จากกรุงเทพ-เชียงใหม่ และความฝันประหลาด
ยังคงต่อเนื่องกับสมาชิกสมาชิกพันทิปหมายเลข 1001408 นักเล่าแห่งเมืองเหนือมาพร้อมกับเรื่องลี้ลับต่างๆและความเชื่อในแบบล้านา ขอขอบคุณเรื่องราวสยองและขออนุญาตนำมาเผยแพร่ ณ ที่นี้ด้วย
เมื่อวานมีโอกาสไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เดินเลือกหนังสือกันพอสมควรก็ถึงเวลานัดหมายคือ 18.00 น. โดยไปเจอกันที่รถตู้ ซึ่งมากันทั้งหมดสิบคน
ออกเดินทางเวลานี้ แน่นอนว่าเจอรถติดเต็มๆ รถค่อยๆเขยื้อนไปช้าๆ แต่ออกจะอยู่กับที่เสียมากกว่า
เล่นโทรศัพท์ก็เวียนหัว พอดีกับที่นั่งติดกับหน้าต่าง ก็เลยมองวิวข้างทางไปเรื่อยๆเพราะไม่รู้จะทำอะไร
รถแล่นช้า ทำให้ได้เห็นรายละเอียดระหว่างทางได้ถนัดตา
อู่ซ่อมรถร้าง ป้ายข้างทางยังพอมองเห็นชื่อ แต่ภายในกลับเป็นซากอู่ที่เต็มไปด้วยหญ้า
บ้านหลังหนึ่งสภาพทรุดโทรม มองเข้าไปเห็นป้านุ่งกระโจมอกหิ้วขัน คงกำลังจะไปอาบน้ำ
และหลังบ้านนั้น เป็นคนโดหรูติดป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ราคาเกินเอื้อมสำหรับคนเบี้ยน้อยหอยน้อย
รำพึงขึ้นมาในใจเล่นๆว่า ห่างกันเพียงแค่รั้วกั้นก็แตกต่างกันถึงเพียงนี้
คงมีอีกมาก ที่อยู่ต่างบ้านต่างเมือง เข้ามาดิ้นรนประกอบสัมมาอาชีพ หวังจะก่อร่างสร้างตัวในเมืองกรุง
แต่เมื่อไม่เป็นดังฝัน อายุก็มากขึ้น ก็ล้มหายตายจากไปด้วยความหวังที่ค้างคาใจ
คงกลายเป็นดวงจิตที่เฝ้ามองคู่ชีวิตและลูกหลานด้วยความเป็นห่วงกังวลอยู่กระมัง
คิดเตลิดไปไกล ก็ต้องสะดุ้งเสียงหนังฝรั่งในรถ ก็เป็นต้องหยุดความฟุ้งซ่านไปเพียงเท่านี้
ชั่วโมงกว่าๆ ถึงจะหลุดออกมาได้ ทีนี้ก็แล่นฉิวขึ้นเหนือลูกเดียว
หนังจบคนดูก็เพลีย คนขับปิดจอ คนดูก็คอพับหลับไปตามๆกัน
ผมนั่งท้ายสุด มีสามที่นั่งแต่นั่งกันสองคน สบายพอที่จะเหยียดแข้งขาได้มากหน่อย
เมื่อยขานักก็เอาขาขึ้นขัดสมาธิ แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ก็นั่งสมาธิแบบขัดสมาธิสบายๆแก้ขัดไปจนกว่าจะง่วงแล้วกัน
เวลาคงผ่านไปนานพอดู เคลิ้มหลับจนขาตกขาห้อย จึงเริ่มมีภาพปรากฎในความฝัน
ในฝันมีว่า ตัวเองกำลังเล่นกสิณสีอยู่ ทั้งๆที่ความเป็นจริงไม่เคยหัดจริงๆจังๆเลย
แต่ในฝันรู้สึกจะคล่องแคล่วมาก ทั้งย่อ ทั้งขยาย หนำซ้ำยังรู้สึกว่า เหมือนเคยทำอย่างนี้มาก่อน
สักพักภาพกสิณนั้นหายไป
แต่ปรากฎเป็นตัวเองกำลังขี่จักรยานอยู่บนทราย ไม่ไกลนักมีซุ้มประตูโบราณๆตั้งอยู่
รู้ตัวว่าจะต้องเอาจักรยานขึ้นรถกระบะ ซึ่งอยู่อีกด้านของซุ้มประตู
ถีบจักรยานเลี้ยวโค้งไปหาประตู
ก็ปรากฎมีคุณยายผมยาวคนหนึ่งมาขวางตรงมุมประตูด้านขวาใบหน้าถทึง
รู้ทันทีว่าไม่ใช่คน ตะโกนออกไปในใจว่า
หลีกไป!
ยายแกเหมือนจะหลบแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก นึกในใจชนก็ชนวะ
ก็เร่งความเร็วขึ้น ปั่นไปจนเกือบจะถึง
กลับปรากฎเป็นใครต่อใครก็ไม่รู้โผล่ขึ้นมาเต็มประตูยั้วเยี้ยไปหมด ล้นไปถึงหลังคา
รูปร่างผอมดำ ตาลึกตาโปนผมเผ้ากระเซิง ยกมือสลอน เหมือนจะดักคว้าเอาให้ได้
ตายละซี!
ในฝันนึกว่าจะเอายังไงดี ขืนไปตรงๆ มีหวังโดนคว้าเอาแน่ๆ
รถพุ่งไปไม่ทันจะถึง ภาพทั้งหมดก็มืดลง
กลับไปโผล่ที่กลางกลุ่มพวกนั้นที่อยู่อีกด้านของประตูเต็มๆ
เรายืนอยู่กับที่ แต่จักรยานหายไป
แต่เหมือนพวกเขาหลั่งไหลดาหน้าผ่านเราไปแบบไม่สนใจไยดี
รูปร่างพวกนี้ดูดีกว่าที่ประตูหน่อย แต่ดูเศร้าหมองมาก ตัวดำๆเปื้อนดินเปื้อนโคลนไม่มีเสื้อนุ่ง
เมื่อเขาทะลักมาตรงหน้าก็กลัวว่าจะถูกเหยียบเอา เลยทำฝ่ามือตั้งขึ้นเหยียดไปข้างหน้าโบกไปมานิดๆ
ประมาณว่าช่วยแหวกทางหน่อย เขาแหวกให้อย่างว่าง่าย แต่ไม่หยุดเดินสักคน ตะโกนถามว่าจะไปไหนกัน
มีเสียงมาจากทางไหนไม่รู้บอก
"จะไปกรุงเทพ"
ถามไปอีกว่า แล้วมาจากที่ไหน
เสียงตอบอย่างไร้ที่มาว่า
"เชียงตุง"
ถามกลับไปอีกว่า แล้วจะมาทำอะไร
ตอนนี้กลับไม่มีเสียงตอบมา
แต่เป็นชายวัยรุ่นโบราณ อายุราวๆ 16-17 นุ่งผ้าหยักรั้งไม่ใส่เสื้อเข้ามาหาแทน
ทำเหมือนรู้จักเรา เราเองก็รู้สึกคุ้นบอกไม่ถูก
"ไปกับเขาด้วยเหรอ"
ถามเขาไป แกก็ตอบว่า
"ไป เอาเมียมาด้วย"
"อะไรกัน อายุแค่นี้มีเมียแล้ว"
แกพยักหน้าแล้วยิ้ม เอามือมาตบไหล่เหมือนบอกว่าจะไปแล้วนะ
เราก็ผลักตอบ ปัดคอปัดขาเหมือนเล่นเชิงมวยจนแกล้มคว่ำ
ก็ไม่ว่าอะไร ได้แต่ลุกขึ้นมายิ้มๆ ปัดฝุ่นออก แล้วเดินไปกับฝูงชน
แล้วภาพเหตุการณ์ทั้งหมดก็หายไป
สะดุ้งตื่นเพราะรถตกหลุม มองไปนอกหน้าต่างพอดีฟ้ากำลังเริ่มสาง ถึงบิ๊กซีลำพูนแล้ว ใกล้จะถึงเชียงใหม่เต็มที
ทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภาพในฝันนั้นยังชัดเจนเหมือนเกิดขึ้นจริงๆ
หรือว่าที่มาให้เห็นในฝัน เพราะคำรำพึงเล่นๆในใจเราเองเมื่อหัวค่ำกันนะ
เรื่องจากพันทิป จากกรุงเทพ-เชียงใหม่ และความฝันประหลาด
เรื่องโดย สมาชิกพันทิปหมายเลข 1001408
Post a Comment