อยู่ด้วยรักและผูกพัน ตอน4
"อยู่ด้วยรักและผูกพัน ตอน4" ประสบการณ์จริงของสมาชิกพันทิปชื่อว่า TharaJF ที่เธอรู้สึกแปลกๆที่น้องชายของเธอนั้น บางครั้งมีสองบุคลิกในคนเดียว ซึ่งเธอเชื่อว่าอีกหนึ่งบุคลิกนั้นอาจจะเป็นวิญญาณก็เป็นได้ เธอใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมานานและหลากหลายเหตุการณ์ที่เธอนำเสนอ ซึ่งดำเนินมาถึงตอนที่4แล้ว ลองมาฟังเรื่องราวต่อไปนี้ ขอขอบคุณประสบการณ์สยองจาก สมาชิกพันทิปชื่อว่า TharaJFไว้ ณ ที่นี้ด้วย สำหรับคนที่พลาด กดที่ลิ้งก์ได้เลย อยู่ด้วยรักและผูกพันตอน1 ,อยู่ด้วยรักและผูกพันตอน2 ,อยู่ด้วยรักและผูกพันตอน3
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนเราอยู่ที่จ.น่าน ย่าของเรามีลูก 8 คน น้าเป็นคนสุดท้องเสียชีวิตไปแล้วเพราะป่วย และมีน้าเขยอีก 1 คน ที่เสียชีวิตเพราะขับรถตกเหว ทั้ง 2 เสียชีวิตไล่เลี่ยกัน งานของน้ายังไม่ทันเสร็จดี น้าเขยก็มาประสบอุบัติเหตุ บ้านของเราช่วงนั้นจึงมีแต่งานสีดำ เสียใจกับงานแรกยังไม่ทันดี
ก็มาเสียใจกับงานที่สองอีก
ระหว่างที่จัดงานสีดำของน้ากับน้าเขย ญาติพี่น้องทุกคนก็จะชอบมานอนรวมตัวกันที่บ้านย่า (บ้านที่เจอผู้หญิงนั่งบนปากโอ่งน่ะค่ะ^^)
เพื่อไม่ให้ย่าเหงาที่สูญเสียน้าไป ส่วนครอบครัวของน้าสาวที่เสียสามีไปก็มักจะมานอนบ้านย่าเหมือนกันเพราะว่าทำใจไม่ได้ถ้านอนที่บ้านตัวเองก็จะนึกถึงภาพเก่า ๆ
เรื่องจึงมาเกิดเวลาที่ทุกคนมานอนรวมกันที่บ้านย่าและมีพยานรับรู้กับสิ่งแปลก ๆ ที่มองไม่เห็นหลายคนทีเดียว ด้วยความเชื่อว่าคนที่จากไปจะกลับมาหาคนที่เขารัก ทีนี้คนที่เขารักก็มารวมตัวนอนด้วยกัน เขาจึงมาทีเดียวได้นก 2 ตัว T T
คืนแรกที่เขากลับมาหาคนที่เขารัก เริ่มจากน้าเราก่อน บ้านเดิมของน้าเราจะปลูกคนละหลังกับบ้านย่า แต่บริเวณใกล้เคียงกัน หลังเสร็จจากงานศพน้า ทุกคนก็มาหารือกันว่าคืนนี้จะนอนบ้านไหนดี ย่าเสนอว่านอนบ้านน้าที่เสียเถอะย่าคิดถึง สรุปคืนนั้นนอนบ้านน้าที่เสียกัน ย่านอนบนเตียงน้าที่เสีย ส่วนเรา น้องชาย พ่อแม่ และญาติคนอื่น ๆ นอนกลางบ้าน เป็นบ้านชั้นเดียว เปิดประตูหน้าบ้านมาปุ๊ปก็เจอมุ้งใหญ่ ๆ พร้อมคนนอนเรียงกันเป็นตับ
กลางดึกหลังจากที่ทุกคนเหน็ดเหนื่อยจากการจัดงานก็หลับกันไปด้วยความอ่อนเพลีย แต่มีอยู่หนึ่งคนนั้นไซร้ ที่ลุกมานั่งมองประตูไม่ยอมนอน
พ่อเรานั่นเอง!! แล้วเราก็สะกิดน้องชายให้มองพ่อ พ่อสนิทกับน้าที่เสียไปมากรักกันมาก เราก็คิดว่าพ่อคงลุกมานั่งทำใจที่เสียน้าไป เรากับน้องก็นอนมองดูพ่ออย่างเงียบ ๆ
พ่อนั่งแล้วมองเพ่งไปที่ประตูแต่ไม่พูดอะไร เราก็เริ่มกลัวบีบแขนน้องชายแน่นเลย พ่อก็จ้องประตูอย่างนั้นสักพักก็ล้มตัวนอน แล้วประตูก็ดังครึก ๆ เหมือนมีคนมาเขย่าประตู พ่อก็สะดุ้งลุกขึ้นมานั่งจ้องประตูอีก เรากับน้องที่นอนสังเกตุการณ์อยู่ก็สะดุ้งลุกขึ้นมานั่ง แล้วกระซิบถามพ่อว่า
"พ่อ พ่อ เสียงอะไรอะ" พ่อบอกว่า "ได้ยินมาหลายรอบแล้ว ประตูเขย่าเลยลุกมาดู" เราหันไปมองหน้าน้องชายแล้วน้องชายก็บอกว่า "พ่อ พ่อ น้ามา"
เรากับพ่อสตั๊นไป 2 วิ แล้วหันมามองหน้ากัน เราอุทานว่า "เอาแล้วไง ข้างนอกน้า แล้วข้างในข้าง ๆ หนูนี่คืออะไร?" น้องชายก็ยิ้มแป้นแล้นตามเคยเป็นอันรู้กัน
ประตูนิ่ง!! บรรยากาศเงียบ ขอบอกว่าเงียบสงัดจริง ๆ เสียงกิ่งไม้ใบหญ้าแห้งที่ปลิวตกพื้นยังได้ยินเลย คือบ้านเนี่ยอยู่ริมเขา หลังบ้านเป็นภูเขา หน้าบ้านเป็นเนินเหว ชีวิตสาวชาวดอยก็งี้...
เรา 3 คน นั่งเพ่งไปที่ประตูบ้าน มันไม่มีการขยับหรือไหวติงใด ๆ ทั้งสิ้น สิ้นเสียงใบไม้แห้งตก กึก ก็มีเสียงเหยียบใบไม้แห้งดัง กร่อบ ตามมาพ่อพูดว่า "จะเข้าบ้านหรอ เข้ามาเลยอยู่ในบ้านกันทุกคน มาสิ มาเลย" ห๊ะ!! พ่อ อย่างนี้ก็ได้หรา เรียกน้าเข้าบ้าน ไม่ทันขาดคำประตูก็ดัง ครึก ๆ คือน้องบอกว่าน้าเขย่าประตูอยู่หน้าบ้าน เขย่าจะเข้าบ้านเพราะพ่อเรียกเขามา แต่เข้าไม่ได้ น้องบอกว่าน้องไปยืนคุยกับน้าอยู่หน้าบ้านบอกว่าไม่ได้จุดธูปขอเจ้าที่ น้าเข้าไม่ได้หรอก แต่ถ้าเข้าไปคนอื่นก็จะตกใจกลัวกันหมดนะ น้าเลยบอกว่าจะมาแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวแล้วจะไป เขาไม่ให้มาแล้ว นี่คือที่น้องมาเล่าให้ฟังภายหลังนะคะ แต่เหตุการณ์ตอนนั้นคือ พอประตูเขย่าแล้วหยุดไปสักพัก พวกเราเลยนอนกัน แล้วก็ฝันคล้ายกันกับคนอื่นที่นอน มาเล่าให้ฟังกันตอนเช้า คือน้ามาหาที่บ้านหลังนี้ แล้วเดินมาดูหน้าทุกคนที่นอน มองแล้วก็ยิ้ม แล้วก็เดินออกจากบ้านไป นี่คือที่ทุกคนมาเล่ากันตอนเช้า
น้าเราตอนมีชีวิตเป็นคนเรียบร้อย ขี้เล่น สนุกสนานน่ารักเชียว พอตอนมาหาก็มาแบบเรียบง่ายไม่ตื่นเต้นอะไร ผิดกับน้าเขย ที่ตอนมีชีวิตเป็นคนขี้เมา ชอบกินเหล้าเป็นชีวิตจิตใจถ้าวันไหนไม่ได้กินก็จะมือสั่น หงุดหงิด แกตายก็เพราะเมาแล้วขับรถตกเหวนี่แหละค่ะ พอเสร็จจากงานศพ คืนแรกครอบครัวของน้าสาวที่เป็นแฟนกับน้าเขยเนี่ยก็มานอนบ้านย่า ย่ากับน้าสาวนอนบนเตียงกางมุ้งห้องเดียวกัน ลูกของน้าสาว 2 คน มานอนเบียดกับเราห้องเรา และญาติคนอื่น ๆ ก็นอนกลางบ้านเหมือนเดิม บ้านย่ามี 2 ชั้น ห้องนอนอยู่ข้างบน ปิดประตูใส่กลอนเรียบร้อย แล้วน้าก็มา.........
น้ากับย่านอนกางมุ้งที่ห้องย่า น้าเล่าว่านอนตะแคงหันหน้าเข้าหาย่า แล้วรู้สึกมีลมหายใจรดต้นคอ น้าสาวเสียวสันหลังวูบนอนตัวเกร็งข่มตาหลับ ทีนี้ก็มาอีกลมหายใจรดต้นคอพร้อมกลิ่นฉุนเหล้า น้ารู้เลยว่าน้าเขยมาหา เลยลืมตาแล้วพูดว่า "ไปเถอะอย่ามากวนเลยนะ ไม่ต้องเป็นห่วงกัน ฉันจะทำบุญไปให้" แล้วเสียงก็เงียบไป ในเมื่อน้าเขยมาหาเมียเขาทีนี้เขาจะไปหาใครล่ะค้า ลูกสาวอีก 2 คนสิค้า นางทั้ง 2 นั้น นอนบนเตียงเดียวกับเราเลยค่า เรานอนชิดกำแพงด้านในแล้วนาง 2 คนก็นอนเรียง คนที่นอนริมสุดจะอยู่ประตูทางเข้าที่สุด พอเปิดประตูมาปุ๊ปเจอคนนอนริมปั๊บ
ระหว่างที่นอนหลับนั้น เราได้ยินเสียงคนคราง ฮือ ฮือ เราก็ขมวดคิ้วแต่หลับตาอยู่นะ ไม่กล้าลืมตา เสียงมาอีก ฮือ ฮือ เป็นเสียงผู้ชาย เสียงแหบพร่า เราหรี่ตาขึ้นมาดู จังหวะเดียวกันนั้นมุ้งฝั่งน้องที่นอนประตูก็ถูกเปิดขึ้น เห็นกับตาจะจะเลยค่ะ เหมือนคนจับมุ้งแล้วเปิดมาดู แต่นี่ไม่เห็นว่าใครเปิด แต่เห็นมีเงาจับมุ้งแล้วค่อย ๆ เปิดมุ้งออก เงาดำ ๆ ก้มหน้ามองดูน้องสาวที่นอนริมสุด ในห้องตอนนั้นไม่มืดเท่าไหร่ มีไฟทางสลัว ๆ รอดเข้ามา เงานั้นไม่ได้เอาหัวลอดมาในมุ้งนะคะ แค่ถกมุ้งขึ้นแล้วก้มหน้ามองดูอยู่นอกมุ้ง เราก็ตัวเกร็งใจเต้นรัว
ทันใดนั้น!!! เงาก็หายพรึ่บมุ้งก็ปลิวลงมา หายพรึ่บไปกับตาเลยค่ะ เราก็เฮ้ย!!! ผีหลอกหรอวะเนี่ย ลุกขึ้นมาเขย่าแขนน้องอีก 2 คน ให้ตื่นขึ้นมาแล้วเล่าให้ฟัง น้องสาวก็บอกว่า รู้สึกเหมือนกันพี่ หนูรู้สึกเหมือนมีคนมาจ้องหน้า แล้วก็ได้กลิ่นเหล้าด้วย พ่อหนูมาหรือเปล่า พูดจบนางก็ร้องไห้ เราก็ปลอบใจแล้วก็พากันนอนต่อ
ทีนี้ทิ้งช่วงอีกสักชม.ก็ได้ยินเสียงมอไซสตาร์ทอยู่ข้างล่างแต่สตาร์ทไม่ติด แท่ด แท่ด แท่ด เสียงประมาณนี้แล้วเงียบไป แล้วตามด้วยเสียงเก้าอี้ไม้รับแขกข้างล่างดังครืด ๆ เหมือนมีคนมาลาก เวลาลากเก้าอี้หรือโต๊ะหนัก ๆ คนเดียว มันจะมีเสียงครืด อื๊ด ๆ เสียดสีกับพื้น เสียงนี่ดังรอบบ้านชั้นล่างเลยค่ะ แล้วทิ้งทวนด้วยเสียงสตาร์ทมอไซ แท่ด แท่ด อีกรอบพร้อมเสียงหมาหอนอีกระลอก แล้วเงียบไป
ตอนเช้าย่าตื่นมาคนแรกลงมาข้างล่างถึงกับร้อง อัยยะ!! ไม่ใช่ค่ะ ร้องเรียกลูกหลานให้ตื่นเพราะชุดเก้าอี้รับแขกมันเลื่อนออกจากที่ ขยับอยู่คนละมุม ย่าเลยถามว่าใครลงมาไหม๊ ทุกคนตอบว่าไม่มี เราเลยบอกว่าเมื่อคืนหนูได้ยินเสียงแบบนี้ ๆ ก็เล่าไป น้าสาวอีกคนก็บอกว่าได้ยินเหมือนกัน ย่าเลยสันนิษฐานว่าน้าเขยน่าจะมาหาเมียหาลูกเขานั่นล่ะ ย่าเลยเอาสายสิญจ์มาล้อมรอบบ้านไว้เลย
ลืมเล่าไปว่า ตอนน้าเขยเสียชีวิตพ่อแม่กับน้องของเราอยู่กทม.นะคะ มีช่วงหนึ่งที่เราไปเรียนอยู่เหนือ ไปอยู่กับปู่ย่าค่ะ พ่อแม่และน้องชายก็ขับรถตามมางานศพวันหลัง
คืนที่สองมีสมาชิกใหม่มานอนเพิ่มคือพ่อแม่และน้องชาย เราเลือกให้น้องชายมานอนในห้องเดียวกับเรา ส่วนพ่อกับแม่นอนรวมกับญาติคนอื่นข้างนอก และแล้วน้าก็มาอีกค่ะ ทีนี้มาครบแบบ Full Option รูปรสกลิ่นเสียงจัดเต็ม
น้องชายเราปูที่นอนบนพื้นข้างเตียงเรานี่ล่ะค่ะ เสียงสตาร์ทมอไซมาอีกละ แท่ด แท่ด นึกในใจ มอไซใครวะมาเสียแล้วสตาร์ทหน้าบ้านเราทุกที >< แท่ด แท่ด ตามด้วยเสียงเคาะประตู หน้าต่าง คือส่วนไหนที่เป็นไม้มีเสียงเคาะหมดเลยค่ะ ตึง ตึง ปัง ปัง ก่อก แก่ก เขย่าประตู เสียงฮือ ฮือ ครางในลำคอ หาต้นเสียงไม่เจอแต่ได้ยินชัดมากกกกกกก
เราลุกมาสะกิดน้องชายถามว่าได้ยินเสียงหรือเปล่า น้องชายบอกว่าได้ยินสิอยู่ข้างล่างนี่ หนูว่าจะลงไปคุยด้วยสักหน่อย รำคาญ
ห่ะ นี่น้องเรามาแฝงแล้วบอกแบบนี้ เราก็ถามว่าจะลงไปยังไงอะ เอาน้องชายพี่ลงไปด้วยหรอ นางบอกว่าไม่หรอกเดี๋ยวหนูไปเอง แล้วน้องชายก็หลับตาพริ้ม เราก็นั่งจ้องหน้าน้องชาย คือบางทีก็อยากรู้ว่านี่เราเป็นบ้าหรือน้องเป็นบ้าวะ แล้วน้องชายเราก็กรนใส่หน้ามาหนึ่งที เอ่อ คือ แกออกไปหาน้าเขยแล้วใช่มะ แล้วที่อยู่ตรงหน้าชั้นนี่คือน้องแท้ ๆ ชั้นใช่มะ มันนอนกรนใส่หน้าชั้นเนี่ย
เราก็ลุกมานั่งบนเตียงเราเหมือนเดิมรอฟังเสียงอย่างใจจดใจจ่อว่าจะมีอะไร แล้วก็มีเสียงผู้ชายตะโกนดัง ๆ ว่า "ก รู ไม่ไป" เสียงชัดมาก น้องสาวอีก 2 คนยังสะดุ้งตื่นเลย เราทำปากจุ๊ ๆ บอกอย่าเพิ่งพูด แล้วเราก็ลุกจากเตียงจะไปหาพ่อกับแม่ที่นอนข้างนอก เราย่องไปแล้วกระโดดเข้าตรงกลางระหว่างพ่อกับแม่ พ่อแม่ก็ตื่นถามว่ามานอนเบียดทำไม เราบอกว่าน้าเขยมาอยู่ข้างล่างหนูกลัว แม่บอกว่าก็ลูกเมียเขาอยู่ที่นี่ เขาก็ต้องมาลูกเมียเขาสิ
ลืมบอกไปว่าบ้านย่าข้างล่างเป็นปูนที่ต่อเติมใหม่ข้างบนเป็นไม้ แผ่นพื้นไม้ก็ยังเป็นร่อง ๆ ที่ก้มมองลงไปเห็นข้างล่างชัดแจ๋วเลย คืนนั้นเรานอนไม่หลับแล้ว เลยผุดลุกผุดนั่งอยู่ข้างพ่อแม่ ส่วนน้องนางที่อยุ่ในห้องเราน่ะหรอ หึ เราชักดาบปล่อยให้นางอยู่กัน 2 คน ไม่บอกด้วยว่าเกิดไรขึ้น เพราะเราได้ยินเสียงคนตะโกนว่าก รูไม่ไปดังมาก เราคิดว่าเขาคงจะแวะมาหาน้องนางทั้งสองอีกแน่ เราเลยออกมาดีกว่า แหะ ๆ
พอเราทิ้งน้องนางทั้ง 2 ไว้ในห้อง เผื่อพ่อของเค้าจะแวะมาหาไรงี้ เราก็ลองมองลอดระหว่างพื้นไม้จากชั้นบน กลัวก็กลัวแต่อยากรู้ว่าจะเห็นอะไรไหม เราไม่เห็นอะไรเลยค่ะ นอกจากบ้านโล่ง ๆ แต่ที่เอะใจคือชุดรับแขกถูกเลื่อนอีกแล้ว มันเปลี่ยนที่ค่ะ มันถูกเลื่อนออกมาจากที่เคยวางแนบกับกำแพง แล้วก็ได้สินสตาร์ทมอไซ แท่ด แท่ด เราก็สะดุ้งแล้วมุดเข้าไปคลุมโปงกับแม่แล้วก็ได้ยินเสียงมอไซเร่งเครื่อง แปร๊น โคร๊ม แล้วเงียบหายไป เราก็คิดว่า เอ้อ สงสัยเสียงมอไซที่ได้ยินทุกคืนคงเป็นเด็กแว๊นนี่แหละ แหม ชนกับอะไรเข้าให้ล่ะ หายซ่าเลยสิทีเนี๊ย แล้วเราก็หลับไป
เช้ามาเราก็ไปบอกย่าว่าเมื่อคืนมีคนขี่มอไซล้มอยู่แถวหน้าบ้านเราด้วย ย่าก็ไปดู ปรากฏว่าไม่มีร่องรอยอะไรเลย เราก็บอกว่าได้ยินจริง ๆ นะ เสียงสตาร์ทรถ เร่งเครื่องแล้วก็ชน เสียงดังมาก ทุกคนก็บอกไม่ได้ยินเสียงรถเลย ได้ยินแต่เสียงลากโต๊ะ เก้าอี้อยู่ข้างล่าง แต่คิดว่าน้าเขยคงมาหาเลยกลั้นใจนอนกันต่อ เราก็แปลกใจแล้วรถมอไซใครมาชน ชนดังขนาดนั้นไม่มีใครได้ยิน แถมไม่มีรอยไถลของรถเลย
มาถึงบางอ้อ ตอนไปส่งน้องนางทั้ง 2 กลับบ้านไปเอาเสื้อผ้า เห็นมอไซค์คันเก่า ๆ เละ ๆ เป็นซาก จอดพิงเสาบ้านไว้ใต้ถุน เราก็ถามว่าของใคร น้องสาวบอกของพ่อ คันนี้แหละที่พ่อเอาไปขี่ตกเหว ตอนแรกว่าจะขายแต่พ่อรักมากคงไม่ขายแล้วแหละ
เราก็เลยสันนิษฐานเอาว่า น้าเขยคงขี่มอไซมาหาลูกเมียที่บ้านย่า แล้วขึ้นมาหาลูกเมียข้างบนบ้านไม่ได้ เลยโมโหลากโต๊ะ ลากเก้าอี้ พอน้องลงไปจัดการ น้าเขยเลยตะโกนว่า ก รู ไ ม่ ไ ป แต่จะอย่างไรก็แล้วแต่สุดท้ายน้าเขยก็ขี่มอไซคันที่แกขี่ตกแหวแว๊นออกมาจากบ้านจนได้
ทุกวันนี้เราระลึกถึงญาติที่เสียไปทุกครั้ง ทำบุญตักบาตรกรวดน้ำเสมอ ที่มาเล่าไม่ได้ลบหลู่นะคะ ยังรักเคารพและคิดถึงตลอดเวลาค่ะ
จบ.
ตอนต่อไป อยู่ด้วยรักและผูกพัน ตอน5
หากท่านพลาด
อยู่ด้วยรักและผูกพันตอน1
,อยู่ด้วยรักและผูกพันตอน2
,อยู่ด้วยรักและผูกพันตอน3
เรื่องจากพันทิป อยู่ด้วยรักและผูกพัน4 (น้ากับน้าเขยกลับมาบ้าน)
เรื่องโดย TharaJF
Post a Comment