ใครอยู่ข้างบน


     สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเราเอง อาจไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวมากนัก แต่ขอรับประกันว่าเป็นเรื่องจริง

กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ตั้งขึ้นเพื่อเล่าประสบการณ์สู่กันฟัง ผิดพลาดประการใดเราขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อนตอนเราอายุประมาณ 11 - 12 ปีเห็นจะได้ ครอบครัวเรามีกัน 4 คนคือพ่อ แม่ พี่สาวและเรา ตอนนั้นครอบครัวเราเพิ่งย้ายเข้าบ้านใหม่ ซึ่งเป็นบ้านที่พ่อแม่เราเก็บเงินซื้อเองหลังแรก (พ่อแม่เราเป็นข้าราชการทั้งคู่ พ่อเป็นข้าราชการสาธารณสุข แม่เป็นพยาบาล ก่อนหน้านี้ครอบครัวเราพักอาศัยอยู่บ้านพักข้าราชการ) ซึ่งบ้านหลังนี้เท่าที่ทราบในตอนนั้นเป็นบ้านสามชั้นสร้างใหม่ แต่มีลักษณะเหมือนกับตึกร้านค้าเสียมากกว่าเพราะประตูหน้าบ้านเป็นแบบประตูเหล็กที่ต้องใช้ไม้เหล็กเกี่ยวลากลงมาปิดแล้วลงลูกกลอน เปิดออกมาแล้วมองออกไปเห็นถนนหน้าบ้านเลย ไม่ได้มีรั้วรอบขอบชิดใดๆ ในตอนนั้นพ่อให้ช่างมาติดตั้งประตูด้านหน้าให้ดูเหมือนบ้านขึ้นมาหน่อยด้วยการใช้ประตูไม้แกะสลักพร้อมชิ้นกระจกตกแต่งสวยงามเป็นแบบสองบานใหญ่ปิดมาบรรจบกันตรงกลางเอาไว้ด้านในประตูเหล็กอีกชั้น มีล็อกด้านในเรียบร้อย จะได้ไม่ต้องลากประตูเหล็กขึ้นลงทุกครั้งที่ต้องออกไปข้างนอก

ลักษณะการทำงานของพ่อแม่เราคือ พอทำงานรับราชการช่วงกลางวันเสร็จก็จะไปเปิดคลินิกรักษาคนไข้ต่อในช่วงเย็น (ห้าโมงเย็นถึงสองทุ่มครึ่ง) ทุกวัน ปกติเรากับพี่สาวจะไปช่วยงานที่คลินิกทุกเย็น แต่ช่วงนั้นเราโตขึ้น เริ่มมีการบ้านเยอะขึ้น บางวันก็จะขอพ่อกับแม่อยู่บ้านเพื่อทำการบ้าน พ่อกับแม่ก็ไม่ว่าอะไรและขอให้พี่สาวอยู่เป็นเพื่อนเราที่บ้าน (พี่สาวแก่กว่าเรา 6 ปี) ทุกครั้ง

วันหนึ่งเรามีการบ้านเยอะอีก เลยขอพ่อกับแม่อยู่บ้านแทนที่จะไปช่วยงานที่คลินิก พ่อกับแม่ก็ให้พี่เราอยู่เป็นเพื่อนเหมือนเดิมแล้วก็ออกไปเปิดคลินิกตามปกติ แต่ช่วงนั้นพี่สาวเราซึ่งอยู่ในวัยมัธยมปลายเกิดมีแฟน และจะแอบพ่อกับแม่ไปหาแฟนแทนที่จะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเรา เราก็โอเค เพราะคิดว่าอยู่บ้านคนเดียวได้ ไม่ได้กลัวอะไรอยู่แล้ว

พอพ่อกับแม่ออกไปทำคลินิก พี่สาวเราก็อยู่รอต่อประมาณ 20 นาทีให้แน่ใจว่าพ่อแม่เราขับรถมุ่งหน้าไปคลินิกเรียบร้อยแล้วก็แอบออกไปหาแฟน ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ฟ้าเริ่มมืดแล้ว เราก็เดินไปที่ประตูหน้ากับพี่สาว พอพี่ออกไปแล้วเราก็ล็อกประตูตามหลัง โดยล็อกสองชั้น ทั้งลูกบิดที่ประตูและลงสลักกลอนอีกชั้น จากนั้นก็กลับมานั่งที่โซฟาหน้าทีวีในห้องนั่งเล่นเพื่อทำการบ้านต่อ

ก่อนอื่นขออธิบายลักษณะของบ้านเราให้ฟังก่อนเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นนะคะ คือจากประตูหน้า พอเปิดเข้ามาก็จะเป็นห้องนั่งเล่นเลย โดยตัวตึกเป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยจะมีตู้โชว์สูงกั้นห้องนั่งเล่นกับพื้นที่ด้านหลังที่เป็นพื้นที่โล่งๆ ใช้เก็บของเล็กๆ น้อยๆ โดยใกล้ๆ กับตู้โชว์ดังกล่าวจะมีห้องน้ำแขก (คือเป็นห้องห้องส้วมแบบนั่งยองๆ ใช้อาบน้าไม่ได้นะคะ ห้องอาบน้ำอยู่ข้างบน) ซึ่งอยู่ใต้บันไดใช้ขึ้นไปชั้นสอง (เพดานห้องน้ำจะลาดเอียงไปตามลักษณะบันได เวลาทำธุระเสร็จจะลุกยืนตรงๆ ไม่ได้ค่ะ ต้องย่อตัวหน่อย เพราะหัวจะชนเพดานเอา) ส่วนชั้นสองพอขึ้นบันไดไปถึงแล้วมองตรงก็จะมีบันไดต่อขึ้นไปชั้นสาม ถ้าเลี้ยวมาทางขวามือจะเป็นโถงเล็กโล่งๆ มองไปทางซ้ายเห็นห้องพ่อกับแม่ มองทางขวาจะเป็นห้องเรากับพี่สาว (คือห้องจะอยู่ตรงกันข้ามกันเลย)

รายละเอียดที่น่าสนใจก็คือ นับจากส่วนที่เป็นโถงไปจนถึงห้องพ่อกับแม่จะเป็นพื้นไม้ขัดเงา ส่วนห้องเรากับพี่จะเป็นพื้นกระเบื้องธรรมดาเหมือนส่วนอื่นๆ ของบ้าน

ย้อนกลับมาที่เรานั่งทำการบ้านหน้าทีวี ตอนนั้นเราเปิดทีวีไปด้วยเพื่อให้พอมีเสียงเป็นเพื่อนแก้เหงา นั่งทำไปสักพัก (ตอนนั้นน่าจะประมาณทุ่มกว่าแล้ว) เราเกิดปวดฉี่ขึ้นมา ก็เลยลุกจะเดินไปเข้าห้องน้ำ จังหวะนั้นเกิดครึ้มใจก็เลยฮัมเพลงในลำคอไปด้วย พอเราใกล้ถึงห้องน้ำก็ยังฮัมไปเรื่อยแต่คราวนี้หูเราได้ยินเสียงเหมือนมีคนเดินตามมาข้างหลังพร้อมกับฮัมเพลงเดียวกันกับเรา (พอนึกออกมั้ยคะ คือฮัมเพลงเดียวกันแต่เสียงมันคาบเกี่ยว ไม่เชิงว่าพร้อมกันเสียทีเดียว เลยได้ยินชัดอยู่ว่าเสียงปริศนานั่นฮัมช้ากว่าที่เราฮัมนิดนึง) แต่ตอนนั้นอาจเป็นด้วยความที่เราไม่เคยมีความคิดว่าจะเกิดอะไรแบบนี้อยู่ในหัว คือไม่ได้มีความหวาดระแวงอะไรอยู่เลย เราก็เลยไม่ได้หยุดคิดว่ามันแปลกหรืออะไร คือไม่ทันได้คิดอะไรจริงๆ พอถึงห้องน้ำปุ้บก็เปิดประตูแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

นี้พอจังหวะที่เราปิดประตูแล้วลงนั่งทำธุระ
หูเราได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินฮัมตามเรามาเมื่อกี้ เดินต่อผ่านประตูห้องน้ำไปแล้วเลี้ยวขึ้นบันไดไปชั้นสอง
ซึ่งเสียงฝีเท้าชัดเจนมากเพราะบันไดขึ้นชั้นสองมันอยู่ตรงกับห้องน้ำที่เราใช้อยู่พอดี (คือเราอยู่ข้างใต้)
แล้วฝีเท้านั้นก็เดินต่อไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นสอง แล้วเดินเข้าห้องพ่อกับแม่พร้อมเสียงปิดประตู “ปัง”
(ด้วยความที่พื้นโถงข้างบนไปจนถึงห้องพ่อแม่เป็นพื้นไม้ เราจึงได้ยินเสียงฝีเท้าชัดเจนมาก)

ในตอนนั้นคือสติการรับรู้กลับมานิดนึง
เพราะเสียงมันชัดเจนมาก เราก็เริ่มถามตัวเองทั้งที่ยังนั่งทำธุระอยู่ในห้องน้ำว่า “เฮ้ยนั่นพี่เรากลับมาแล้วใช่ป่าวหว่า”
ปกติเวลาพี่เราแอบไปหาแฟนจะไม่เคยเอากุญแจบ้านไปด้วย
เราจะเป็นคนเปิดประตูให้ตลอด แต่เพราะเสียงต่างๆ มันชัดมาก เลยคิดว่าต้องเป็นพี่สาวเรากลับมาบ้านแล้วแน่นอน
พอคิดได้แบบนั้น พอทำธุระเสร็จเรียบร้อยเราก็ออกมาจากห้องน้ำมานั่งหน้าทีวีทำการบ้านต่อ
ใจคิดจริงๆ ว่ามันพี่สาวเราแน่ๆ ที่อยู่ในห้องพ่อแม่ตอนนี้
เลยตะโกนออกไปว่า “กลับมาแล้วเหรอ” แล้วรอเสียงตอบ
พอไม่ได้ยินเสียงพี่ตอบกลับมาเราก็ไม่ได้อะไร ก็นั่งทำการบ้านต่อ

เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาทีเราก็ได้ยินเสียงเคาะที่ประตู
พอเราไปถึงประตูแล้วมองผ่านหน้าต่างออกไปก็เห็นพี่สาวยืนรอให้เปิดประตูให้อยู่!!
ตอนนั้นคือเราเหวอมาก ใจเต้นแรง รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว คิดในใจว่า
“แล้วคนที่เดินขึ้นไปข้างบนนั่นใคร? ขโมยหรือเปล่า?”
คือใจคิดกลัวว่าอาจจะขโมยขึ้นบ้านหรือเปล่า คิดได้แบบนั้นเราเลยรีบบิดลูกบิดประตูเพื่อปลดล็อก
จากนั้นก็เอื้อมมือไปดึงสลักกลอนออกด้วยความเคยชิน
ขณะที่ดึงสลักกลอนเพื่อปลดล็อกก็นึกขึ้นมาได้ว่า “เฮ้ย.. เราล็อกสลักกลอนไว้ข้างใน แล้วใครมันจะเข้ามาได้ฟระ”

คิดได้เท่านั้นเราก็เข่าอ่อนเลย พอปลดล็อกเสร็จพี่สาวเราเข้ามาได้
เราเริ่มร้องไห้ฟูมฟาย คิดว่าโดนแน่แล้ว ใช่แน่ๆ
พี่เราก็ตกใจถามเราว่าเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น
พอเราเล่าให้ฟังพี่เราก็ขึ้นไปเช็กห้องพ่อแม่ข้างบนก็ไม่เห็นมีใคร
ก็ปลอบๆ เราว่าอาจจะเป็นเพราะบ้านมันมีเสียงก้องมากกว่า ไม่มีอะไรหรอก
แต่เราที่โดนเองกับตัวคือมันชัดเจนมาก
บ้านนี้ก็อยู่มาได้สักพักแล้ว ไม่เคยมีเสียงก้องอะไรแบบนี้
เราร้องไห้ตัวสั่นอยู่แบบนั้นจนพ่อแม่กลับมาถึงบ้าน
เราก็ต้องพยายามเก็บอารมณ์ทำตัวเป็นปกติเพราะไม่อยากให้ท่านรู้เรื่องพี่เราหนีเที่ยว

หลังจากนั้นไม่ว่าเราจะมีการบ้านเยอะแค่ไหนก็จะหอบตามพ่อกับแม่ไปทำที่คลินิกตลอด
ไม่ยอมอยู่บ้านคนเดียวอีกเลย นานๆ ทีเวลาเราขึ้นนอนก่อนคนอื่นๆ จะได้ยินเสียงเคาะหัวเตียงบ้างจนกลายเป็นความเคยชิน

ปล. เรื่องนี้เกิดขึ้นนานมาแล้ว หลังจากนั้นเรากับครอบครัวย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่น
และไม่ได้เจอเรื่องราวทำนองนี้อีกเลย ไม่รู้ด้วยว่าประสบการณ์ที่เราเจอมันมาจากไหนและเกิดจากอะไรกันแน่

เรื่องราวก็จบเพียงเท่านี้ค่ะ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ

เรื่องจากพันทิป ใครอยู่ข้างบน
เรื่องโดย สมาชิกพันทิปหมายเลข 5730018
ขอขอบคุณเรื่องราวสยองและขออนุญาตนำมาเผยแพร่ ณ ที่นี้ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น