เรื่องเล่าโลกหลังความตาย
"เรื่องเล่าโลกหลังความตาย" ยังคงเป็นเรื่องราวต่อจากซีรี่ย์ของสมาชิกพันทิป Rabbitizz "คุณเคยเชื่อเรื่องคนตายแล้วฟื้นไม๊คะ"ขอขอบคุณประสบการณ์สยอง ไว้ ณ ที่นี้ด้วย
สวัสดีค่ะ ขออนุญาติทำความเข้าใจกันก่อนนะคะ เรื่องที่เล่ามานี้ เป็นเรื่องจริงทุกประการ แต่เพียงว่าอยากให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านสักนิด คอมเมนต์อย่างมีสติ หากคุณไม่เชื่อ ขอแนะนำว่าเชิญออกไปอย่างเงียบๆ ไม่มีการมาดราม่ากันในห้องนี้นะคะ หากมีเหตุการณ์ข้างต้น จะขอยุติเรื่องราวที่เราเล่ามาทั้งหมดนะคะ
เราเป็นคนพิมพ์ช้า หรือ อาจจะพิมพ์ให้อ่านไม่ค่อยเข้าใจหรือ รู้เรื่องสักนิดนึง แต่เราเองก็พยามอย่างมาก ที่เอาคำพูด ความรู้สึก สิ่งที่เราเห็น หรือ พบเจอมานั้น เอามาเป็นคำเขียนและอ่าน สำหรับใครหลายๆคน อาจจะมองว่าง่ายมาก แต่สำหรับเรา กลับตรงกันข้ามเลยนะคะ มันยากที่จะสื่อออกมาเป็นตัวอักษร เราต้องเปิดดู พจนานุกรมว่าพิมพ์ถูกหรือ ผิดไม๊ เพราะเราเองพิมพ์ในมือถือ ดังนั้น ขอความกรุณาทำความเข้าใจกันนิดนึงนะคะ
อีกอย่าง เราไม่ได้รับดูดวงใครนะคะ เห็นหลังไมค์มีมาเยอะ ถามว่าเราดูได้ไม๊ เราดูได้ แต่ถ้าไม่ใช่ปัญหาใหญ่หลวงมากนัก เราของดนะคะ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อไหร่จะมีตังค์ ความรักเป็นยังไง คือสำหรับเรา ขอไม่ตอบในเรื่องนี้นะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ
สำหรับใครที่สงสัยในตัวเรา ย้อนกลับไปอ่านกระทู้นี้กันก่อนนะคะ
โลกหลังความตายดวงจิตแต่ละดวงจะถูกกรรมแยกจากกันไปตามทางของกรรมของตัวเอง
กรรม คือผู้มีอำนาจโดยแท้จริงและกรรมนั้นที่เราสร้างบันดาลทุกสิ่งให้เป็นไปตามทางไม่ว่าจะเป็นกรรมดี หรือ กรรมชั่ว ชีวิตหลังความตาย ในช่วงเวลาตายตามอายุขัยและตายก่อนอายุขัย คนที่เป็นผู้มีจิตใจสูง หรือจิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น หรือชอบทำความดีมากกว่าความไม่ดีและที่สำคัญที่สุดก็คือ คนกลุ่มนี้ส่วนมากจะเป็นผู้มีที่พึ่งทางจิตทางใจกันอย่างมั่นคง ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งที่ทำให้จิตใจเศร้าหมอง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม แต่จิตใจที่มั่นคงในการทำความดีมากกว่าการทำความชั่ว และตายก่อนอายุขัย ก็ คือ ตายเพราะอุบัติเหตุทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย การแท้ง ไม่ว่าจะตายด้วยเหตุใดก็คือ ตายก่อนอายุขัย คนที่ไม่มีที่พึ่งทางจิตอย่างมั่นคง เมื่อจิตใจไม่แน่นอนในทางดี(กุศล) จิตใจขาดที่พึ่งไม่มั่นคง คิดในทางดีนั้นมีน้อย คิดในทางที่ไม่ดีนั้นมีมาก บางคนก็ไม่ได้คิดอะไรเลย(ไม่ได้คิดเรื่องบุญ เรื่องบาป) คนส่วนมากที่ตายด้วยอุบัติเหตุ มักจะไม่รู้ตัวล่วงหน้า หรือคนบางส่วนก็รู้ตัวล่วงหน้าได้บ้าง แต่เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ อย่างเช่น รู้ว่าเครื่องบินกำลังจะตก หรือว่ารู้ตัวว่าใกล้จะตาย เพราะกำลังได้รับบาดเจ็บ ด้วยเหตุที่กำลังได้รับภัยอันตราย หรือว่าอุบัติเหตุ คนที่ใกล้จะตายมักจะขาดสติจิตย่อมมีความกังวล กระวนกระวาย ฟุ้งซ่าน แบบนี้เรียกว่า จิตเศร้าหมอง จิตไม่ผ่องใส คนพวกนี้ตายลงไป อาศัยจิตไม่มีที่พึ่งเมื่อจิตออกจากร่าง จิตก็จะไปเป็นผีสัมภเวสีทันที อาศัยที่ก่อนตายจิตไม่ได้นึกถึงบุญหรือ บาป จิตเป็นกลางๆ และเศร้าหมองเพียงเล็กน้อย เพราะอาศัยที่มีทุกข์เวทนาก่อนตาย คนเหล่านี้ตายก่อนอายุขัย จึงไปเป็นสัมภเวสีก่อน เพื่อรอเวลาที่จะถึงอายุขัย ไม่สามารถไปรับผลบุญผลบาปได้ จนกว่าจะครบวาระตามอายุขัย เมื่อครบวาระตาม อายุขัยแล้ว ถ้ามีบุญมากกว่าบาป ก็ไปรับผลบุญนั้นทันที เช่นไปเป็นเทวดา(เทพบุตรและนางฟ้า)ก่อน และถ้ามีบาป(ความชั่ว)มากกว่าความดี ก็จะได้ไปรับทุกข์เวทนาในทุคติอบายภูมิก่อน
ขอยกตัวอย่างเรื่องที่วันนี้ได้ดูข่าวว่า ลูกทำร้ายบิดา-มารดา ถึงขั้นเลือดตกยางออก จงจำไว้ว่า บาปอะไรก็ไม่บาปหนักเท่าบาปที่ทำกับพ่อแม่ ตายไปก็จะไปตกนรกอเวจีกันแบบไม่ต้องรอคิวว่า คุณได้ไปอยู่ขุมไหนนะ แล้วลองคิดดูว่าคุณได้เถียงพ่อเถียงแม่มากี่ครั้งกี่หน เคยคิดไม๊ว่ากรรมมันจะเป็นยังไง สิ่งที่เราได้ไปพบเจอ คือ เปรตที่มีปากเท่ารูเข็ม ถามว่าสูงเท่าต้นตาลไม๊ ตามความจริงคือ บางตนก็ใช่ บางตนก็ไม่ อะไรที่เป็นเปรตปากเท่ารูเข็ม ก็ไม่พ้นต่อการเถียงพ่อแม่ พูดจาว่าร้าย ด่าทอท่านหรอกค่ะ คนที่เกิดมาเป็นเปรตปากเท่ารูเข็มกินอะไรก็ไม่ได้ นอกจาก น้ำเลือดน้ำหนองของตนเองเท่านั้น ลองนึกภาพตามเองนะคะ....
มีอยู่วันนึงเรารู้สึกเสียใจมากต่อการเถียงกับแม่เรื่องน้องชาย เราเองเป็นลูกคนกลาง และ เป็นลูกคนจีนแท้ๆ ซึ่งแน่นอน ความลำเอียงที่หลายๆคนคิดว่าจะต้องมีแน่ๆต่อลูกคนกลางซึ่งเป็นผู้หญิง แต่สำหรับเรา เราเคยคิดอกุศลเช่นกันค่ะ แต่เรื่องราวก็ผ่านมานานจนลืม จนวันนี้อย่างที่บอกค่ะ อ่านข่าวมา เลยจะมาเล่าให้เห็นภาพกันสักนิดสักหน่อย
โดยก่อนหน้านี้เราอยากรู้ว่า ขุมอเวจีนั้นเป็นยังไง คือ หลายต่อหลายครั้งที่ไปเห็นแต่ละสถานที่ก็สุดจะบรรยายก็ว่าได้ แต่ว่าอเวจีนี่สิ ที่กลัวจะเห็นแต่ไม่รู้ทำไม นึกๆอยากเห็น เราก็ทำได้เพียงเดินไปเข้าห้องพระ สวดมนต์ ภาวนา และระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พาเราไปสู่ดินแดนนรกภูมิที่เรียกว่า อเวจีมหานรกด้วยเถิด เมื่อจิตเรานิ่งสงัด ตัวเราเองได้ไปเห็นแล้วเอาเป็นว่าอึ้ง น้ำตามันไหลนองหน้าอย่างท่วมท้น สงสารแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะบุพกรรมที่พวกเค้าได้ก่อสร้างเอาไว้ บรรดาสัตว์ที่ไปอยู่ในนรกขุมนี้ ได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัส เพราะว่าพวกเค้าอยู่ในระหว่างเปลวไฟ เปลวไฟที่แดงร้อนน่ากลัว น่าสยดสยอง รอบล้อมไปด้วยกำแพงเหล็กที่มีแต่ไฟ กับไฟ ไฟไม่ได้มีแต่แสงอย่างเดียว มีความร้อนจัด ภายในก็มีเปลวไฟร้อนระอุเกิน1,000องศาก็ว่าได้ แต่ตัวเราเองไม่ได้เข้าไปในนั้นหรอกเพียงแต่มองดูอยู่ห่างก็รับรู้ รู้ว่าพวกเค้าร้อน รู้ว่าทรมาร แต่เราไม่รู้หรอกว่าร้อน เพราะยังไม่ถึงเวลาที่เราจะต้องหมดอายุขัย คิดได้สักพัก เจริญพรโยม....เรานี่หันหลังแทบไม่ทัน ท่านมาตอนไหนก็ไม่ทราบ เราก้มลงไปกราบหลวงพ่อท่าน ถามท่านว่าทำไมถึงเป็นเหตุเช่นนี้ แล้วไฟพวกนี้มันไม่มีหยุดพักจริงหรือเจ้าคะหลวงพ่อ????
หลวงพ่อยิ้ม และตอบว่า ไฟไหม้สัตว์นรกอยู่เนืองนิจ ทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่ว่างเว้น
และสัตว์ที่ไปเกิดในนรกอเวจีนี้ ก็มีปริมาณมากกว่านรกขุมอื่นๆ แถมไม่แออัดยัดเยียด เบียดเสียดกัน
และความทุกข์ ความทรมาร ที่ไม่มีความว่างเว้นเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งในนรกขุมนี้ไม่มีการหยุดพัก จะวันไหนๆก็ตาม วันพระวันโกน อย่าได้หวัง เพราะบรรดาสัตว์ที่เกิดในขุมนี้เค้าทำกรรมอันเป็นเหตุแสนสาหัสได้มากเกินจะนับได้
หลวงพ่อถามกับเราว่า โยมทำไมถึงอยากมาเห็นขุมนรกขุมนี้ล่ะ เราก็ได้ตอบไปตามความจริงว่า หากใครเคยกระทำไม่ดีต่อบิดามารดา พระพุทธเจ้า พระสงฆ์ หรือพระอรหันต์ ก็จะต้องตกอยู่ในขุมนี้ ตัวโยมเองไม่อยากจะมาอยู่ในขุมแห่งการทรมานที่แสนสาหัสไม่ได้รับบุญรับกุศลเอาเสียก็ว่าได้ เลยอยากจะมาดูมาเห็นและเผยแพร่เป็นธรรมทานต่อญาติโยมที่เชื่อในบาปบุญ เจ้าค่ะ หลวงพ่อท่านก็ยิ้มให้ แล้วก็เล่าให้เราฟังว่า อเวจีมหานรกไม่ใช่ว่าจะมาตกเฉพาะคนอกตัญญูไม่รู้คุณคนเท่านั้น ถึงแม้ว่าบาปกรรมอย่างอื่น ก็ตกในขุมนี้ได้เช่นกัน เช่น ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นเนืองนิจ มีการขโมยคดโกงยื้อแย่ง กาเมก็รวมด้วย ปากร้ายใจเสีย คือพูดปดมดเท็จ รวมทั้งการขาดสติจากการผิดข้อสุราเป็นต้น ขอบอกว่าลงอเวจีมหานรกเหมือนกัน
จากที่เคยได้ยิน จนมาได้เห็น เอิ่ม....ทำให้เรารู้เลยว่าไม่ใช่แค่คนทั่วๆไปเข้าใจว่า ทำร้ายพ่อแม่ ฆ่าพระสงฆ์ ทำให้พระพุทธเจ้าห้อเลือด แค่นั้นก็ไปอยู่ขุมนี้ซะแล้ว แต่มันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น บางคนต้องอยู่ในขุมนี้ถึงแสนกัปป์ก็มี บางคนโดนให้อยู่ในขุมนี้ตลอดไปเลยก็มีเอาแบบไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเลยก็ว่าได้ พอมานั่งคิด เห็นชายร่างใหญ่เดินถือหอกเข้ามาทางเรากับหลวงพ่อ แล้วก็ทำตัวเล็กลง ลงไปกราบพระท่าน
เราเพิ่งจะรู้ว่าชายผู้นั้นคือ นายนิรยบาล เราเลยถามท่านว่า ขุมนี้ใหญ่แค่ไหน เพราะที่เราเห็นมันไกลสุดลูกหูลูกตา ท่านนายนิรยบาลเลยกล่าวว่า ไม่ต้องห่วงหรอก ขุมนี้มันคอยรอรับคนที่กระทำความชั่วได้ตลอด ไม่เว้นวัน มันขยายใหญ่เองได้โดยเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีคำว่าแออัดเบียดเสียด หรือ ยัดเยียดแน่นหนาหรอกแม่หนูเอ๋ย.... เราก็แบบ.....นิ่งค่ะ และเห็นใครสักคนนึงนั่งอยู่ในเปลวไฟ แต่ไม่ถนัด ทำไมเค้าไม่ร้องหรือ กระดิกตัวอย่างคนอื่นทั่วๆไปล่ะคะ เราได้ถามท่านทั้งสอง อาตมาเห็นสมควรว่าให้ท่านนายนิรยบาลเล่าเสียเถิด เผื่อเด็กน้อยจักได้เผยแผ่เรื่องกฏแห่งกรรมต่อไป....
ท่านนายนิรยบาลได้กราบหลวงพ่อท่าน และ หลวงพ่อท่านก็ได้ฟังพร้อมๆกับเรา สิ่งที่เราเห็นท่านบอกว่า สัตว์นรกตัวนี้ เคยกระทำความผิดอันใหญ่หลวงต่อผู้ที่เป็นพระอรหันต์ของบ้าน ที่เห็นเค้านั่งนิ่ง ปากไม่ขยับ ไม่ใช่ทรมารอะไรหรอก แต่เป็นเพียง เค้าไม่สามารถขยับหรือร้องออกมาได้เท่านั้นเอง เราอึ้งไปอีกรอบ ทำไมถึงไม่สามารถละคะ!?! คำถามที่เราตกใจและสงสัย เพราะสัตว์ผู้นั้น ได้โดนการตรึงแขน และขา ให้นั้งอยู่ท่านั้นมาหลายล้านชาติแล้ว เรานี่ตาโต ล้านชาติ!!! แม่เจ้า สมัยนั้นมันยังไม่มีไดโนเสาร์เลยนะเนี่ย ท่านได้แต่ขำในความไม่รู้ของเรา เพียงแต่บอกว่าโลกเราเป็นวัฏจักรแบบนี้แล กรรมของผู้นั้นไม่ใช่แค่โซ่ตรึง แต่เอาหอกแทงที่แก้ม หนามร้อนเย็บที่ปาก ถึงแม้ว่าจะสำนึกเพียงใดก็ตาม กรรมที่ได้ฆ่าบิดา-มารดา เพื่อเอาทรัพย์สินไปล้างผลาน ไปติดนารีรวมทั้ง ปาณาติปาตาต่อหลายๆบุคคลอีกด้วย นี่ก็ถือผิดศีลไปแล้วทุกข้อที่กล่าวมา เมื่อเราฟังแล้วเราเองนี่อยากกลับไปกอดพ่อแม่ ขอขมาท่านที่ทำให้ท่านนั้นทุกข์ใจ แต่จงจำไว้นะคะ กรรมไม่มีข้อยกเว้น กรรมที่ก่อไว้ยังไงก็ต้องชดใช้ จะช้าหรือ เร็วมันก็ยังตามคุณอยู่
หลังจากที่ฟังท่านนายนิรยบาลเล่าเสร็จเราก็กลับมาสู่ความเป็นจริงบนโลก กายเนื้อของเราทุกวันนี้ก็ไม่ใช่ของเรา เรานั่งพิจารณาอยู่นาน มองไปมองมาก็ได้แต่ถอนใจ คนเราน้อ บางทีไม่รู้ว่ากระทำอะไรไว้กรรมจะเป็นยังไง แค่คิดก็ทำได้แต่เพียงขนลุกขึ้นมา ภาพมันยังติดตา แล้วคนที่ตีพ่อแม่ ฆ่าพ่อแม่ จะเป็นเช่นไรนะ พอคิดได้ก็ลืมเลยที่จะแผ่เมตตา แล้วก็กลับไปนอนดีกว่า
นอนได้สักพัก คิดถึงกรรมที่เราต่างต้องชดใช้ คนเราไม่รุ้เลยสินะ ว่าการเกิดแต่ละครั้ง มันยากแค่ไหน กว่าจะได้เกิดมาเป็นคน แต่คนนี่สิ ดันอยากจะเกิดมาเป็นสัตว์ หากคุณคิดว่ากรรมที่คุณมีดีอยู่แล้ว ให้พึงระลึกไว้ในความดี หมั่นสร้างกรรมดีเข้าไว้นะคะ และสำหรับใครที่รู้การกระทำผิด หันกลับมาเป็นคนดีได้ในวันนี้ ยังไงก็ตาม กรรมมันมีจริง แต่อาจจะส่งผลจากหนักหนา ให้เป็นเบาบางลงก็เป็นได้ค่ะ
หลังจากนี้ ใครที่เคยทำอะไรไว้กับพ่อแม่ เราขอให้ท่านไปขอขมากรรมต่อท่านและขอให้ท่านอโหสิกรรมซึ่งกันต่อกันนะคะ
คราวหน้าอาจจะเป็นเรื่องราวข้างบน หรือ ไม่ก็เป็นเรื่องราวของขุมต่างๆก็ได้นะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
เรื่องจากพันทิป เรื่องเล่าโลกหลังความตาย
เรื่องโดย สมาชิกพันทิป Rabbitizz
Post a Comment