เรื่อง-เล่า-หลอน ตอน เจอดีกับตัว
สวัสดีน้องน้องพี่แม่พ่อทุกคนด้วยนะครับ ก่อนอื่นเลยผมขอให้เพื่อนๆ ใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ เรื่องที่ผมจะนำมาเล่าส่วนใหญ่ถ้าไม่เจอกับตัวก็จะเป็นคนรอบข้างเสียส่วนใหญ่ ส่วนตัวผมไม่กลัวผีครับ แต่เป็นคนเชื่อในเรื่องวิญญาณ สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง
----------
ในช่วงก่อนจบมหาลัยปี 2 ผมได้รับมอบหมายให้ทำงานและโปรเจคต์จำนวนมาก ถือเป็นฤกษ์งามยามดีก่อนขึ้นปี 3 มันมากเสียจนผมต้องทำงานข้ามวันข้ามคืน ปรกติผมเป็นคนนอนดึกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว คืนนั้นผมก็กำลังพิมพ์งานไปตามเรื่องตามราว หากพิมพ์ไปนานๆ ความเหนื่อยล้าจากช่วงกลางวันได้ปะปนเข้ามากับความง่วงในตอนกลางคืน ผมจึงเดินไปชงโกโก้ในห้องครัวเพื่อแก้ง่วง
ในขณะที่ผมกำลังเดินไปชงโกโก้อยู่นั้น ผมได้ยินเสียงเหมือนใครบางคนพูดงึมงำ ตอนแรกผมมั้นใจว่ามันหูฝาด เพราะด้านล่างของบ้านมีผมแค่คนเดียว พอผมชงโกโก้เสร็จผมก็กำลังจะกลับไปที่โต๊ะคอมเพื่อพิมพ์งานต่อ แต่ทว่าหางตาของผมกลับไปโฉบเฉี่ยวกับอะไรบางอย่าง ผมสังหรณ์ว่าน่าจะมีคนแอบเข้ามาในบ้าน เพราะในช่วงกลางวันแม่ของผมเล่าให้ฟังว่า มีคนงานพม่าปีนรั้วของบ้านตรงข้าม ซึ่งคนงานคนนั้นมาทำหน้าที่ตัดต้นไม้ตรงหลังบ้าน แม่ของผมยังบอกอีกว่า คนงานคนนั้นกระโดดเข้าไปในบ้านของเพื่อนบ้านของผมที่ไม่อยู่บ้าน ด้วยความกลัวว่าจะมีโจรขึ้นบ้าน เพราะช่วงนี้ข่าวโจรขึ้นบ้านออกกันโครมคราม
ผมจึงเดินขึ้นบ้านไปปลุกพ่อ เมื่อพ่อผมรู้เรื่อง เขาจึงสลัดอาการสะลึมสะลือลงมาจากบ้าน ตรงไปหยิบมีดดาบที่เขาพึ่งสั่งตีมา พ่อของผมเป็นคนชอบสะสมดาบ ดังนั้นเพื่อกันไว้อีกทบ ผมก็หยิบดาบของพ่อผมไปด้วย ผมไม่กลัวหากโจรนั่นมันมีมีดง่อยๆ แค่เล่มเดียว แต่ผมกลัวว่ามันจะมีปืนมากกว่า แต่อีกใจก็บอกว่ามันคงเป็นโจรกระจอกที่ไม่น่ามีปัญญาซื้อปืน
ผมและพ่อเดินไปตรงข้างบ้าน ที่ที่แม่ของผมบอกว่ามีคนงานพม่ากระโดดลงบ้านเพื่อนบ้าน เมื่อผมและพ่อส่องไฟฉายดู ปรากฏว่าผมและพ่อต่างตกใจกันมาก มันมีรอยเท้าของคนที่เปื้อนเหมือนคราบดิน รอยเท้ามันไปหยุดอยู่ที่สวนของผม พ่อของผมบอกให้ผมระวังตัว ผมเริ่มเหงื่อออกเพราะรู้สึกตื่นเต้นและกลัวเล็กน้อย เมื่อพ่อผมส่องไฟไป ปรากฏว่าไม่พบอะไรนอกจากความมืดและเหล่าต้นไม้ที่พ่อผมปลูก คืนนั้นผมและพ่อเดินสำรวจรอบบ้านอีกหนึ่งครั้ง ก่อนที่พ่อของผมจะให้ผมรีบเข้านอน โดยก่อนผมขึ้นพ่อก็ให้ผมล็อคประตูและหน้าต่างทุกบาน ผมไล่ล็อคจนครบทุกบาน ก่อนที่จะขึ้นบ้านนอน
วันต่อมาอาจารย์ไลน์มาบอกว่าวันนี้งดการเรียนการสอน ผมจึงนอนต่อลากยาวไปจนถึงเก้าโมง ผมตื่นมาพ่อผมก็ไปทำงานแล้ว ผมจึงลงไปทำหน้าที่ประจำวัน นั่นคือรดน้ำต้นไม้ ผมเดินไปข้างบ้านตรงที่เกิดเรื่องขึ้นเมื่อคืน ปรากฏว่ารอยเท้าพวกนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีคราบดินหรือคราบอะไรทั้งนั้น ตอนแรกผมก็คิดว่าพ่อผมคงจะล้างไปแล้ว แต่ผมสังเกตดูก็พบว่ามันไม่มีน้ำสักหยด มันเป็นพื้นแห้งๆ ไม่มีร่องรอยความชื้นแต่อย่างใด ผมพยายามเข้าข้างตัวเองว่าไม่มีอะไรจึงรดน้ำต้นไม้ต่อไป
คืนนั้นเป็นคืนที่ค่อนข้างเปลี่ยว เพราะไฟถนนในซอยของผมมันไม่เปิด ไม่รู้ว่าไฟเสียหรืออะไร แต่ที่แน่ๆ ไฟมันกระพริบราวกับไฟในหนังผี ขณะนั้นผมก็กำลังแก้ไขไฟล์งานเพื่อจะส่งในวันรุ่งขึ้น ปรากฏว่าคราวนี้ผมได้ยินเสียงเหมือนคนเดินรอบบ้านอีกครั้ง ผมคิดว่าผมคงหูฝาด แต่ผมก็พึ่งคิดได้ว่าเมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้น ผมจึงรีบไปตามพ่อทันที พ่อผมก็ไม่รอช้าที่จะรีบโทรแจ้งตำรวจไว้ก่อน หลังจากนั้นพ่อกับผมก็เข้าสเต็ปเดิม หยิบดาบมาคนละเล่มและปรี่ออกไปข้างนอก
คราวนี้มันไม่เหมือนครั้งก่อน ผมกับพ่อแทบไม่เชื่อสายตาของตนเอง มีชายรูปร่างสูงใหญ่ แขนขายาวกว่าคนปรกติ กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ที่สวนของบ้าน พ่อผมส่องไฟฉายไปปรากฏรูปร่างผิวสีดำหนังหุ้มกระดูก สวมเสื้อผ้าขาดวิ่น แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้และรีบกระโดดข้ามรั้วไป
ในเวลาต่อมาตำรวจและยามได้มาที่บ้านของผม ตำรวจได้สอบถามรายละเอียดของคนร้าย ยามประจำหมู่บ้านคนหนึ่งของผมก็พูดแทรกขึ้นมา เขาบอกว่าไม่นานมานี้มีชายแก่คนหนึ่งน่าจะเป็นขอทานหรือไม่ก็คนไร้บ้าน แกมักจะมาขอข้าวยามกิน ซึ่งยามก็ใจดีให้ข้าวแกกินเป็นประจำ เพราะเขาก็สงสารลุงแกที่ต้องมาเจอกับชีวิตแบบนี้ แกไม่มีอะไรเลยนอกจากเสื้อผ้าขาดวิ่น รองเท้าดีๆ แกก็ไม่มี หลังจากนั้นไม่นานลุงคนนี้แกก็ถูกรถชนเสียชีวิตจากพวกเด็กแว้นขับรถซิ่ง พ่อกับผมได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต่อึ้งจนพูดไม่ออก แต่กลับกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคิดว่าเป็นการบุกรุกเข้าบ้านในยามวิกาล ตำรวจไม่ปักใจเชื่อจึงขอทำการตรวจตรารอบบ้านและบริเวณโดยรอบ จนแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดปรกติจึงเดินทางกลับและก็ไม่ลืมที่จะรับเรื่องไว้
ในเวลาต่อมาผมและครอบครัวก็ได้ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับคนที่จากไปและตาลุงไร้บ้านคนนั้น ผมและพ่อก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนั้นอีกเลย
----------
เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับเรื่องราวนี้ ผมยังไม่สามารถหาคำตอบได้เลยว่าทุกวันนี้ตกลงนั่นมันเป็นผีจริงหรือไม่ สิ่งที่ผมกลัวคือคนเรามากกว่าครับ วิญญาณอย่างมากก็แค่ปรากฏกายให้เราเห็นหรือมาในแบบพลังงาน แต่ถ้าคนนี่สิครับ หึหึ ร้อยทั้งร้อยก็ยังน่ากลัวมากกว่าผีอยู่ดีครับ สำหรับกระทู้นี้ก็หมดเพียงเท่านี้ครับ ผมขอลาไปก่อน สวัสดีและราตรีสวัสด์ครับ(หากเพื่อนๆ อ่านกระทู้นี้ตอนกลางคืนครับ)...
เรื่องจากพันทิป เรื่อง-เล่า-หลอน ตอน เจอดีกับตัว
เรื่องโดย สมาชิกพันทิป Tumbleweed
ขอขอบคุณเรื่องราวสยองและขออนุญาตนำมาเผยแพร่ ณ ที่นี้ด้วย
Post a Comment