เรื่องเร้นลับ จากเรื่องจริง (ตอนที่ 7 ตอน อดีตที่รอการพิสูจน์ผลกรรม)
ซีรีย์ "เรื่องเร้นลับ จากเรื่องจริง" จากสมาชิกพันทิปนาม Balletbonne จาก "ตอนที่ 1 ตอน เริ่มต้น" , "ตอนที่ 2 ตอน เด็กชายผู้หวังดี","ตอนที่ 3 ตอน ชายแปลกหน้า" , "ตอนที่ 4 ตอน พ่อและลูกผู้ค้นหา" , "ตอนที่ 5 ตอน รถไฟแห่งวิญญาณ" และ "ตอนที่ 6 ตอน ย้อนรอยอดีตพินิจกรรม" ดำเนินจนมาถึง ตอนที่ 7 ตอน อดีตที่รอการพิสูจน์ผลกรรม และโปรดติดตามต่อไปของซีรีย์ "เรื่องเร้นลับ จากเรื่องจริง" ขอขอบคุณประสบการณ์สยอง ไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ความเดิมตอนที่แล้ว ---> และแล้วเราก็ต้องกลับมาเจอกัน แต่เคยบอกแล้วเราอยู่คนละที่ จะกลับมาอีกทำไม กลับมาก็ตายเปล่า รีบหนีไปยังมีเวลา บุญน้องยังคงบังเขาอยู่รีบหนีไป ออกไปนอกห้องวิ่งไปตรงระเบียงแล้วกระโดดได้เลย " ผมก็กำลังจะทำตาม แต่พอยื้อตัวเองขึ้นมา ทันใด้นั้นก็มีผู้ชาย แต่ครั้งนี้ มากัน 4 คนยืนดักอยู่ที่ประตู
---> เสนอเรื่องจริงตอน อดีตที่รอการพิสูจน์ผลกรรม
ทุกครั้งที่นอนหลับ คิดเสมอว่าตื่นมาจะเจออะไรอีกไหม นี่แหละคือกรรมที่ส่งผลให้เราต้องสู้ชีวิตอีกหนึ่งทาง ชีวิตผมก็เรื่อยๆครับอนาคตก็อยากจะมีบ้านมีรถ มีเงินทอง มีสุขภาพที่ดี มีครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา จริงไหมครับ
ในวันที่ร้อนอบอ้าวเป็นวันที่ผมกำลังจะกลับบ้าน ไปตจว. เราก็นะเตรียมเก็บของ สัมภาระต่างๆมากมายพอเก็บเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินไปเปิดตู้เย็นดื่มน้ำสักอึก แต่แล้วผมก็ได้กลิ่นเหมือนน้ำอบไทย กับกลิ่นห้องน้ำเหม็นมากปนกัน ผมจึงไปกดชักโครก กดแล้วก็ไม่หายเลยปิดประตูห้องน้ำไว้ ผมก็เคลิ้มๆอีกครั้งนะครับ ซึ่งผมไม่ได้เอะใจนะว่ากลิ่นน้ำอบมาจากไหนเพราะผมชอบใช้ถูตัวตอนนอน (แต่ในทางกลับกันเป็นกลิ่นแตกต่างจากเดิมมาก) สักพักก็เคลิ้มนะครับ สะลึมสะลือ ได้ยินเสียงแปลกๆ หันซ้ายหันขวา ตาก้ไม่เปิดครับจนไม่รู้สึกตัว และตืนขึ้นมาอีก ที ตัวเองก็อยู่ที่บ้านหลังนั้นอีกแล้ว บ้านไม้หลังเก่า ซึ่งพอจะเดาออกว่าต้องมีอะไรอีกแน่ ผมเดินเหลี่ยวซ้ายแลขวาไม่มีใคร มีแต่ชายชุดขาวน่าจะถือศีลยืนอยู่ใต้ถุนบ้าน พร้อมกับทักทายผม "จิตคุณนำคุณกลับมาอีกแล้ว เวลานี้ยังมีเวลากลับไปที่ของตัวเอง แล้วลืมที่นีซะอย่ากลับมาอีก" ผมก็งง ถามว่าคุณเป็นใครเขาก็ไม่ตอบ เขาตอบอีกทีแค่ว่า ให้ระวังคนไกล้ตัว ระวังของสำคัญ ต้องเก็บมันไว้เหลืออีกแค่ปีเดียว ความแค้นก็จะสิ้นสุดแล้ว อย่าไว้ใจใครเด็ดขาด
สิ้นคำพูดผมก็งงนะครับแต่ไม่ได้คิดอะไร ผมก็เดินไปตามทางซึ่งผมเดินสำรวจไปทั่วเลย ไม่มีใครผมก็เดินไปที่บ่อน้ำก็เงียบเลยเดินไปทางเดิม หาทางกลับบ้าน จากนั้นผมก็ตื่นผมคิดเสมอว่า ทำไมเรายังไปที่นั่นอีกหรือเรายังมีกรรมที่ไม่ได้ชดใช้ ตกเย็นผมเดินทางไปขึ้นรถไฟมุ่งหน้าสู่บ้านเกิด เล่าให้แม่ฟังแม่ก็เหมือนเดิม พาผมไปทำบุญต่างๆนาๆ แต่แม่ผมจะเป็นคนที่เข้าใจกฎธรรมชาติเสมอ แม่บอกว่าจำไว้นะ ทำบุญล้างบาปไม่ได้แต่ช่วยให้บรรเทาบาปได้ถ้าเราคิดให้เขาด้วยใจ และไม่ติดใจจองเวรกลับไปอีก ..ผมก็ไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้วทำกรรมมาก็ต้องใช้เขาก็ตามเรื่อง พอค่ำๆหน่อยแม่พาไปบ้านตาคนหนึ่งซึ่งถ้าเรียกตรงๆก็น่าจะเป็นหมอผี ตามเรื่องแหละครับ ผมก็ไหว้เขาตามประสาลูกหลาน แต่ตาเขาทักผมด้วยคำแรกว่า อีกไม่นานเรื่องไม่ดีก็จะจบแล้วไหนมาให้ตาดูหน่อย "น่าน ว่าแล้ว วิญญาณแรงมาก คงจะไม่ให้อภัยกันพรุ่งนี้ให้แม่มีงเอาไก่นึ่งมา เอาดอกบัวสีขาว เอาดอกรักสีขาวและเอาผ้าขาวม้ามาผืนหนึ่งด้วย" รีบมาตั้งแต่เช้านะ ----> เช้าวันไหม่ผมก็ตื่นเต้นมาก เราก็นั่งดูคุณตาคนนั้นทำพิธี จากนั้นตาเขาก็ล้มลงไปแล้วลุกขึ้นมาพร้อมกับเรียกผม ต้องคืนมา ของของกูต้องเอามาคืน ไปเอาอะไรเขามาหรือเปล่า เคยหยิบอะไรจากหลุมศพหรือสุสานไหม ผมก็บอกว่าไม่เคย แล้วลูกเคยไปแช่งใครไหม ผมก็ตอบแค่พูดหยาบยังคิดมากเลยคับลุง -ถ้างั้นคงเป็นกรรมเก่า เขาไม่ยอมปล่อย เราไปแก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของภพที่แล้ว เอาอย่างนี้ ตาจะลองคุยให้ว่าเขาจะเอาอย่างไร ตานั่งสมาธิ, สักครู่ตาก็ลืมตาแล้วบอกว่าเขาจะเอาของคืนเขาเคยคุยกับลูกแล้วใช่ไหม ผมก็บอกว่าใช่ ตอนนี้มีวิญญาณตามมาทวง 4 ตน และวิญญาณผู้ดูแลอดีตอีก1 วิญญาณติดค้างคำสาบานอีก 1 ลูกต้องไปถอนคำสาบานก่อนเพราะตามองหน้าเขาแล้วเขาเศร้า เขารอ เขาไม่ต้องการอะไร วิญญาณ4ตน ให้รอวันที่เขาหลุดพ้นคงไม่เกินอีกปี แต่ระหว่างนี้รักษาตัวเอง ส่วนผู้ดูแล ช่วงนี้เขาบำเพ็ญศีลเขาจะไม่ออกมาถ้าลูกไม่ลำบากจริงๆ ทั้งปวงแก้ไขได้แค่คำสาบาน ที่เหลือรอเวลา แต่ตาดูผลกรรมแล้วไม่กระทบอะไรมากผีพวกนี้เป็นแค่ผีที่ได้จากแรงอาฆาต เราทำให้เขาสบายใจเขาก็จะอ่อนแรงลง ลูกต้องหมั่นทำบุญ ถือศีล บ่อยๆแล้วจะดีขึ้น ในเรื่องสถานที่ที่เป็นแรงเสริมห้ามเข้าไกล้ มี บ่อน้ำเก่าๆ ทุกชนิดและบ้านไทยโบราณเก่าทุกที่ห้ามเข้าไปคนเดียวเด็ดขาด
คุณตาพูดจบแล้วเราก็ไปทำพิธีแก้คำสาบาน ครับเป็นตอนที่น่ากลัวมาก ระหว่างทำพิธี ตาร้องไห้ตลอด ผมก็นั่งไหว้ข้างๆไม่กล้าเข้าใกล้ ร้องไห้นานมาก สักพัก เขาก็หันหน้ามาพร้อมกับคำว่า "เราจะตามลูกไปแล้วนะเราจะไปดูแลลูก เราจะไม่กลับมาหาชุอีกแล้วนะ" พอพูดจบเขาก็เงียบไป และตาก็บอกว่าเขามีบุญแต่ติดกรรมที่มีต่อกัน เขาไปดีแล้วไม่ต้องห่วง ผมกับแม่ก็กลับบ้าน ระหว่างทางผมได้ยินเสียงคนกระซิบว่า "ระวังตัว" ผมกก็หันไปซ้ายขวาไม่มีใคร เราก็เดินไปเรื่อยๆพอถึงบ้านก็โทรหาเพื่อนอีกคนหนึ่ง พอดีเขาต้องการยืมห้องผมประมาณว่า ตัวเองพักอยู่กับพ่อแม่ไม่สะดวกเลยพาแฟนมายืมพื้นที่ห้องผม ผมก็ถามไปเรื่อยคับ สักพักเขาก็กลับผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร แล้ววันรุ่งขึ้นเขาก็ขอเลขที่บัญชีของผมแล้วโอนเงินที่เคยยืมผมมา 5000 ให้โดยที่ปกติใจผมคิดตลอดว่าคงไม่ได้ แต่ก็ดีใจนะครับ เย็นวันนั้นก็กลับกทม พอไปถึงห้อง เอ้ะแปลกใจตู้เก็บของผมไม่ได้เปิดคาไว้ พระเจ้าที่แย่กว่านั้น พระผมหาย แหวนทองที่แม่ให้ก็หาย ผมตกใจมาก ผมโทรไปถามเขาก็บอกไม่รู้เรื่องเลย ผมเสียใจมากกับกระทำที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ ผมก็พยายามหาพระแต่ก็ไม่เจอ วันนั้นเพลียมากกลับมาจากไปดูหนังพอกำลังเคลิ้มหลับชายแก่ คนนึงนั่งหันหลังให้ผมที่ปลายเตียง พูดกับผมด้วย บอกว่า "หาของไม่เจอใช่ไหม ไม่เป็นไร กลับไปหาแม่ของลูกนะ แล้วขอหวายที่ซ่อนไว้ใต้เตียงไม้ ยังพอจะช่วยให้ลูกปลอดภัย พ่อไปก่อนนะ" พอเขาไปผมตื่นโทรไปถามแม่ว่าที่เตียงเรามีไม้หวายไหม แม่บอกมีนะ เอามาจากไหนไม่รู้จำไม่ได้ ผมก็บอกให้เก็บไว้ แม่ก็แปลกใจแต่ไม่ถามต่อ จนผ่านไปปีกว่าเรื่องราวก็เงียบลงและผมก็เลย ใช้เวลานี้ทำบุญอุทิศส่วนกุศล ให้เขา พยามนึกในใจเสมอ ว่าเรายินดีคืนให้แค่คุณบอกเราต้องทำไงเราพร้อมคืนให้ทุกอย่างเพราะเราไม่ต้องการอะไรแล้ว ให้บอกเราได้ ครับ จนเวลาผ่านไปช่วงนี้ผมมีความสุขมากๆ เรียนก็ดีมีความสุข แต่ที่ไม่มีความสุขคือ คืนแห่งบทสรุป ที่จะเป็นจุดจบของความแค้นและความต้องการในอตดีที่ผมพบเจอมานี้ เนื้อหาเรื่องจริงจะเป็นอย่างไร ติดตามตอนต่อไป........
(พบกับเรื่องจริงตอนต่อไป "ตอนที่8 ตอน บทสรุปของอดีต")
เรื่องจากพันทิป เรื่องเร้นลับ จากเรื่องจริง (ตอนที่ 6 ตอน ย้อนรอยอดีตพินิจกรรม)
เรื่องโดย โดยสมาชิกพันทิปนาม Balletbonne
Post a Comment