
เข้าไปฉี่ตลอดเวลา จนเสี่ยวพ่อนำพริกป่นต้มน้ำแล้วมาราดไว้ที่ซากกระดูกควาย หากกรองแก้วเข้าไปฉี่ ก็จะไม่เกิด
เหตุการณ์อะไรกับเธอแน่นอน แต่หากเธอไม่ได้แค่เข้าไปฉี่ล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ? ลองคิดดูเอานะคะ...
..........................................................
เรื่องจากพันทิป เสี่ยวพ่อ
เรื่องโดย TharaJF
Post a Comment