เด็ก2ท่อน


     จากประสบการณ์จริงต่อเนื่องกับครูสาว เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากเรื่อง "หนูขออยู่ด้วย" และ "กดติดวิญญาณกับสิ่งที่ตามมา" กลับมาครั้งนี้เป็นเรื่องที่ทำงานของเธอโรงเรียนนั้นเอง เหตุการณ์ที่เธอเจอผีกลางวันแสกๆ จะเป็นอย่างไรนั้นลองไปติดตามกันเลยครับ

     ช่วงบ่ายวันนั้นเรามีคาบว่างต่อกันสองชั่วโมงจนโรงเรียนเลิก เราเลยเอาหนังสือการ์ตูนมาอ่านค่ะ  เป็นการ์ตูนเกี่ยวกับผีญี่ปุ่น จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร แต่นางเอกเป็นผีที่ตายตั้งแต่สมัยสงครามโลกค่ะ เนื้อหาไม่น่ากลัวแต่ออกจะเศร้าๆ เราอ่านไปได้สักพักก็เกิดอาการตาปรือ คล้ายๆจะเป็นโรคขี้เกียจค่ะ ว่าแล้วคุณครูก็ถือโอกาสเลื้อยนอนมันตรงโต๊ะนั่นแหล่ะค่ะ

หลังจากฟุบไปได้ไม่นานเริ่มหนักๆหัว อาการครึ่งหลับครึ่งตื่นคล้ายๆขยับตัวไม่ได้ เราไม่ได้นึกถึงผีนะคะ เพราะเราเป็นแบบนี้บ่อยๆ เหมือนเวลาที่สมองตื่นแล้วแต่ร่างกายยังไม่ตื่นน่ะค่ะ ประมาณนั้น

หูเราได้ยินเสียงอื้ออึง เราเลยคิดว่าเดี๋ยวนอนอีกสักแป๊บก็หาย แต่ไม่ใช่ค่ะ! มันมีเสียงกรุ๊งกริ๊งดังขึ้นเบาๆ เสียงเหมือนกระพรวนข้อเท้าเด็กค่ะ คล้ายๆมีเด็กวิ่งวนไปวนมาอยู่ในห้องเรียนของเรา เมื่อเราลืมตาขึ้นมาก็เห็นเป็นขาเด็กเล็กๆวิ่งวนอยู่ในห้องเรา แต่เรื่องมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนะคะคุณผู้อ่านขา ไอ้ขาเด็กที่ว่าเนี่ย มันมีแค่ครึ่งตัว!!!

ใช่ค่ะ!! ครึ่งตัว ครึ่งตัวล่าง นุ่งโจงกระเบนสีเหลือง!!! เหนือโจงกระเบนขึ้นมามีคราบเลือดสีคล้ำๆ แต่ไม่มีตัว มาแค่ครึ่งตัวค่ะ????

ทายสิคะว่าเราทำไงต่อ???

เราสะลึมสะลือดุไปว่า “ไปเล่นข้างนอกไปลูกไป ครูจะนอน”

ขุ่นพระ!!! คือเราตอบไปแบบนั้นแล้วเราก็หลับไปยาวเลยค่ะ มาตื่นอีกทีตอนเสียงสัญญาณเลิกเรียนดังขึ้น เด็กๆขึ้นมาทำเวร เราเลยสรุปเอาว่าเราคงฝันไป

และเราเชื่อมาตลอดว่าเราฝันไป เพราะไม่ปรากฏว่าเราเห็นอะไรแบบนี้อีกเลย จนกระทั่งเวลาผ่านไปจนถึงปลายเทอมของเทอมสอง

มีเด็กผู้ชายคนนึงวิ่งตะโกนลงมาจากตึก ตะโกนเสียงดังเหมือนถูกผีหลอก ช่วงนั้นเด็กนักเรียนสอบเสร็จแล้ว แต่จะมีนักเรียนบางส่วนที่ยังมาโรงเรียนอยู่เพราะยังส่งงานไม่ครบ

“ครูบี ครูบีคร้าบบบบ” ตะโกนพลางหอบไปด้วย

“เป็นอะไรของแกเนี่ย วิ่งตึงตังเดี๋ยวชั้นจะตีให้น่องลาย”

“ครูบี ผมโดนผีหลอก”

“บ้า! แกไปโดนมาที่ไหนธนเดช”

“โดนที่ห้องครูนั่นแหล่ะ โคตรหลอนเลย”

“เอ้า เรื่องอะไรมาโดนที่ห้องชั้น ห้องชั้นไม่มีผี”

“มีสิครับ ก็ผมเพิ่งโดนหลอกมาเนี่ย”

“ผีอะไรของแก”

“มีเด็กอยู่ในห้องครับครู”

“แล้ว??”

“ผมเอางานของครูขึ้นไปส่งบนโต๊ะ แล้วพอจะเอางานไปวางไว้ผมเห็นเด็กจ้องหน้าผมครับครู เด็กผมจุก จ้องตาแป๋วเลย”

“แล้วรู้ได้ไงว่าเป็นผี ผีที่ไหนจะมาหลอกกลางวัน”

“ครู...ไอ้เด็กคนนี้มันมีแค่ครึ่งตัวบนเองนะครับ” ใจเราหายวาบ นึกไปถึงวันที่เราเจอขาเด็กมาวิ่งอยู่ในห้อง แต่เราไม่ได้แสดงอาการอะไรให้เด็กรู้ตัวนะคะ เราก็ปลอบไปว่าคงจะตาฝาด ห้องครูมีพระองค์เบ้อเริ่มจะมีผีไปได้ยังไง

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นึกแล้วก็ยังเสียวสันหลังไม่หาย ยิ่งเวลาที่ต้องอยู่ในห้องเรียนคนเดียวก็ยังอดใจแป้วไม่ได้  ได้แต่พูดกับลมกับแล้งไปว่าอย่ามาแหย่กันเลย

จนวันนึงมีเหตุการณ์ที่ทำให้เรื่องมันกระจ่างขึ้น วันนั้นเรานั่งเตรียมงานอะไรซักอย่างกันจนเย็น พอแดดร่มลมตก บรรยากาศเป็นใจให้อยากเล่าเรื่องผี บรรดาครูหนุ่มๆสาวๆก็ล้อมวงกันเลยค่ะ พอถึงตาเราเราก็เล่าเรื่องนี้แหล่ะ พอเล่าจบก็มีพี่คนนึงเค้าควานหาถุงอะไรซักอย่างในกระเป๋าแล้วยื่นมาให้เราดู

ถุงนี้เป็นถุงผ้าสักหลาดสีแดง เหมือนถุงร้านทองค่ะ พอเปิดออกมาเราแทบกรี๊ด

     ข้างในมีตุ๊กตาปูนปั้นรูปเด็กผมจุก แต่มันหักเป็นสองท่อนตั้งแต่ช่วงเอวลงมา เหมือนสิ่งที่เราเจอในห้องเปี๊ยบเลยค่ะ

“ลูกพี่เองแหล่ะ พี่เลี้ยงเค้าไว้นานแล้ว แต่ไม่มีใครเคยเจอ สงสัยเค้าคงชอบหนูเค้าเลยไปเล่นด้วย

“เล่นแบบนี้ก็ไม่ไหวนะคะพี่กั้ง!!!”

ไม่มีความคิดเห็น