บ้านช่องห้องหลอน


สวัสดีครับ วันนี้มีโอกาสแวะมาปันเรื่องเล่าที่บ้านหลังเก่าเช่นเคย ใครว่างๆ ก็มาอ่านกันได้นะครับ
ย้ำเช่นทุกครั้งว่าโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

สนทนาแลกเปลี่ยนได้ที่แฟนเพจ

https://www.facebook.com/Krittanont/

สำหรับกระทู้นี้ ผู้ที่ให้เกียรติพาพวกเราไปพบเหตุสะพรึงครั้งนี้ ชื่อพี่แอน มีอาชีพขายเสื้อผ้า
พี่แอน ประกอบธุรกิจขายเสื้อผ้า มีหน้าร้านอยู่ย่านประตูน้ำ พี่แอนขายของมาหลายปีจนมีรายได้แน่นอนพอที่จะซื้อบ้านสักหลัง
พี่โชค แฟนหนุ่มซึ่งเป็นพนักงานประจำก็เห็นด้วย ทั้งคู่ตระเวนดูบ้านจัดสรรหลายโครงการ สุดท้ายไปจบที่หมู่บ้านย่าน XX

พี่แอนซื้อบ้านเดี่ยว ๓๕ ตร.ว. หลังนี้ตั้งแต่โครงการเพิ่งเปิดใหม่ๆ ตอนนั้นสร้างเสร็จเพียงไม่กี่ยูนิต มีคนเข้ามาอยู่เพียงไม่กี่หลัง
ด้วยความที่มีลูกจ้างคอยช่วยเปิด-ปิดร้าน ไม่ต้องรีบเข้างานแต่เช้า พี่แอนจึงตัดสินใจขายคอนโดที่อยู่มาหลายปี
แล้วย้ายไปบ้านหลังใหม่ ค่อยๆ แต่งไปเรื่อยๆ ช่วงแรกพี่แอนอยู่คนเดียว ส่วนพี่โชคไปๆ มาๆ เพราะไม่สะดวกเรื่องการเดินทาง

ณ ตอนนั้นมีบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ๑๐ หลัง มีคนเข้าอยู่ครึ่งหนึ่ง

บ้านพี่แอนอยู่หลังสุดท้าย ยูนิตข้างๆ กับตรงข้ามมีคนซื้อแล้วแต่ยังไม่ได้เข้าอยู่ หลังที่มีคนอยู่ ห่างไปสองแปลง
พี่แอนขนข้าวของจากที่พักเดิม รวมถึงของในร้านกลับไปเก็บไปที่บ้าน เธอกับพี่โชควางแผนว่าจะต่อเติมบ้าน
จึงยังไม่ได้ตกแต่งอะไรมาก เอาแค่พออยู่ไปก่อน

คืนแรกพี่โชคแวะมานอนด้วย ทั้งคู่ช่วยกันขนข้าวของขึ้นไปเก็บบนห้องนอนเล็กชั้นสอง (ห้องนอน ๒) ฝั่งติดถนน
ทั้งเสื้อผ้าเก่าที่รอขาย ราวเหล็กที่ไม่ใช้แล้ว หุ่นโชว์เสื้อผ้าชำรุดหลายตัว บ้างหัวหลุด แขนหลุด บ้างแตกหัก
ตกลงกันว่าต่อเติมเสร็จค่อยขนลงไปเก็บด้านล่าง ระหว่างนั้นก็จัดข้าวของ
เรียงหุ่นไว้ด้านใน ปิดไฟแล้วลงไปกินข้าวมื้อแรกในบ้านหลังใหม่

เสร็จประมาณ ๒ ทุ่ม ก็ชวนกันไปสำรวจรอบๆ ทักทายเพื่อนบ้านใหม่ บ้านที่อยู่ใกล้สุดเป็นครอบครัวเล็กๆ พ่อแม่ลูก
พ่อชื่ออ๋อง แม่ชื่อโบว์ มีลูกชายวัยสี่ขวบชื่อน้องน้ำมนต์ อีกหลังเป็นหนุ่มสาวที่อายุไล่เลี่ยกับพี่แอน
ส่วนอีก ๒-๓ ครอบครัวยังไม่มีโอกาสทำความรู้จัก เดินเลยไปที่สวนส่วนกลาง เรียกเหงื่อได้นิดหน่อยก็วกกลับ
บ้านหลังอื่นก็เริ่มปิดเงียบแล้ว มองไปรอบๆ ก็มืดหมด

พอเดินไปถึงบ้าน พี่แอนเป็นคนแรกที่เห็นสิ่งผิดปกติเข้าจังเบอร์ เธอเหลือบมองไปที่ห้องนอนเล็กชั้นสอง
ใจหายวาบ หุ่นโชว์เสื้อผ้าตัวหนึ่งตั้งอยู่ชิดหน้าต่าง... ไฟสลัวๆ เพื่อนบ้านก็ยังไม่ค่อยมี เป็นใครก็ตกใจ

พี่แอนร้องเสียงหลง พอตั้งสติได้เห็นว่าเป็นหุ่นก็บ่นแฟน บอกว่าทำไมไม่จัดให้เรียบร้อย กลางค่ำกลางคืนใครผ่านมาเห็นหัวใจวายกันพอดี
พี่โชคก็เกาหัวแกรก จำได้ว่าเรียงเข้าไปชิดผนังด้านในหมดแล้ว (นี่หว่า) ก็บ่นงึมๆ แล้วขึ้นไปเรียงใหม่
ล็อคกลอนแล้วกลับเข้านอน คืนแรกผ่านไปเหมือนไม่มีอะไร เช้ามืดพี่โชคก็ตื่นนอน อาบน้ำ รีบบึ่งออกไปทำงานตามปกติ
ประมาณเจ็ดโมงเช้าก็ขับรถออกไป ส่วนพี่แอนยังนอนอุตุ กะว่าสักเก้าโมงค่อยลุก

และเป็นพี่แอนนี่เองที่ต้องเจอกับเรื่องแปลกๆ
ตอนนั้นแดดก็รำไรแล้วละ พี่แอนนอนตะแคงหันหน้าไปทางหน้าต่าง กำลังครึ่งหลับครึ่งตื่น
จู่ๆ หมอนที่หนุนเหมือนถูกกระตุกทีละนิดๆ จนเลื่อนหลุดไปจากหัว พี่แอนเบลอๆ อยู่ นึกว่าพี่โชคแกล้ง
(แต่เวลานั้นพี่โชคออกไปแล้ว) ก็ไม่ได้สนใจเอื้อมมือไปควานหาหมอนทั้งที่ยังหลับ คลำๆ คว้าๆ เท่าไหร่ก็ไม่เจอ
จึงพลิกตัวกลับไป ปรากฏว่าไม่มีหมอนสักใบอยู่บนเตียง แต่ไปกองอยู่บนพื้นใกล้ๆ ประตูห้องโน่น

พี่แอนเรียกพี่โชคอยู่หลายครั้ง เห็นเงียบจึงชะโงกไปดูที่หน้าต่างเห็นว่ารถไม่อยู่ ก็แปลกใจ
แต่ไม่ได้คิดไกลไปกว่านอนดิ้นมั้ง คงเผลอหวดตูมหมอนกระเด็นตกเตียง จะนอนต่อก็ตาสว่างแล้ว เลยตัดใจลุกไปอาบน้ำ
ระหว่างอาบน้ำแปรงฟัน หูเหมือนได้ยินเสียงประตูเปิด จึงหยุดแปรง ชะโงกไปดูช่องระบายลมเล็กๆ ตรงประตู
เห็นเงาดำวูบผ่านไป ใจหล่นไปกองตาตุ่ม

พอมีแสงแดดเป็นพวก อะไรที่มันลึกลับก็ไม่มีในสมองหรอก คือกลัวคนมากกว่า เคยได้ยินมาว่าผู้รับเหมาบางราย
มีอาชีพเสริมเป็นมิจฉาชีพ แอบปั๊มกุญแจลูกบ้านไว้ พี่แอนกระโจมอก หยิบอาวุธชิ้นเดียวที่มีอยู่ในห้องน้ำ
นั่นคือขวดสเปย์ดับกลิ่น ย่องไปจ้องช่องประตู

เงี่ยหูฟังพักใหญ่ไม่ได้ยินเสียงอะไรจึงค่อยๆ เปิดประตูออกมาดู สำรวจทีละห้องในห้องนอนใหญ่ก็ว่างเปล่า
ห้องนอนสองก็เหมือนกัน เดินลงไปชั้นล่างก็ไม่พบอะไรผิดสังเกต โล่งอกกลับขึ้นไปแต่งตัว เตรียมไปเปิดร้าน
แต่พี่แอนลืมสิ่งสำคัญไปอย่าง โคนันคุงนึกออกมั้ยครับว่าคืออะไร ใครนึกไม่ออกกด

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

วันนั้นยอดขายไม่ดีนัก อาจเป็นเพราะไม่ใช่วันหยุด รวมถึงนักท่องเที่ยวก็น้อยมาสักระยะ ด้วยความที่พี่แอนเป็นคนสวย รูปร่างดี
จึงมีแผนว่าจะไลฟ์สดขายเสื้อผ้ากับเขาบ้าง ของมี สถานที่ก็มี พร็อพก็เพียบ แค่จัดฉากถ่ายสวยๆ ก็น่าจะพอมีรายได้อีกทาง
ตกเย็นก็โกยเสื้อผ้าที่คิดว่าน่าจะขายได้ใส่ถุงใบใหญ่บึ่งกลับบ้านทันที

กลับไปถึงเจอแฟนหนุ่มยืนคุยอยู่กับพี่อ๋อง พี่อ๋องเตือนว่าช่วงแรกที่ยังไม่ค่อยมีคนเข้าอยู่ต้องล็อคประตูหน้าต่างให้เรียบร้อย
เพราะโครงการยังล้อมรั้วไม่ทั่ว ไม่ได้ตั้งแง่กับคนงาน หรือชาวบ้านแถวนั้น แต่กันไว้ดีกว่าแก้
เพราะยามคนหนึ่งบอกว่าคืนที่ผ่านมาเห็นคนซุ่มดูตามบ้านที่มีคนเข้าอยู่แล้ว

คืนนั้นพี่โชคค้างด้วย พอแชร์ไอเดียจบ ทั้งสองก็ช่วยเซ็ตฉากง่ายๆ ตรง walk in closet ที่ยังไม่ได้บิวท์เป็นการชั่วคราว
ตั้งเป้าพรุ่งนี้จะลองไลฟ์ดู ตกกลางคืน ขณะนอนดูทีวีได้ยินเสียงน้ำหยดดัง ติ๋ง... ติ๋ง... นึกภาพบ้านที่ยังไม่ค่อยมีเฟอร์ฯ
โครงการยังไม่พลุกพล่าน เสียงอะไรดังนิดหน่อยก็ก้องไปทั่ว พี่โชคก็ลุกไปดู เสียงน้ำหยดเงียบไป เป็นเสียงพี่โชคที่ดังแทน

“แอนๆ มานี่หน่อย”

พี่แอนเดินตามเข้าไปในห้องน้ำ เห็นแฟนยืนเท้าเอวอยู่ แกชี้ที่ส่วนอาบน้ำ พี่แอนก็มองตาม

“ผมร่วงเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?" พี่โชคถาม

พี่แอนก็งง เลยเดินเข้าไปดู คิ้วก็ขมวดยุ่ง เพราะมีเส้นผมผสมคราบครีมกองเป็นกระจุกอยู่ตรงตะแกรงน้ำทิ้ง
ไม่นึกว่าตัวเองผมร่วงเยอะขนาดนั้น แต่พี่โชคคงเริ่มง่วง เลยบอกให้พี่แอนออกไปก่อน ย้ำให้หาซื้อยาแก้ผมร่วงมาใช้

พี่แอนกลับมาที่ห้อง นั่งลงบนเตียง เริ่มจิตตก ‘ใช่ผมชั้นเหรอวะ??’

ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก เช้าวันถัดมา ทั้งสองคนออกไปทำงานแต่เช้า พี่โชคขับรถออกไปก่อน
ส่วนพี่แอนออกที่หลัง ระหว่างปิดประตูรั้ว โบว์ก็จูงน้องน้ำมนต์มาทักทายที่หน้าบ้าน คุยกันได้พักเดียวพี่แอนก็ขอตัวเพราะนัดลูกค้าไว้
โบว์ยิ้มให้ แล้วบอกอะไรบางอย่างที่ทำให้พี่แอนต้องสะบัดหน้าไปมองบ้านตัวเอง

“เมื่อคืนโบว์กับแฟนออกมาเดินเล่น เห็นคนยืนอยู่บนห้องในบ้านคุณแอน ตอนแรกนึกว่าคุณโชคซะอีก ที่ไหนได้เป็นหุ่น ตกใจหมดเลยค่ะ”

หือ!? พี่แอนอ้าปากค้าง ชำเลืองมองห้องนอนสอง มีหุ่นแขนหลุดตั้งอยู่ริมหน้าต่างจริงๆ แต่มันไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง?
พอขึ้นรถก็รีบโทรหาพี่โชคทันที ถามว่าขยับหุ่นรึเปล่า พี่โชคก็ไม่แน่ใจ เพราะตอนรื้อของจัดพร็อพเตรียมอุปกรณ์
อาจจะลืมยกกลับที่เดิมก็ได้ พี่แอนฟังก็ใจชื้นขึ้นหน่อย ตั้งใจว่าวันหยุดจะขนหุ่นเสียๆ ไปทิ้งให้หมดสิ้นเรื่องสิ้นราวกันไป

วันนั้นทั้งวันพี่แอนก็ซ้อมไลฟ์ เลือกเอาชุดสวยๆ เตรียมขนกลับบ้าน ขากลับก็นัดเจอพี่โชคที่ห้างสรรพสินค้า กินข้าวเย็นด้วยกัน
พี่โชคบอกว่าติดต่อผู้รับเหมากับ interiorไว้แล้ว อีกสามวันจะเข้าไปประเมินราคาหน้างาน พี่แอนก็ไม่ค่อยสนใจ รีบกินรีบกลับ
เพราะแจ้งหน้าเพจไปแล้วว่าสองทุ่มครึ่งจะมีไลฟ์สด

ขับรถถึงโครงการ นึกถึงคำพูดเพื่อนบ้าน พี่แอนเลยจอดรถตรงป้อมยาม ยื่นขนมให้ แล้วถามยามว่าเห็นคนแปลกๆ เข้ามาในหมู่บ้านเหรอ
ยามส่ายหัว แล้วบอกว่าเขาไม่เห็น แต่คนที่เห็นเป็นยามอีกคน ชื่อลุงสมพงษ์

ถึงบ้านก็รีบเตรียมของ จัดพร็อพ  จัดไฟ เอาตามมีตามเกิดไปก่อน ถ้าผลตอบรับดีค่อยขยับขยาย เลยเวลานัดไปนิดหน่อย
พี่แอนก็ไฟล์สดขายเสื้อผ้าเป็นครั้งแรก

ยอดคนเข้าชมมีไม่ถึงยี่สิบ ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนๆ และลูกค้าประจำที่ซื้อของบ่อยๆ แรกๆ ก็ติดๆ ขัดๆ พูดหน้ากล้องอยู่คนเดียว
บางทีต้องเปลี่ยนชุดกันจะๆ อาศัยแค่ราวผ้าเป็นฉาก พี่แอนก็เขินเหมือนกัน โฉบไปดูคอมเมนต์เป็นพักๆ
แต่พอมียอด cf ทีนี้เริ่มคล่อง สรุปไลฟ์สดครั้งแรกได้เงินไปเจ็ดพันกว่าบาท ถือว่าไม่เลวสำหรับมือใหม่

วันต่อมาก็แพลนว่าจะเตรียมของมาขายให้เลือกมากขึ้น พร้อมโปรโมชั่นเด็ดสำหรับลูกค้าออนไลน์
จัดแจงขนแบบเสื้อผ้ากลับบ้านหอบใหญ่แล้วชวน หยี แม่ค้าร้านข้างๆ ให้มาช่วยไลฟ์สด
(จริงๆ คือหาเพื่อนมานอนด้วย เพราะพี่โชคไม่ได้มาค้าง)

แต่งเนื้อแต่งตัวพร้อมเข้าฉาก จากนั้นเริ่มไลฟ์เป็นครั้งที่สอง

พอมีลดแลก แจก แถม คนก็เริ่มแชร์ ยอดผู้เข้าชมก็พุ่งแตะสี่สิบ พี่แอนเป็นคนพูดเก่ง หน้าตาสะสวย แล้วมีทริคในการขาย
มีโชว์วับๆ แวมๆ เล็กน้อยพอเป็นกระษัย ยอดเริ่มเข้าเรื่อยๆ พี่แอนบ่นว่ารู้งี้ทำนานแล้ว สักพักพี่โชคก็ตามเข้ามาแซวในไลฟ์

Chokepalit : แม่ค้าน่ารักจังคร้าบ

พี่แอนก็ขำ แต่ก็ดี มีหน้าม้าเข้ามาช่วยให้ครึกครื้น ช่วงนั้นมีลูกค้าสอบถามเรื่อยๆ พี่แอนก็ขายรัวๆ หยีก็ช่วยตอบ
จนไปสะดุดคอมเมนต์ลูกค้าคนหนึ่ง ชื่อ  Winnie the Bee หยีหันไปถามพี่แอนว่าคนนี้ใคร (วะ)
พี่แอนคุ้นๆ ว่าเมื่อวานยูสเซอร์นี้สั่งชุดแซกไป ๒ ชุด พี่แอนก็ถามว่ามีอะไร หยีเลยบอกให้พี่แอนมาอ่านคอมเมนต์เอง
พี่แอนไล่อ่านทีละข้อความ

Winnie the Bee : สวัสดีค่าพี่แอน รอนานแร้วว
Chokepalit : แม่ค้าน่ารักจังคร้าบ
Look Yee : @Chokepalit เพื่อนแม่ค้าก็น่ารักนะจ้า สวยโสด 555
Mr. Fusion : เข้ามาดู
หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ : แจกอีกสิยะหล่อน เกิดเป็นคนสวยต้องหัดมีน้ำใจ
Winnie the Bee : โหย พี่แอนหุ่นดีจังง่า
Rhythm in the air : ฝากสมิงเขาขวางไว้ในอ้อมใจสักเล่มนะครับ ^^'
Winnie the Bee : cf ค่า

และก็มาถึงข้อความต้นเหตุที่ทำเอาแม่ค้าคนสวยหน้าเปลี่ยนสี
Winnie the Bee : เมื่อวานแซวนิดหน่อย วันนี้เปลี่ยนผู้ช่วยเลยเหรอค้า ><

เปลี่ยนผู้ช่วย? คืออะไร? เมื่อวานกรูฉายเดี่ยว หรือหมายถึงพี่โชค?

แต่ช่วงมิดไนท์เซลล์แบบนั้นมันไม่สะดวกที่จะมาถามไง พี่แอนเลยคิดว่าไลฟ์จบค่อยอินบ็อกซ์ไปถามอีกที
ตอนนั้นเริ่มไม่สนุกแล้ว แต่ก็เก็บเงียบไว้ก่อน ยังไม่อยากบอกเพื่อน เดี๋ยวมันหนีกลับ
หยีก็มีเซนส์นะ เริ่มรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เพราะพี่แอนไม่คล่องเหมือนตอนแรกๆ

สักสามทุ่มครึ่งไลฟ์จบก็มานั่งเก็บข้าวของ คุยกับเพื่อนเพลินจนเกือบลืมเหมือนกัน
พี่แอนหยิบมือถือจึงส่งข้อความไปหา ปรากฏว่า Winnie the Bee ไม่ออนไลน์ พี่แอนเลยส่งข้อความขอบคุณอะไรเทือกนั้น
แล้วหยอดทิ้งท้ายไว้ว่า

‘สนใจมาเป็นผู้ช่วยพี่มั้ยคะ ค่าจ้างวันละกล่อง 555’

รออยู่นาน ลูกค้าก็ยังไม่ตอบข้อความ ด้วยความร้อนใจ นึกขึ้นได้ว่าย้อนไปดูคลิปเก่าซี่ เผื่อเจอเบาะแส
พี่แอนเลยนั่งดูคลิปการไลฟ์สดครั้งแรกไปเรื่อยๆ ๑๐ นาทีแรกก็ฮานะ กำลังเพลินๆ แต่พอเข้าช่วงกลางคลิป
ดันเห็นอะไรแปลกๆ แว่บหนึ่ง ไม่เร็ว ไม่ช้า ต้องเลื่อนดู ๒-๓ รอบถึงจะเห็น

จังหวะนั้นพี่แอนกำลังก้มๆ เงยๆ เปลี่ยนเสื้อผ้า มันมีเงาอะไรสักอย่างโฉบผ่านหน้ากล้อง
แล้วไม่กี่วิฯ ต่อมา หุ่นโชว์เสื้อที่ตั้งอยู่สุดเฟรมด้านหลังก็หมุนนิดหนึ่ง แค่ไม่กี่องศา
คือถ้าไม่สังเกตดีๆ จะไม่เห็น... พี่แอนเสียววาบตั้งแต่หัวจรดเท้า

พยายามคิดในแง่ดี อาจเป็นแสงเงาก็ได้ม้าง ส่วนหุ่นขยับอาจเป็นมุมกล้องไง ใช่ๆ มันต้องเป็นเพราะมุมกล้อง
กำลังกดปิด ดันมาเจอแจ็คพอตเข้าอีกช็อต ในวีดีโอที่บันทึกตอนนั้นน่าจะใกล้จบไลฟ์ พี่แอนกำลังก้มกดมือถือ
จู่ๆ มีเงาคนโผล่เข้ามาด้านซ้ายของเฟรม กินระยะเวลาสั้นๆ ไม่เกิน ๓ วินาที แล้วก็หลบหลุดเฟรมไป

ไม่ถึงนาทีต่อมาคอมเมนต์ก็เด้ง
Winnie the Bee : ใช้แรงงานผู้สูงอายุเหรอคะพี่แอนนน 555

เห้ย ไม่ตลกนะ!?

พี่แอนนั่งหน้าซีด หยีเห็นเลยถามว่าเป็นอะไร พี่แอนจึงตัดสินใจเล่าให้ฟัง ฟังจบขนชี้โด่เด่
ทั้งสองคนเลยมานั่งดูคลิปอีกรอบ คือมันไม่ค่อยชัด ฟันธงลำบาก แต่โครงร่างก็คล้ายคนอยู่เหมือนกัน
เหมือนผู้หญิง รวบผมสูง หลังค่อมๆ หน่อย

ชัดไม่ชัดไม่รู้แล้ว แต่อยู่ไม่ได้ละ กำลังจะจองโรงแรมนอน ปรากฏว่าพี่โชคแวะมาที่บ้าน พี่แอนเลยเล่าทุกอย่างให้ฟัง
แต่ก็นะ ผู้ชายดิบๆ ด้านๆ ไม่ค่อยเชื่อเรื่องอะไรพวกนี้ แม้พี่แอนจะเปิดคลิปให้ดู ก็ยังบอกว่า เงา... เงาชัดๆ คิดมาก
ส่วนน้องวินนี่วินเน่ออะไรนั่นก็ตาฝาด แซวไปเรื่อย ไม่มีไรหรอก

สรุปคืนนั้นทุกคนก็นอนที่บ้าน แต่ขอใช้บริการไฟทุกดวงมันซะเลย ตาค้าง กว่าจะหลับไปปาเข้าไปตีสอง

แต่พี่แอนไม่รู้ตัวเลยว่าตัดสินใจผิด เพราะกำลังเจอช็อตเด็ดยิ่งกว่าในคลิป

สักหัวรุ่ง ขณะกำลังนอนเพลินๆ ไม่รู้เป็นเพราะหมกมุ่นมาทั้งคืนรึเปล่า ความฝันกับความจริงตีกันนัวไม่หมด
พี่แอนได้ยินเสียงน้ำหยด สลับเสียงน้ำไหล ดังอยู่นานจนพี่แอนรำคาญลุกขึ้นมานั่ง หันไปมองไฟที่ก่อนนอนเปิดสว่างโร่
ไหงตอนนี้มันมืดหมด โชคดีที่ตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียวบนเตียง หยียังนอนอยู่ด้วย ส่วนพี่โชคก็กรนอยู่ห้องข้างๆ

กำลังทิ้งตัวนอนอีกรอบ น้ำเนิ้มช่างมัน ดันมีอะไรมาเตะตา เหมือนว่าตรงหลืบมืดๆ บริเวณส่วน walk in closet
ที่มีข้าวของจากการไลฟ์วางกองอยู่ มันมีอะไรสักอย่างที่เข้มกว่าเงายุกยิกๆ อยู่
พี่แอนหมอบตัวลงข้างๆ เพื่อนพยายามจ้องมอง จังหวะนั้นดันมีเสียง แก๊ก... แก๊ก... แก๊ก
ดังมาจากอีกฝั่ง (ฝั่งกระจก ใกล้กับพี่แอน)

เสียงนั้นคุ้นหู มันเป็นเสียงพัดลมที่ปกติพี่แอนตั้งเวลาเปิดไว้ตอนใกล้เช้าเพื่อแทนการใช้แอร์

พัดลมเกิด ขัดข้อง หรือ ติดขัด อะไรสักอย่าง ทำให้ไม่ยอมส่ายอย่างที่ควร ขืนตัวดัง แก๊ก... แก๊ก... แก๊ก
พี่แอนเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียง พอไฟสว่างขึ้นเห็นป้าแก่ๆ ยืนขวางไม่ให้พัดลมส่าย

พี่แอนกรี๊ดสุดเสียง

หยีสะดุ้งโหยงเป็นคนแรก ตามด้วยพี่โชคที่พรวดเข้ามาในห้อง ถามว่าเป็นอะไร
พี่แอนยังใจสั่นอยู่ ปากเหมือนไม่มีแรง เหงื่อนี่ซกทั่วหน้า ตอนนั้นประมาณเกือบหกโมงเช้า
พี่แอนหันไปมองพัดลม มันส่ายหน้าปกติ

พี่แอนบอกว่าเมื่อกี้เห็นคนยืนอยู่ตรงพัดลม พี่โชคมองหน้าหยี ก็เข้าไปปลอบพี่แอนว่า ฝันไปมั้ง
เช้าแบบนี้มันไม่น่ามีอะไร แต่ถ้าไม่สบายใจ คืนนี้ไปนอนคอนโดเขาก็แล้วกัน

พี่แอนพูดอะไรไม่ออก ฝันร้ายไม่พอยังรู้สึกปวดคอแปลบๆ บิดสองรอบมองไปตรงหัวเตียง
หมอนสองใบไม่อยู่ในที่ที่ควร ใบหนึ่งกองอยู่หน้าประตู อีกใบกองอยู่ข้างพัดลม

มันควรต้องกลัวปะวะ!?

เช้านั้นเป็นวันหยุด หลังล้างหน้าล้างตากันเสร็จ หยีบอกว่า “กรูกลับละ ไม่อยู่แล้ว”
แต่พี่แอนก็บอกให้อยู่เป็นเพื่อนแป๊บก่อน อยากจะคุยให้รู้เรื่องกันไปเลยวันนี้ จากนั้นก็ออกไปเดินที่สวนของโครงการ
เห็นโบว์เดินเล่นอยู่กับลูก พี่แอนเลยเข้าไปทักทาย แล้วตะล่อมถามว่าเคยเจออะไรแปลกๆ รึเปล่า

โบว์ก็บอกว่าไม่มี แต่จะเริ่มระแวงตอนที่พี่แอนพูดนี่ละ พี่แอนรออยู่แล้ว เรื่องอะไรจะเก็บไว้คนเดียว ก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
ลงท้ายทุกคนเลยชวนกันไปถามเซลล์ที่สำนักงานขาย ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้คำตอบ
แต่แม่บ้านคนหนึ่งบอกให้ลองไปถามลุงสมพงษ์ ยามกะดึกดูสิ เห็นแกบอกว่าเจอเรื่องแปลกๆ มา ๒-๓ คืนแล้ว

พอโทรไปแกดันไม่รับสาย คงนอนอยู่ พี่แอนเลยทิ้งเบอร์ไว้แล้วกลับไปรอที่บ้าน พี่โชคเสนอว่าลองทำบุญบ้านก่อนดีไหม
เผื่ออะไรๆ จะดีขึ้น ขืนขายตอนนี้ยุ่งยาก ขาดทุน โดนภาษีนู่นนี้นั่นอีก พี่แอนไม่ตอบ นั่งรอลุงสมพงษ์
แต่ไล่ให้พี่โชคขนหุ่นเสียๆ ทุกตัวไปทิ้ง

พี่โชคขนหุ่นขึ้นรถเสร็จ ก็ขึ้นไปบนห้องนอนสอง มองๆ ดูเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ จึงเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ชะโงกดูตรงตะแกรงเหล็ก ค่อยๆ ถอดฝาออก ปรากฏว่าได้กลิ่นเน่าน่าอ้วกโชยพรวดออกมาจากท่อน้ำทิ้ง
ซ้ำยังมีผมกระจุกใหญ่กว่าคราวแรกปนอยู่กับเศษกรวดจากงานก่อสร้าง

พี่โชคหาอะไรมาเขี่ยๆ เศษผมขึ้นมากอง ฉีดๆ น้ำทำความสะอาดเศษปฏิกูล
ก็ได้คำตอบว่าผมพวกนั้นไม่ใช่ของแฟนตัวเองแน่นอน เพราะเกือบครึ่งมันเป็นผมหงอก!

“เฮ้ย!”

พี่โชคร้อง พี่แอนได้ยินจึงถามว่ามีอะไร พี่โชครู้ว่าถ้าบอกความจริงยิ่งยาวแน่ เลยโกหกไปว่าพื้นลื่น
แกเก็บเศษผมใส่ถุงขยะ ล้างท่อน้ำ ล้างมือ ลงไปบอกให้พี่แอนกับหยีรออยู่ที่บ้าน
แล้วขับรถตรงไปที่วัดไม่ไกลจากโครงการ นิมนต์พระ ๙ รูปเพื่อทำบุญขึ้นบ้านใหม่ เลือกฤกษ์เร็วสุดคือสัปดาห์หน้า

หลังกลับจากวัดเจอลุงคนหนึ่งกำลังขี่จักรยานไปที่บ้าน ทราบว่าคือลุงสมพงษ์นั่นเอง พอถึงบ้าน แกก็โดนสอบสวนทันที
พี่แอนถามว่าเจออะไรมา ลุงสมพงษ์หน้าเสียไปพักหนึ่ง อึกอักไม่ยอมเล่า จนพี่แอนต้องพูดว่าจะไม่เอาเรื่องไปบอกใคร
แกจึงยอม เพราะก่อนหน้าจะมาที่บ้าน แกโดน ผจก. โครงการสั่งห้ามพูดอะไรเด็ดขาด

ลุงสมพงษ์เล่าว่าตอนแรกแกก็ไม่รู้เรื่องหรอก สักสองสามวันก่อน ประมาณตีสอง คู่กะ (ยามคนที่พี่แอนเอาขนมให้)
บอกง่วง ตัวแกเองก็ง่วง ลุงสมพงษ์เลยอาสาปั่นจักรยานจะไปซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อ

แต่ไอ้ตอนที่จูงจักรยานออกมาจากป้อม แกเห็นผู้หญิงหลังค่อมหน่อยๆ หาบตะกร้าเดินผ่านหน้าหมู่บ้าน
ทักไม่ทัน ตอนนั้นไม่ได้กลัวนะ ตรงซุ้มโครงการไฟสว่างไง แกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

แต่วันต่อมานี่สิ คราวนี้คู่กะคนเดิมเผลอหลับ ลุงสมพงษ์นั่งดูอะไรเรื่อยเปื่อยในมือถือ
ตาเหลือบไปเห็นคนเดินกระย่องกระแย่งอยู่ลิบๆ ในหมู่บ้าน แกก็คว้าจักรยานปั่นตามไป
ตะโกนถามว่า “ใครนะ”

คนนั้นไม่ตอบ เลี้ยวเข้าไปในซอยบ้านเฟสแรก (๑๐ หลังแรก) ลุงสมพงษ์ก็ปั่นจักรยานตามไปจนทัน
พอถึงต้นซอย เจอแต่ความว่างเปล่า ไม่มีเงา คน สัตว์ สิ่งของอยู่เลย แกกลัวมาก รีบปั่นกลับป้อม
พอตอนเช้าไปเล่าให้ป้าแม่บ้านฟัง ป้าแม่บ้านเลยบอกให้ลองไปถามคนแถวนั้นดู ก็ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่

จนมาเจอลุงแก่ๆ เป็นชาวสวน แกเล่าเรื่องบางอย่างให้ฟัง... เรื่องของป้าถนอม ลุงคนนั้นบอกว่าก่อนหมู่บ้านจัดสรรมาเปิดหลายปี
ที่ส่วนหนึ่งของโครงการเป็นสวนของป้าถนอม อยู่มาวันหนึ่ง ป้าถนอมซึ่งมีอาชีพหาบขนมขายถูกคนเมาขับรถชนเสียชีวิต
หลังจากนั้นช่วงดึกๆ มักมีคนเห็นป้าแก่ๆ เดินกระโผลกกระเผลกอยู่ตามถนน จนชาวบ้านละแวกนั้นไม่ค่อยออกไปไหนเวลากลางคืน
พอรู้ว่ามีหมู่บ้านจัดสรรมาเปิดก็ดีใจกันมาก เพราะแถวนี้จะได้คึกคักสักที

พี่โชคได้ยินคำว่าป้าแก่ๆ ก็นึกปอยผมดำปนงอกที่เจอในท่อน้ำทิ้งขึ้นมาทันที
อะไรมันจะบังเอิญจนน่าขนลุกแบบนี้

ลุงสมพงษ์ทิ้งท้ายไว้ว่า ตอนแรกๆ แกก็ไม่เห็นอะไร เพิ่งมาเจอไม่กี่วันที่ผ่านมา
(ช่วงที่พี่แอนย้ายเข้ามาอยู่นี่ละ) หลังจากลุงยามกลับไป ทุกคนเลยมาหาสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร
จะบอกว่าแปลงบ้านพี่แอน ตรงกับที่ดินเก่าของป้าถนอมมันก็ไม่น่าจะใช่

พี่โชคก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เดินออกไปดูบ้านหลังอื่นๆ ตอนนี้ ๑๐ หลังแรกมีคนจองเกือบครบแล้ว
แต่คนที่ย้ายเข้ามาอยู่ยังมีเท่าเดิมคือ ๕ หลัง ๔ หลังมีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือผ่านการทำบุญขึ้นบ้านใหม่แล้ว
มียันต์เจิมอยู่หน้าบ้าน มีเพียงหลังเดียวที่ยังไม่ได้ทำบุญ... หลังสุดซอย บ้านพี่แอนนั่นเอง
เป็นไปได้หรือไม่ ที่มีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาในบ้าน

พี่โชคตัดสินใจขับรถกลับไปที่วัด ขอเลื่อนนิมนต์เป็นอีกสามวันข้างหน้า
หลังจากนั้นก็ยกโขยงกันไปนอนที่อื่นจนถึงวันทำบุญขึ้นบ้านใหม่

วันนั้นทุกคนยุ่งกันหมด พี่โชคหาโอกาสคุยกับพี่แอนว่าถ้าทำบุญบ้านแล้วยังเกิดเรื่องแปลกๆ
ก็สัญญาว่าจะขายบ้าน พิธีเริ่มในตอนเช้า มีผู้หลักผู้ใหญ่นำพระพุทธรูปเข้าบ้าน ทำบุญเลี้ยงพระ กุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร
ยังพอมีโชคอยู่บ้าง หลังการทำบุญขึ้นบ้านใหม่ วิญญาณที่เชื่อว่าคือป้าถนอมก็ไม่มาปรากฏให้ครอบครัวพี่แอนเห็นอีกเลย


หลายวันต่อมา ขณะที่พี่แอนกำลังปิดร้าน มีข้อความจากใครคนหนึ่งส่งมา
Winnie the Bee : ไม่ดีกว่าค่าา หนูไม่กล้าแย่งงานป้าเค้าหรอก กลัว... หน้าบึ้งเชียว ^^’

เรื่องเล่าก็มีเพียงเท่านี้

___________________

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเรื่องการทำบุญขึ้นบ้านใหญ่ ตรงส่วนนี้แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล

นอกจากเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัยแล้ว การทำบุญขึ้นบ้านใหม่ยังเป็นการบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง
และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฤกษ์งามยามดีเอาที่เจ้าบ้านสะดวก หรือจะเป็นมงคลฤกษ์ก็แล้วแต่บุคคล
นิมนต์พระสงฆ์จำนวน ๕, ๗ หรือ ๙ รูปแล้วแต่สถานที่ จัดอาหารคาวหวานตามสมควร นิยมขนมไทย
จำพวก ทองหยิบ ทองหยอด ทองเอก ตามความเชื่อโบราณว่าจะหนุนให้เจ้าบ้านร่ำรวย
หลังประกอบพิธีกรรมทางศาสนาสมบูรณ์แล้ว ช่วงท้ายเจ้าบ้านและผู้ร่วมงานกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล
ให้เจ้ากรรมนายเวรแล้ว อย่าลืมอธิษฐานปันทานให้วิญญาณเร่ร่อนทั้งหลายด้วยนะครับ

พบกันใหม่โอกาสหน้า
ราตรีสวัสดิ์


เรื่องจากพันทิป เรียงร้อยเรื่องเล่า ตอน บ้านช่องห้องหลอน
เรื่องโดย สมาชิกพันทิป Rhythm in the Air
ขอขอบคุณเรื่องราวสยองและขออนุญาตนำมาเผยแพร่ ณ ที่นี้ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น